แนะนำการใช้งานโปรแกรม javinizer และ jellyfin

[saberlight]

จะมาแนะนำ 2 โปรแกรมที่ใช้ก็คือ javinizer และ jellyfin

ไม่แน่ใจว่าในนี้มีใครเคยใช้งานสอง program นี้แล้วหรือยัง
แต่อยากจะมา share และเก็บวิธีการใช้งาน เผื่อลืมจะได้กลับมาดูว่าใช้งานอย่างไร
และยังมีการใช้งานส่วนอื่นที่บางครั้งยังไม่เข้าใจเผื่อเพื่อนๆท่านใด เคยใช้จะได้ช่วยๆกัน
เมื่อใช้งาน 2 โปรแกรม แล้วทำให้ชีวิตในการเก็บหนังเลือกหนังและดูหนังจะง่ายขึ้น

[saberlight]

จอง1... การติดตั้ง javinizer

ref: คู่มือภาษาอังกฤษ https://docs.jvlflame.net/

** ไว้กลับมาเขียนขอเวลาลงเครื่องใหม่จะทำ สรุปภาษาไทยวิธีการติดตั้งให้อีกที

[saberlight]

จอง2... วิธีการติดตั้ง jellyfin และใช้งาน




การใช้งาน ตัว jellyfin เมื่อ login เข้ามาแล้ว ให้ไปที่  Settings-> Dashboard




จากนั้นเลือก Libraries
กดปุ่ม Scan All Libraries  สำหรับการค้นหา หนังใหม่ๆที่ใส่ลงไปใน folder มันจะทำการ index ข้อมุลของหนังจะได้ดู/ค้นหาผ่าน jellyfin


แต่ถ้าเข้ามาครั้งแรกให้กด ที่ Add Media Library และกดเลือก folder หนังของเรา และตั้งชื่อ Library ให้เรียบร้อย ** ควรเป็น folder ที่ ผ่านการทำ javinizer แล้วมันจะได้ข้อมูล รูป นักแสดง ปกหนัง ที่สามารถค้นหาได้

รอซักพักเมื่อ jellyfin ทำการ add media เสร็จก็จะสามารถใช้งานได้เลย

[saberlight]

การใช้งาน Jellyfin จะใช้งานได้ง่ายเหมือนกับ netflix

เลือกหนัง เลือกนักแสดง หรือว่า search ตาม รหัสหนัง, ชื่อนักแสดง

ลองไปดู demo ของ program ได้ ที่

https://demo.jellyfin.org/stable/web/index.html

[saberlight]

*** จอง ****

การใช้งานทั่วไปของ javinizer


เมื่อติดตัว javinizer เสร็จแล้วจะลองเรียกผ่านทาง power shell 7


ด้วยคำสั่ง
 
javinizer -Version




จะแสดงเลข version ของ javinizer ของเราในเครื่อง แปลว่ามันพร้อมใช้งานแล้ว

จากนั้นเรียกคำสั่ง

javinizer -OpenGUI






จากนั้นไปที่หน้า Settings


ข้อมูลในหน้า settings จะเยอะมากๆ จะมาอธิบายเพิ่มภายหลัง
แต่สิ่งที่อยากจะให้สนใจก็คือ หัวข้อ
Locations & Persistent Settings Files
ให้ใส่ค่า location.input เป็น folder ต้นทางที่จะทำงาน
location.output เป็น folder ปลายทางเมื่อใช้งาน javinizer จะส่ง file ไปเก็บยัง folder ปลายทาง ** อันนี้สำคัญมาก

จากนั้นกด APPLY  และกับไปยัง Power Shell 7
และใช้คำสั่ง

Javinizer .\WAAA-149.mp4

หรือถ้าจะทำงานทั้ง folder ก็ใช้คำสั่งแค่

Javinizer

มันก็จะไปทำงานที่ folder input และ ค้นหาหนัง ข้อมูล ไปเก็บยัง folder output ตามที่ settings เอาไว้



เมื่อไปดูที่ folder output


จะมี รูปภาพปก ภาพประกอบ และข้อมูลหนัง ที่เป็น WAAA-149.nfo
และชื่อ path / folder อันยาวเหยียด ที่สามารถ ปรับเปลี่ยนได้หมดจากหน้า settings

[saberlight]

*** จอง ****

การใช้งาน javinizer กับ web  mgstage.com

รหัสหนังจำพวก
ตัวเลขตัวอักษรตัวเลข เช่น 300MAAN750 หรือ 200GANA1414 หรือ
และรหัสหนังจำพวก SIRO-xxxx มักจะอยู่ใน เวบ mgstage.com ซึงตัว javinizer ก็สามารถทำงานได้เหมือนกัน
แต่ต้องไปเลือก settings เป็น

แต่ขอเสียของเวบนี้คือ มันเป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่รู้เรื่องเลย และนักแสดงมักจะใช้ชื่อปลอม ไม่ link นักแสดงไปยัง
รหัสหนังปกติ ตอนนี้ก็ใช้วิธี ค่อยๆแก้ๆไปทีละเรื่องสองเรื่อง และถ้ารู้ว่าเป็นนักแสดงคนไหน ก็จะไปแก้ที่ file .nfo
อาศัย file .nfo อันอื่นมาแกะอ่านแล้ว ก็ใส่ format ให้เหมือนกับเรื่องอื่นๆ

[saberlight]

*** จอง ****
การใช้งาน javinizer กับ web  tokyo-hot.com

[saberlight]

*** จอง ****


การแก้ไข info ของหนัง เมื่อเปิดหนังด้วยโปรแกรม Jellyfin จะมีรายละเอียดของหนัง


แล้วอยากเพิ่ม Category (Genres) ของหนังสามารถทำได้ 2 วิธีคือ
1. ไปแก้ไข ที่ file .nfo โดยตรง (ผมใช้อันนี้)
ข้อดีคือ อิสระ เพราะว่าเป็นการแก้ไข info โดยตรงถ้ายก folder หนังไปที่อื่น การแก้ไขนี้ก็ติดไปด้วย
ข้อเสียคือต้องยุ่งยากไปตามหา file และแก้ไขให้ format ตรงแบบเดียวกับ file (xml)




2. แก้ไขได้จาก ... เลือก more -> Edit metadata
ข้อดีคือง่าย สะดวก มันเป็นการแก้ไขที่ jellyfin
ข้อเสียคือ มันเป็นข้อมูลของ jellyfin ถ้าย้ายเครื่องต้อง backup ข้อมูลตรงนี้ด้วย (ซึ่งผมก็ยังทำไม่เป็น)

[saberlight]

*** จอง ****

การใช้งานอื่นๆ ของ javinizer

[maload ผํ้ต้องการรับจ้างทำซับหนัง]

มันสร้างเเท็กที่เป็นภาษาไทยได้ไหม ของพวกนี้นะ  บางที wife  ก็ไม่เเซ่บเท่าใช้ว่าคำว่า เมีย หรือน้องเมีย เเม่ยาย