เสก โลโซ ในฐานะ Public Figure สมควรได้รับคำชมหรือคำด่า

[sompoat]

จากเรื่องราวฉาวล่าสุดที่เกิด จนเป็นกรณีใหญ่โต ถึงขั้นแกรมมี่ต้นสังกัดประกาศระงับการโปรโมทงานชิ้นล่าสุด และระงับทุกโปรเจคต์ในสังกัดที่เสก โลโซมีเอี่ยว (น่าจะเล่นตามน้ำมากกว่า เพราะค่ายนี้ไม่สนข่าวคาวเด็กในสังกัดเท่าไหร่ สนแค่ว่าจะปี๊มเงินให้ได้มากน้อยแค่ไหน)

ส่วนพี่เสกเอง ก็ตระเวนโปรโมทผลงานแบบทัวร์คอนเสิร์ต และอาศัยเวทีต่างๆ แอบต่าอดีตภรรยา (เป็นพฤติกรรมที่แมนมากๆ) สร้างกระแสความชอบธรรมให้ตนเอง .....

หรือว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดกับร็อคเกอร์ท่านนี้ .....

สิบกว่าปีก่อน ร็อคเกอร์แนวคันทรี่ผู้น้องแห่งเมืองเลย ผู้นิยมการตระเวณราตรี (ผมเคยไปเจอแกหนนึงที่ Blue jazz นานมากแล้ว ตอนนั้นเหมือนแกไปคั่วบาร์เทนดี้อยู่ แต่น้องแกมีผัวแล้ว ก็เลยเมาจนเป๋ ต้องเรียกแท้กซี่ให้) ไปพบวงทรีโอวงนึงในผับแห่งนึง ด้วยความประทับใจในลีลาของนักร้องนำมือกีตาร์ บวกกับพอถามไถ่ได้ความว่ามาจากพิมาย ดินอดนที่ราบสูง้หมือนกัน ก็เลยยิ่งดีใหญ่ พาไปออดิชั่นกับแผงใหญ่ของแกรมมี่ ที่มีกริช ทอมัส โอม ชาตรี รวมทั้งพี่ป้อมและตัวเองด้วย

ทั้งหมดประทับใจในฝีไม้ลายมือเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อหนุ่มจากพิมายบอกว่ามีเพลงที่แต่งเองอยู่แล้วด้วย เลยยิ่งได้ใจมากขึ้นอีก

ไม่นาน ผลงานเพลงในนาม โลโซ ก็ออกวางแผง แนวดนตรีร็อคคุ้นหูถ้อยคำทำนองที่กระทบใจเป็นอย่างยิ่ง บวกกับเสียงร้องกระชากใจของนักร้รองนำ แม้ต้องใช้เวลาพอสมควร (แกรมมี่วางแผนโปรโมทผอดกลุ่มไปหน่อยดันไปเน้นคนในเมือง) แต่ในตลาดวงกว้างโลโซนับว่าโดนใจขาร็อคทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง

จากนั้น ตำนานก็บังเกิด หลายอัลบั้มติดตลาด ยอดขายกระจุย คิวคอนเสิร์ตแน่นเอี๊ยด ...... จนวันนึงมาถึง
เมื่อชื่อเสียง เงินทองวิ่งเข้ามาทางประตู ความรักที่เคยกัดก้อนเกลือกิน ก็ต้องโบยบินออกทางหน้าต่าง

ความเป็นร็อคเกอร์เข้าเส้น วิญญาณศิลปินร็อคจากฝั่งตะวันตกเข้าสิงแบบลึกซึ้ง จนถึงขั้น กูเก่งคนเดียว ที่เหลือไม่มีส่วนเลย (ซึ่งก็จริง เพราะขณะนั้นผลงานทั้งหมดมาจากสมองเสกล้วน ทั้งๆ ที่ตอนแรกไม่เป็นโน๊ต) คำว่า วงโลโซ ก็เลยต้องแตกกันไป แถมมีคดีความต่อท้ายด้วยว่า ห้ามนำคำว่า "โลโซ" ไปหาหกินเด็ดขาด กูใช้ได้คนเดียว (ปีที่แล้วไปพบอดีตเพื่อนสนิทเสกที่เคยกินมาม่าด้วยกันสมัยอยู่ผับจนรุ่งในปีกแกรมมี่ แต่เดี๋ยวนี้ทั้งสองเป็นแค่นักดนตรีแบ็คอัพในคลับเล็กๆ แถวนานา เหลือเชื่อมากๆ นับเป็นสัจธรรมจริงๆ)

ยังไม่พอครับ ร็อคเกอร์มันต้องเพียบไปด้วยหญิงและยา ซึ่งมันก็สะท้อนตัวตนของศิลปินใหญ่ออกมาได้ชัดเจนมาก ครั้งเมื่อไปโดดถีบกันกับน้อยบนเวทีโชว์ที่เป็นข่าวดังไปทั่ว

แต่งานของเสกก็ยังมีขาร็อคติดตามอย่างเหนียวแน่น ชนิดที่ไม่ต้องออกแรงดันมากเหมือนศิลปินเบอร์อื่น ก็เลยเปิดมุ้งเล็กให้ไปดูแลงานเองเลย ตามแบบฉบับแกรมมี่ที่ทำกับมอร์มิวสิคหรืออื่นๆ มาก่อน

ว่ากันว่า เสกน่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยล้านจากผลงานที่ทำกับแกรมมี่ เท็จจริงยังไงไม่รู้ แต่จากการถูกฟ้องแบ่งสินสมรส 70 ล้านบวกกับท่าทีกราดเกรี้ยวเมื่อต้องแบ่งเงินให้อดีตภรรยาและลูกๆ น่าจะยืนยันได้ระดับนึง (ทีเป็นข่าวว่ายังเบี้ยวไม่ยอมจ่ายให้ บ้านก็ไม่ยอมให้อยู่ สงสัยเดี๋ยวเจอหมายบังคับคดีของศาลแน่เลย)

แล้วเสก โลโซนี่แมนขนาดนั้นเลยเหรอ ......

ไม่รู้ครับ ต้องดูกันที่การกระทำมากกว่า แต่จากการพิจารณาคำร้องของศาลก็ยืนยันได้ว่าเสกทอดทิ้งอดีตภรรยาและลูกๆ โดยมีหลักฐานยืนยันได้จริง ศาลจึงมีคำสั่งออกมาเช่นนั้น

แต่ความที่เสกเป็นคนเจ้าคารม พูดเก่ง ก็เลยอาศัยจังหวะขึ้นเวทีพยายามสร้างกระแสความชอบธรรมให้ตนเอง แต่ก็ขัดกับการกระทำลิบลับ

--------------

ส่วนตัวแล้ว ผมชอบงานสมัยแรกๆ ของเสก งานดีมาก แต่ความที่ภูมิรู้จำกัด ทักษะก็จำกัดด้วย อีกทั้งไม่พยายามขวนขวาย งานหลังๆ มาก็ย้ำแต่แนวเดิมๆ จนรู้สึกว่าเค้าเขียนอย่างอื่นไม่เป็น

ถ้าลองเทียบกับลูกพี่ 2 พี่น้องจะเห็นว่าต่างกันมาก ในขณะที่อัสนี (ถ้าทำได้) ออกแนว Progressive Rock แน่นอน (เคยทำไม่ใช่ไม่เคย ผมเคยไปดูแกเล่นกับ Triangle lake ที่โรงละครแห่งชาติ ก็พอรับได้อยู่ แต่สมัยนั้น มันยังไม่ใช่ คนไปน้อยมาก) วสันต์ก็ออกแนว Country สบายๆ แต่ทั้งสองคนนี่พื้นฐานมาจาก Folk Rock ที่มีดนตรีอีสานซึมซับอยู่

สองพี่น้องตัดสินอนาคตตัวเองในวันมอบตัวเข้าเรียนต่อมัธยมด้วยการหอบผ้าหนีออกจากบ้านเพื่อขึ้น บขส.เข้ากรุงเทพ จนพ่อต้องออกมาตาม(ท่านเป็นข้าราชการกรมที่ดินครับ สมถะมาก)  ....

[sompoat]

ยื้อยุดกันพักนึง แต่สองพี่น้องยืนกรานว่ายังไงก็ต้องไป พ่อก็ต้องยอม

สองพี่น้องเข้ากรุงเพื่อร่วมประกวดโฟล์คซองพระราชทางครั้งแรกของประเทศไทยครับ ชนะเลิศด้วย ได้ไปออกทีวีรายการของผู้พันการุณสมัยนั้น ซึ่งถือว่าฮิปสุดสุด ...

ได้รางวัลแล้วไงต่อล่ะ .....

หนทางสมัยนั้น ไปได้อย่างเดียวครับ คือลงไนท์คลับ แต่ในกรุง ไม่มีงานแบบที่สองพี่น้องถนัดเท่าไหร่นัก ก็เลยต้องออกไปตามแค้มป์ทหาร (ตรงนี้แหละที่สร้างนักดนตรีมือฉกาจหลายคนเลย) หลักๆ ก็มีอู่ตะเภา โคราชและอุดร ที่สมัยนั้นจีไอย่ำกันจนพรุน

ตรงนี้เองที่สองพี่น้องต่างจากเสก พวกเค้าซึมซับเอาเพลงต่างๆ ที่บรรดาจีไอเอาแผ่นมาให้แกะให้เล่น วันนึงต้องนั่งแกะเพลงกัน 6-8 ชั่วโมง ผสานกับฝีมือเดิมขึ้นเทพ สองพี่น้องจึงพัฒนาแนวทางดนตรีที่ตนเองชอบและถนัด (ถ้าสังเกตเพลงในงานของสองพี่น้องจะเห็นรูปแบบชัดมาก คือมีเพลงจิ๊กโก๋อกหัก อันนี้ ค่ายขอร้องมาว่าต้องมี เพลงขาแด้นซ์ เพลงคันทรี่เบา คันทรี่หยัก อันนี้ของคนน้อง มีเมโลดิกร็อค มีโปรเกรสสีฟ ของคนพี่ที่ไปขุดกรุสมัยทำภาคีวัดอรุณร่วมกับเต๋อ กับดนู มาทำให่ จนติดกันทั้งเมือง)

[sompoat]

สองพี่น้องตระเวนยตามแค้มป์ ตามคลับอยู่นานหลายปี จนไปอัสนีสดุดหูมือคีย์บอร์ดวงโอเรียนเต็ลฟั๊งค์เข้า ที่ว่ากันว่าเสียงแหบสุดสุดปานร็อด สจ๊วตเลย เคยเดินเข้ามณเฑียรคลับ แล้วไฟปิดอยู่ แกเล่นเพลง Sailling จนฝรั่งนึกว่าร็อดมาเองเลย พี่ชายที่แสนดีอดีตดิอิม (จบเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ไปทัวร์ยุโรป เล่นตามคลับจนได้ลูกได้เมียมาแล้ว ขอบอกว่าลูกสาวที่เป็นลูกครึ่งสวยมาก) เลยชวนมาเข้าวง อันเป็นจุดผกผันให้ไปรู้จักกับดนู ทีมบัตเตอร์ฟลาย และกลายเป็นตำนานของร็อครุ่นใหญ่ในบ้านเราต่อมา

แล้วเสกผิดเหรอที่ยังเล่นดนตรีแนวเดิมๆ เหมือนที่เคยประสบความสำเร็จ ...

ไม่ผิดครับ แต่ลองไปถามไอ้เลียม กัลลาเกอร์ของวงที่ประกาศตัวเองว่ายิ่งใหญ่กว่า Beatles สิครับว่า ตอนนี้ทำอะไรอยู่ Oasis เป็นอดีตไปแล้วครับ มาแนวเดียวกันเลย

ทีนี้มันได้แค่คนฟังกล่มที่เติบโตใหม่ ส่วนกลุ่มเดิมพอเค้าโตขึ้นก็จะค่อยๆ หายไป หายไป
แต่ถ้าทำแบบคาราบาว แบบอัสนีวสันต์ แบบ Beatles  คือ Educate คนฟังไปด้วย ดตไปด้วยกัน เรียนรู้ไปด้วยกัน
มันจะได้แฟนเพลงทั้งสองกลุ่ม ทั้งเก่าและใหม่

ลองไปดูงานดนตรีอัสนีวสันต์สิครับ มีตั้งแต่ 5 ขวบไปยัน 60 เลยที่เข้ามาฟัง

เสกคงต้องไปดู Ego ตัวเองใหม่แล้วหล่ะ ว่ามันใช่ไหม

แต่แบบที่เป็นอยู่นี่ แถวบ้านผมเรียกกันว่า วัวลืมตีนครับ

ได้ดีแล้วทิ้งลูกทิ้งเมีย ทิ้งเพื่อน (อันนี้แสบมาก) ..... ผมอยากรู้เหมือนกันว่า ตอนอายุ 50 เสกจะยังคงสถานะร็อคเกอร์แบบนี้ได้ไหม

จะมีใครเป็นสปอนเซอร์ให้ไป World Tour หรือไม่
จะเปิดกว้างรับแนวทางดนตรีใหม่ๆ หรือมีวัตถุดิบใหม่ๆ มาทำผลงานหรือไม่ (ส่วนตัวเชื่อว่ายาก คงไม่มีแล้ว อาศัยใบบุญเก่า)

แต่ยอมรับว่า ภาพแกพี้บ้องนี่ น่าให้เยาวชนเอาอย่างมากจริงๆ .....

[sompoat]

แต่ก็มีคนติงมาว่า เคยเห็นเค้าแถลงข่าวนี่ ช่วงมีปัญหาฟ้องร้องกัน ว่าเดินทางไปเรียนด้านดนตรีที่เมกา ไง .....

ก็คงไปเที่ยวมากกว่าแหละ เพราะไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง

เสกลืมไปอย่างนึงครับว่าอยู่ในสังคมแบบไทย ที่นี่ไม่ใช่เมกา ที่ที่คนสามารถสร้าง American Dream แล้วยิ่งใหญ่ได้ โดยไม่ต้องพึ่งคนอื่น

แต่ตั้งแต่เสกเป็นข่าว ผมยังไม่เห็นใครออกมาปกป้องเสกเลย ไม่มีเลย
คิดว่าเสกน่าจะติดค้างบุญคุณใครไหม คิดว่าเสกน่าจะมีใครค้ำหัวเค้าไว้หรือเปล่า

คำตอบคือมีแน่ ลองไปถามพี่ป้อมพี่โต๊ะดูดิ ...... แต่แกจะตอบว่าไงก็อีกเรื่องนะครับ

บางคนบอกว่า เฮ้ย ธรรมดาของศิลปิน ของร็อคเกอร์มันก็ต้องมีบ้างเรื่องเหล้าเรื่องยา เรื่องหญิง
ก็จริงครับ แต่คนเหล่านี้มีปัญหาแบบนั้นไหม
น้าแอ๊ด คาราบาว (ทราบกันดีเรื่องหน้าหม้อ ปี้ดะ แต่ก็ไม่เคยฉาว)
น้าป้อม อัสนี (ฉาวเรื่องเดียวแหละ ตอนโดนน้าต่ายเพ็ญพักตร์เก็บไปสอนโน๊ตกันพักนึง)
น้าแหลม (นอกจากลูกสาวสวยแล้ว ยังไม่มีอะไรผิดปกติหรือเป็นข่าว)
(อ้อ มีท่านนึง น้าชัคกี้ครับ หลงพี้จนไปไหนแล้วไม่รู้)

แต่นัยนึง เสกน่าจะชอบข่าวแบบนี้ เพราะมักออกมาช่วงวา่งผลงานใหม่พอดีเลย

[sompoat]

แบบพี่เสกนี่ เราเจอกันมาเยอะแล้วครับ ประมาณดังแล้วลืมไปหมด ความจำไม่ค่อยดี จำไม่ได้ว่ามีลูกเมียรออยู่ หรือจำไม่ได้ว่าเคยเล่นในผับซอมซ่อย่านหัวหมากมาก่อน ......

แต่งานนี้อาจยาวก็ได้ เพราะกระแสสังคมบ้านเรา + Social media ทั้งหลาย น่าจะดันข่าวไปได้อีกยาว ยิ่งท่านเสกมีท่าทีกร้าวแบบนี้ งานนี้ต้องบอกว่า รอดยากครับ เพราะทั้งอากู๋ เจ๊บุษบา เฮียกริช ออกมาให้ข่าวชัดเจนแล้ว ต้องมาคุย ไม่งั้นไปหาค่ายใหม่อยู่แน่นอน เพราะผิดสัญญาเต็มๆ ....

ต้องตามดูกันล่ะครับ งานนี้ ....

ส่วนตัวผมแล้ว ยังชอบฟังงานแรกๆ ของพี่เสกอยู่นะครับ แต่ถ้าถามถึงเรื่องนิสัยส่วนตัวแล้ว ผมว่าคนที่ปฏิเสธครอบครัวตัวเองนี่ คบไม่ได้ครับ ....

[rafaelo]

ผมว่าระยะหลังสังคมไทยมันมีแอตติจูดบ้า ๆ เกิดขึ้นเยอะ
เรื่องซ้อมเมีย, เสพยา, มีชู้ ฯลฯ  มันเป็นวัฒนธรรมร็อคเกอร์ตรงไหนหรือ?
ผมไม่เข้าใจว่าไอ้พฤติกรรมเลวทรามนี่มันช่วยจรรโลงให้มือกีต้าร์ธรรมดา ๆ กลายร็อคเกอร์ขั้นตำนานตั้งแต่เมื่อไร?

เสกน่ะมีความสามารถจริง เก่งจริง
แต่คนแบบนี้มันเป็นตำนานไม่ได้เพราะขาดคุณสมบัติของฮีโร

คนจะปกป้องก็ต้องอยู่บนหลักความจริงครับ
ไม่ใช่เทิดทูนบูชาจนไม่ลืมหูลืมตา  แบบนี้น่ากลัวครับ  เกิดนึกเกลียดขึ้นมาคงบุกไปแทงถึงบ้าน

[maload ผํ้ต้องการรับจ้างทำซับหนัง]

ดนตรีไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเลี้ยงดูครอบครัวไม่ได้ ปากเสีย นักเลง  หรือยาเสพติด

มันช่วยไม่ได้นะครับ ที่คนชอบเสพยาบางคน จะเล่นดนตรีได้   ผมไมได้ตามฟังใครเป็นพิเศษ ทั้งรายเสกโลโซ  เรื่องข่าวมีมาเยอะเเล้ว

อย่างเป้ไฮร็อกก้เหมือนกัน คือผมก็เป็นคนเล่นดนตรีเหมือนกัน เเต่ไม่คิดจะเอาอย่างใครในเรื่องที่พ่อเเม่ผมไม่ได้สอน 

[ก็ผมอร่อย]

ผมเนี่ย นิยมดนตรีร็อค ติดตามข่าวประวัติศิลปินก็พอควร

กรณีเสก ผมเห็นบางคนมาออกความเห็น แม้แต่ตัวเสกเอง ว่าเป็นเรื่องของวิถีร็อค บางคนก็บอกถึงขั้นเป็นเรื่องปกติ

ผมว่าพวกนี้ก็เหมือนพวกนักดนตรีร็อคบางส่วนที่ไม่สามารถจะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ตามปกติเหมือนที่คนๆอื่นเขาทำกัน เหมือนจะกร้าวร้าวแต่ภายในอ่อนไหว อ่อนแอ ไม่สามารถทนกระแสสังคมได้ อันนี้ไม่ได้จะดูถูก แต่ผมว่ามันเป็นอย่างนั้น

ศิลปินร็อคมักคู่กับการทำตัวขบถ ทั้งความคิด การกระทำ พวกสาวกที่เห็นว่าการกระทำต่างๆมันเจ๋ง เพราะคนเหล่านั้นก็ไม่อยากที่จะทนอยู่ในกรอบ อยากใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง มีแต่ความสุข ไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง แต่ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้างด้วยหน้าที่การงานสังคมที่ต่างกัน

แล้วคนทุกคนไม่ได้จะมาใช้วิถีร็อคกันหมด เพราะฉะนั้น ไอพฤติกรรม รุนแรง ซ้อมเมีย เมาทำลายข้าวของ แล้วมาบอกเรื่องปกติน่า ไม่รู้คิดกันไปได้ไง 

แล้วพวกที่ยังคิดว่านักดนตรีเสพย์ยาเป็นเรื่องปกติ พวกนี้เป็นพวกหลงยุค ความคิดนี้อาจจะถูกในยุค 60 70 แต่สมัยนี้ความคิดเขาพัฒนากันไปไหนต่อไหนแล้ว คนจะเสพย์ยามันไม่ได้อยู่ที่อาชีพอะไร แล้วผมว่านักสมัยนี้พึ่งยากันน้อยลงมากกว่าสมัยก่อนเยอะ พวกที่ยังต้องพึ่งอยู่อย่างที่บอก ไม่หลงยุคก็เป็นคนที่อ่อนไหว จิตใจอ่อนแอ

[terdsak]

ใน  อดีตมี  ดาราเเละนักกีฬา  หลงผิด

อาจจะติดยา หญิงหลอกเเดก     เเละ เล่นการพนัน   เงินสูญเสียไปเยอะ

อดีตเค้าผิด  จริง   ออกมายอมรับ   ออกอากาศทางทีวี

เค้าออกมายอมรับ   ให้คนได้รู้   มาสารภาพผิด

สังคมจะต้องให้อภัย  อย่างเเน่นอน  ผมเชื่อครับ

เเละในปัจจุบัน   ปรับปรุงตัวใหม่   ผมว่าดี สุดๆ 

เป็นคนดีในสังคม  นี่เเหละ ที่เค้าเรียกว่า  หลงผิด เเละปรับปรุงตัวใหม่

[yesdamon]

เสก โลโซ มันดังเหรอ มันดังตรงไหนครับ??
ผมว่า เสกโลโซ ไม่ได้ดังถึงขนาดที่วัยรุ่นทุกคนจะต้องมาเลียนแบบนะ
และมันก็ไม่ใช่ public figure ด้วย
ผมว่าสื่อ สำคัญอะไรผิดไปรึป่าว

ก่อนหน้านี้ ดนตรีเป็นยุคของแอ๊ด คาราบาว วัยรุ่นสมัยโน้น ต้องโดดเรียนกันไปดูตลอด ซึ่งสมัยนั้นไทยยังไม่มีวงร็อคเด่นๆ

ยุคต่อมา เป็นยุคอัสนี วสันต์ อันนี้ดังจริงยอมรับ เพลงสุดยอดทุกเพลง ฟังได้ทุกวัย ร้องง่าย แกะง่าย เล่นง่าย เด็กสมัยนี้ยังชอบเลย

ยุคปัจจุบัน ยุคบอดี้แสลม วัยรุ่นทุกคนชอบ ร้องเพลงได้หมด เปิดคอนเสิร์ธที่ราชมัง คนดูเหยียบ 5 แสน


แต่ ยุคเสกโลโซ ไม่เคยได้ยินครับ มันอยู่ช่วงไหน
มันก็แค่ นักร้องตามผับ คอนเสิร์ธจัดมาที คนดูไม่กี่ร้อย ต่อให้มันไปมั่วยา ปาร์ตี้เซ็กที่ไหน ก็ไม่มีใครสนใจมันหรอกครับ
ผมว่า เสกโลโซ และใครหลายคน รวมถึงสื่อโซเชียลมีเดีย สื่อบันเทิง สำคัญผิดไปรึป่าว
อย่าสำคัญคนผิดครับ อย่างเสกมันมาได้แค่นี้ก็หรูมากแล้ว เอาจริงๆแล้ว ระดับมันไม่น่าจะมาได้ถึงทุกวันนี้นะครับ
เพราะฉะนั้น อย่าไปสนใจข่าวมันมากครับ ปล่อยมันตกๆไปเหอะ คนไร้ค่า มันก็ขายไม่ได้ เดี๋ยวมันเงียบไปเอง
ยิ่งกระแสแรง มันยิ่งขายได้ กลายเป็นว่าไปสนับสนุนให้มันทำชั่วอีก