พฤษภาคม 05, 2024, 10:34:04 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: AVC เปิดเฟสและโซเชี่ยลใหม่ เพื่อนๆช่วยกดไลค์ติดตามด้วย
เวบเข้าสู่ปีที่ 15 แล้ว ท่านสามารถช่วยเหลือเวบได้โดยสมัคร VIP (ตลอดชีพ) อ่านคอมเมนท์จากผู้ใช้งานจริง ที่นี่
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิวการขลิบเมื่อนานมาแล้ว สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะเพศแบบผม...  (อ่าน 5537 ครั้ง)
ntlovemilk
ปลิงน้อย
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13


« เมื่อ: เมษายน 27, 2012, 10:23:14 AM »

สวัสดีครับ ผมไปขลิบมาได้ปีกว่าๆแล้ว ที่ต้องไปขลิบก็เพราะว่าหนังหุ้มปลายตีบครับ คือมันไม่สามารถที่จะเอาออกมาได้เลย เวลาชัก.. ก็ต้องทำทั้งๆอย่างนั้น และคิดกับตัวเองว่ามันคงจะมีปัญหาในอนาคตถ้าไม่รีบทำ ช่วงปิดเทอมก่อนขึ้นมหาลัยในปี 2554 ผมจึงรีบไปทำ แล้วก็ได้เขียนรีวิวไว้ แต่ลืมไปว่าไม่เคยเอามาลงให้คนในบอร์ดนี้อ่านเลย ยังไงลองอ่านดู แล้วติชม+แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้นะครับ


จากกันแล้วสินะPhimosis            จากอังกฤษแปลเป็นไทยได้ความหมาย

คือหนังหุ้มตีบแคบตรงส่วนปลาย        ไม่ยอมคลายต้องไปขลิบเจ็บชิบเลย

มองย้อนไปก่อนทำการไม่นานนัก       ยังคึกคักทั้งพูดจาว่าเพื่อนเอ๋ย

นายคิดว่าเราจะขลิบดีเปล่าเอ่ย         ก็หนังหุ้มไม่เคยรูดเปิดออกมา

เพื่อนบอกแล้วให้เราว่าวทุกวัน          แต่ว่ามันไม่ยอมเปิดสิเพื่อนจ๋า

คิดจะคุยกับบิดรและมารดา              ติดที่ว่าไม่กล้าเพราะขี้อาย

ไอ่เพื่อนเราก็บอกให้ไปคุยก่อน          ขืนนิ่งนอนปล่อยไว้จะชิบหาย

หากไม่ทำตอนนี้จะอันตราย              หนังหุ้มปลายเรื่องสำคัญขอฟันธง

พอกลับบ้านไปหายายและแม่          หากไม่พูดชีวีคงแย่เป็นผุยผง

อยากจะพูดออกไปอย่างมั่นคง         แต่ติดตรงไม่เคยเอ่ยวาจา

เรื่องแบบนี้ไม่กล้าที่จะพูด                 แต่ก็สูดหายลมหายใจจุดไฟกล้า

ทำบิดเบี้ยวเอี้ยวซ้ายและเอี้ยวขวา  แม่เห็นท่าถามลูกจ๋าเป็นอะไร

ได้โอกาสตอบไปไม่รีรอ                      รีบไขข้อเคลือบแคลงแถลงไข

จนหมดเปลือกไส้พุงและหมดใจ       แม่บอกสู้ต่อไปให้ขลิบมา

จากนั้นว่าจะพูดคุยกับพ่อ                 ติดอยู่ก็ไม่กล้าเข้าไปหา

ยายบอกพ่อว่าผมลำบากที่กายา    พ่อบอกว่าให้อธิบายขยายความ

พูดออกไปอาการมันเป็นอย่างนี้       มันรู้สึกไม่ดีเกินสรรหา

หนังหุ้มปลายมันตีบเกินพรรณา      พ่อให้ขึ้นรถลาไปโรงพยาบาล

ไปหาหมอเขาแนะนำถ้าปลายตีบ    อาทิตย์หน้าต้องมาขลิบให้ห้าวหาญ

อาทิตย์นี้ให้กลับไปเล่นสงกรานต์    วันอังคารที่สิบเก้าค่อยเข้ามา

แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง                    ผมจึงไปหาหมอเพื่อรักษา

นาฬิกาชี้ไปแปดโมงกว่า                  ผมเดินไปนั่งหน้าห้องผ่าตัด

เมื่อไปถึงเริ่มหวั่นในดวงจิต             กลัวคิดผิดที่มาตามหมอนัด

อารมณ์กลัวถาโถมดั่งคลื่นซัด        ที่จะอัดชีวาให้วอดวาย

ระหว่างรอได้คุยกับยายและตา      ที่จะมารักษาโรคให้หาย

ตามีหูดขึ้นที่หน้าผากซ้าย               ส่วนคุณยายจะให้หมอผ่าตาปลา

คิวที่หนึ่งคือคุณตาเข้าไปแล้ว         ลมหายใจผมเริ่มแผ่วถวิลหา

เมื่อไรจะผ่านพ้นสักทีว้า                 ความตื่นเต้นยังคาในหัวใจ

ประตูเปิดคุณตาออกมาแล้ว          ก็ไม่แคล้วโดนเรียกชื่อหายสงสัย

หันไปมองนาฬิกาโดนทันใด           เก้าโมงครึ่งแล้วไซร้ไวเหลือเกิน

พยาบาลให้ผมเปลี่ยนชุดคลุม       คลายความกลุ้มด้วยเธอบอกไม่ต้องเขิน

ไม่ต้องอายหรือกังวลไม่นานเกิน    เมื่อหายแล้วจะเหาะเหินได้สบาย

แต่ก็ยังหวาดกลัวมันท่วมท้น         หมอมีมากเสียจนน่าใจหาย

ประมาณแปดถึงเก้าคนทั้งหญิงชาย     ก็ไม่วายคิดไปสารพัด

เมื่อขึ้นเตียงหมอฉีดยาชาให้         ถ้าเป็นเด็กคงปลอบใจเหมือนมดกัด

แต่ตอนนี้รู้แจ้งเห็นได้ชัด               เหมือนมดเดินมากัดเป็นขบวน

ผ้าที่หมอปิดตาเราก็ยังอยู่           นอนหดหู่แต่ก็ไม่ร้องโหยหวน

ยาออกฤทธิ์เมื่อถึงเวลาอันควร    ชาตรงส่วนอวัยวะของเพศชาย

ได้ยินเสียงฉับฉับของกรรไกร       ที่หมอใช้เพื่อบรรลุสู่จุดหมาย

เสียงเครื่องมือไฟฟ้าที่ขลิบปลาย    ยังไม่วายแล่นเข้าหูดูน่ากลัว

ความรู้สึกตกใจที่หว่างขา             เลือดนั้นหนาไหลอาบออกมาทั่ว

ตอนนี้ยังไม่รู้สึกว่าเจ็บตัว              หากหมดฤทธิ์ยาชากลัวจะเจ็บตาย

ต่อมาเหมือนหมอเอาอะไรมาจิ้ม    อ๋อที่แท้เอาเข็มทิ่มให้เย็บได้

ด้วยสะดวกหมอจึงใช้ไหมละลาย  ถึงเวลาจะสลายและหายไป

จากนั้นหมอก็ทำความสะอาด       ไม่เช่นนั้นมันอาจติดเชื้อได้

หมอเอาผ้าก๊อซพันแผลเอาไว้        ทั้งแนะนำวิธีให้ดูแล

คือผ้าก๊อซที่พันอยู่ห้ามโดนน้ำ       เพราะเชื้อโรคจะลามแล้วจะแย่

ปัสสาวะอย่าให้เปียกต้องเทคแคร์   ให้เดินทางมาล้างแผลทุกวี่วัน

หลังจากเสร็จกิจการที่ผ่านพ้น       รู้สึกตนมันรวดเร็วเหมือนความฝัน

สี่สิบห้านาทีที่อยู่ในนั้น                    ยากจะสรรหาคำมาบรรยาย

ออกอาการที่จรวดเริ่มปวดแล้ว      พ่อแก้วแม่แก้วต้องทานยาก่อนจะสาย

มองดูคนคอยรับยาเยอะจะตาย     เจ็บจนทนไม่ไหวเอาไงดี

เลยขอหมอลัดคิวคนอื่นก่อน           บอกว่าตอนนี้ไม่ไหวมันเต็มที่

คุณหมอเลยจัดยาให้ทันที               รู้สึกดีเมื่อทานยาเข้าไป

ที่นี่เป็นโรงพยาบาลของทหาร         รักษาสิทธิข้าราชการฟรีได้

ตัวผมเป็นลูกหลายรั้วชาติไทย        จึงใช้สิทธิ์จ่ายตรงไปไม่เสียเงิน

กลับบ้านไปหมอให้วิธีทานยา          เวลายืนเวลานั่งหรือเดินเหิน

ต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่เพลิดเพลิน   กางเกงเสียดสีเกินแย่จะตาย

ตอนดึกดึกมันนึกคึกลุกขึ้นสู้            ร้องอู้หู้สะดุ้งตื่นกล้ำกลืนชิบหาย

วันแรกเจ็บแสนปวดร้าวทุรนทุราย   วันที่สองผ่อนคลายสบายดี

วันที่สามก็ดีขึ้นตามลำดับ                 วันที่สี่เจ็บอยู่ครับแต่ทนเอาพี่

หมอบอกอดเปรี้ยวไว้นี่แหละดี          ปลายทางมีของหวานรออยู่สู้อดทน...

ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ รู้สึกดีมากที่ตัดสินใจไปทำตังแต่ตอนนั้น ใครที่มีปัญหาก็ไปทำได้เลยนะครับ ไม่ต้องกลัว มันเจ็บอยู่แล้ว แต่ไม่นานมันก็จะผ่านพ้นไปครับ ^^
บันทึกการเข้า
sub1987
AV Devotor (VIP)
ผู้บัญชาการเอวีสูงสุด
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1279



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 27, 2012, 04:37:32 PM »

ยิ่งทำแต่เด็กยิ่งดีครับ รู้ซึ้งเลย
บันทึกการเข้า
sexpistols
คณะปฏิสนธิแห่งชาติ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 940


สวัสดีครับ ผมมาใหม่แนะนำด้วยนะครับ


« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 28, 2012, 01:02:43 AM »

โอ้นักกลอนไปถอยหมอนตอนขลิบจู๋ 
พยาบาลจู้ฮุกกรูรู้ใช่ไหม
เกิดไปแข็งโชว์หมอจะเป็นไง
พยาบาลเอาลงให้สบายตัว~~~
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  












AV Community Since 2009 : AVCollectors.com - Advertising please contact [email protected]