AVC

มาติดตามรายงานข่าวเทคโนโลยีสนุกๆ ที่คุณสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีคำอธิบายที่น่าสนใจอีกด้วยดีกว่าครับ เรื่องของเรื่องก็คือ Sean Murphy ทดลองจ้องภาพสองใบหน้าที่แตกต่างกันพร้อมกัน โดยจะเปลี่ยนภาพใบหน้าทั้งสองไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว ผลการทดลองดังกล่าวพบว่า ทำให้เขาต้องตกตะลึงในภาพทีเห็น ครั้นพอจ้องลงไปบนภาพใบหน้าแต่ละภาพ มันเป็นภาพหน้าคนปกติดี แล้วสิ่งที่เขาเห็นคืออะไร?


Murphy ทดลองการสร้างภาพลวงตาที่อาจจะเคยปรากฎในฝันร้ายของใครหลายๆ คน ด้วยการให้ผู้ช่วยของเขา Jason Tanger และ Matthew Thompson ร่วมกันพัฒนาภาพลวงตาที่สามารถสร้างขึ้นด้วยเทคนิคที่เรียกว่า 'Flashed Face Distortion Effect' หรือผลกระทบทีทำให้ภาพใบหน้าทีมองเห็นผิดเพี้ยนไปเนื่องจากการเปลี่ยนภาพอย่างรวดเร็ว โดยการทดลองของทั้ง 3 คน ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่จ้องตรงเครื่องหมายตรงกลางระหว่างภาพใบหน้าทั้งสอง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยคุณผู้อ่านสามารถทดลองได้ด้วยตัวเองจากคลิปข้างล่างนี้

http://www.youtube.com/watch?v=wM6lGNhPujE&feature=player_embedded

ผมลองแล้วครับ แปลกดี ถ้าจ้องจุดตรงกลางหน้าคนจะดูเแปลกๆ น่ากลัวมาก แต่ถ้าลองมาดูดีๆมันก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลยครับ

เเปลกดีเเต่ก็น่ากลัว [ง่ะ]

เอ้อ แปลกดี  :o

เหมือนหน้ามนุษย์ต่างดาวเลย

สมองมนุษย์นี่มันซับซ้อนจริงๆ

ชอบๆ  ;D ;D

 [ตกใจ] [ร้องไห้] [หนาว]

เป็นการทดลองได้น่าสนใจมากครับ  หลอน ๆนิด ๆ แต่ก็โอเคครับ   

เอเลี่ยนเต็มเลยเหอๆ  [ตกใจ]

อ๋อ เป็นเรื่องปกติครับ เพราะการส่งสัญญาณภาพจากม่านตามไปยังสมองจะมีการหน่วงเวลานิดนึง ที่เราเรียกกันว่า ภาพติดตา จากนั้น ภาพใหม่จะเข้ามาทันทีเลย ภาพก็เลยซ้อนกัน จากนั้น ก็แล้วแต่ประสบการณ์และความทรงจำจากสมองของแต่ละคนจะทำการเทียบเคียงว่า ภาพที่เห็นคืออะไร ที่สำคัญคือ ภาพแบบนี้มักจะมีความคงทนในความทรงจำสูงมาก

ถ้าจำกันได้ หลายสิบปีก่อน นักโฆษณาคนหนึ่งชื่อ สุชาติ วุฒิชัย ทำหนังเรื่องนึงที่ดราม่าสุดสุด บีบคนดูมากๆ เรื่อง น้ำผึ้งหยดเดียว ที่ไม่ธรรมดาคือ แกใช้สป็อตโฆษณาที่สั้นมากๆ ยิงภาพนิ่งในหนังที่มีนางเอก (คุณนิจ อลิษา) กับคำว่า น้ำผึ้งหยดเดียว แค่ไม่กีวินาที สมัยนั้น วงการสื่อบ้านเรายังไม่รู้เรื่องนี้ (แต่ทางตะวันตกสั่งห้ามโฆษณาแนวนี้นานแล้ว เพราะมีผลเหมือนการล้างสมองเลย) ผลก็คือ ปัจจุบันนี้ ผมยังจำภาพโฆษณานั้นได้ชัดเจนอยู่เลย.......

โอ้ สุดยอดดีครับ  [ตกใจ]

เรื่องนี้ เคยได้ยินมาเหมือนกันครับ มีปรากฏในหนังสือการ์ตูนเรื่อง มายะ มิดไนท์เลดี้

ในสมัยก่อน การฉายภาพยนตร์ นิยมวิธีโฆษณาแบบนี้พอสมควร แต่ด้วยเหตุผลทางจริยธรรม จึงถูกสั่งห้าม

แต่ในโฆษณา ส่วนมาก จะเป็นสินค้า เช่น คนดื่มโคล่า หรือ ทานขนมต่างๆ

ซึ่งคนดูหนัง ไม่เห็นภาพนี้ แต่ที่เห็นคือ ระบบประสาทของเราเอง เมื่อออกจากโรงหนัง ทำให้อยากดื่มโคล่า หรือทานขนม

เพราะออกมาแล้ว เห็นป้ายโฆษณาโคล่า หรือขนมตัวนั้น ที่หน้าโรงพอดี ซึ่งแน่นอนว่า เจ้าของโรงหนัง จงใจเอามาวางขายนั่นเอง

เป็นผลมาจาก ภาพติดตา อย่างที่ว่าครับ แต่คนส่วนใหญ่ จะนึกไม่ออกว่า ทำไมถึงอยากกิน รู้แต่ว่า เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน

ภายหลัง ทริกนี้ ถูกแฉออกมา จึงถูกทางการสั่งห้ามเด็ดขาด

เพราะหากไม่ใช่ภาพโฆษณา แต่ดันมีคนทะลึ่ง เอาภาพอื่นใส่เข้าไปแทน อย่างภาพของการฆ่าคน หรือ วางระเบิด อะไรจะเกิดขึ้น...

เหมือนความทรงจำมันข้างผสมกับภาพที่เห็นใหม่ๆในเวลารวดเร็ว ผลปรากฏมาเหมือน มนุษย์ต่างดาวเลย เเหะๆ

เจ๋ง

  :D