AVC

AV Fans Talk => Non-AV Topics => ข้อความที่เริ่มโดย: sompoat ที่ ตุลาคม 09, 2011, 05:06:08 PM



หัวข้อ: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: sompoat ที่ ตุลาคม 09, 2011, 05:06:08 PM
Schoolgirl in Concrete
(http://carved7.com/UserFiles/Image/s0411.jpg)

(เนื้อหาและภาพอาจมีความรุนแรงใช้วิจารณญาณใจการอ่านด้วย)
(http://carved7.com/UserFiles/Image/Junko%20Furuta%20(003).jpg)
        การ์ตูนนี้ได้มาบังเอิญจากการใช้คำ มังงะ ใส่ตรงหน้าของชื่อคดีญี่ปุ่น จนเปิดมาพบอย่างที่เห็น เป็นผลงานของ Ujiga Waita (นาม แฝง) ส่วนใหญ่ผลงานของเขาจะเน้นคดีฆ่าโหด และบางเรื่องก็เอาคดีสะเทือนขวัญดังๆมาเขียนเป็นการ์ตูนโดยชื่อตัวละครนั้น เค้าจะหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อจริง

       ลองการ์ตูนเรื่องนี้แบบเต็มๆ มาแล้ว แม้จะเป็นการ์ตูนสั้นๆ 69 หน้า แต่สิ่งที่สื่อออกมานั้นถือได้ว่ามันโหดร้ายมากๆ ขนาดไปดู (อ่านไม่ออกเพราะภาษาญี่ปุ่น) จิตใจผมแทบจิตหลุด หดหู่ ขยแขยง อยากอ้วกให้ได้(ใครอยากดูเต็มๆ ลองพิมพ์คำว่า Schoolgirl in Concrete ในกูเกิลดูนะ   
(http://carved7.com/UserFiles/Image/ev3l1.gif)
ในการ์ตูน เปิดภาพออกมาเป็นภาพของเด็กหญิงน่ารัก
ใส่ชุดนักเรียนกำลังกลับบ้านหลังจากเลิกเรียน (น่าจะใช่)


(http://upic.me/i/qg/fgha2.jpg)
และแล้วชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่อมีชายคนหนึ่ง
ขี่รถมาประกบติดแล้วล้มจักรยานของเธอ
(http://upic.me/i/db/6t463.jpg)

รถ จักรยานเธอล้มข้างทาง เวลานั้นเองก็มีเพื่อนของเธอซึ่งเป็นเด็กหัวเกรียนมาทัก
และ พาเธอไปที่บ้านของเขาเพื่อไปรักษาแผล

(http://upic.me/i/cp/l4422.jpg)

แต่แล้วที่บ้านที่เด็กหัวเกรียนนั้น เธอก็โดนทุบตี
โดยเพื่อนชายหัวเกรียนและเพื่อนทั้ง 4 คน

(http://upic.me/i/xa/b04d4.jpg)

เธอ โดนบังคับ ให้ถอดเสื้อ(โดนซ้อมตลอด) แล้วจากนั้นชายทั้ง 4 คนก็รุมข่มขืนเธอ
(การ์ตูนเรื่องนี้จะมีเป็นบท ซึ่งหนึ่งบทหมายถึงผ่านไปวันๆ)
(http://upic.me/i/ie/cgdd5.jpg)


สังเกต ว่ามีผู้ปกครองของหนึ่งในชายที่ข่มขื่นเธออยู่ในบ้านด้วย แต่หญิงสาวไม่กล้าขอความช่วยเหลือ แต่อย่างใด อีกทั้งผู้ปกครองคนนั้นดูเหมือนจะกลัวลูกมากๆ

(http://upic.me/i/vr/mw756.jpg)
       เธอ ตกเป็นของเล่นของเหล่าผู้ชาย 4 คน ที่นิสัยสุดโฉดชั่ว ข่มขื่นและถูกทรมานต่างๆ นาๆ เอาสิ่งแปลกปลอมสอดอวัยวะเพศหญิงสาว(ขวด, ดอกไม้ไฟ) หญิงสาวกรีดร้องอย่างทรมานโดนบีบคอ โดนจับกดน้ำ โดนซ้อม ฯลฯ

     หญิงสาวหลบหนีในขณะที่ชายสี่คนเผลอ เธอลงมาข้างล่างและโทรศัพท์ แต่ไม่วายโดนจับได้ นรกกำลังบนดินก็ได้เริ่มต้นขึ้น......  เธอโดนซ้อมอย่างโหดร้าย โดนบังคับให้กินฉี่ โดนจุดไฟเผาเท้าและมือ เธอเจ็บปวดทรมานสุดหัวใจ(ไม่มีให้ดู เพราะน่าสงสารมาก)
และสุดท้าย สภาพของเธอโทรมสุดขีด แต่ชายทั้งสี่คนยังไม่หน่ำใจ เมื่อบทสุดท้ายเธอถูกทรมานเป็นชุดเรียกว่าสุดโหด ถูกซ้อมจนเลือดพุ่งกระฉูด เอาไม้ไผ่ยัด ฯลฯ เรื่อง จบลงในสภาพศพของผู้หญิงคนนั้นในสภาพที่โหดร้าย ไม่เหลือโครงหน้าตาที่น่ารักตอนต้นเรื่องมาก่อน ชายสี่คนในการ์ตูนไม่ได้ถูกจับหรือได้รับผลกรรมเลย ภาพจบลงแต่เพียงภาพเด็กผู้หญิงและมีดอกไม้วางหนึ่งดอกเท่านั้น
พูดได้เต็มปาก มันคือการ์ตูนโหดสยองที่สุดเท่าที่อ่านมาในชีวิต เพราะว่ามันดัดแปลงจากเรื่องจริง!!

      การ์ตูนเรื่องนี้ดัดแปลงจากเรื่องจริงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ จุนโกะ ฟูรุตะ(junko furuta) เด็ก ผู้หญิงอาย 17 ปีที่อีกไม่กี่วันข้างหน้าเธอจะจบการศึกษา งานดีๆ กำลังรอเธออยู่ แต่เธอกับถูกเด็กวายร้าย 4 คน อายุประมาณ 16-18 ปี จับตัว แล้วเธอไปกักขังบ้านของหนึ่งเด็กชายวายร้าย และนั้นคือจุดเริ่มต้นของนรกบนดิน

จุน โกะ ฟูรุตะเกิดในปี 1972 ในเมืองมิซาโตะ จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น เธอเป็นลูกสาวคนญี่ปุ่นที่ค่อนข้างยากจน และเธอก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แต่กระนั้นเธอก็น่ารักและอัธยาศัยดีเป็นที่รักของเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อน บ้าน  หน้าจริงของเธอน่ารักเหมือนในการ์ตูนไม่มีผิด.....   ชีวิต ของเธอเป็นก็เหมือนเด็กนักเรียนหญิงทั่วๆ ไป มีชีวิตสนุกสนามตามประสาวัยรุ่น เธอไม่เคยมีประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้น เธอไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดหรือไปสถานที่ล่อแหลม อย่างมากก็ไปสวนสนุกตามประสาหญิงสาวทั่วไป

แต่ช่างโชคร้ายที่เธอดันมีเพื่อนชายที่ชื่อมิยาโนะ ฮิโรชิ(Miyano Hiroshi)
(http://carved7.com/UserFiles/Image/Miyano%20Hiroshi.jpg)
(http://upic.me/i/ot/0avm2.jpg)
(http://carved7.com/UserFiles/Image/todw3.jpg)
       มิ ยาโนะ ฮิโรชิ(ภาพแรก) ในเวลานั้นเขามีอายุ 18 ปี เขาแอบหลงรักจุนโกะ แต่ฮิโรชินั้นเป็นเด็กไม่เอาไหน แถมยังเป็นสมาชิกชั้นต่ำของยากูซ่า ขาดเรียนบ่อยครั้ง และมีชื่อเสียงเป็นนักเรียนนักเลงที่รักความรุนแรง

วันที่ 22 พฤศจิกายน 1988   
ฮิโรชิและเพื่อนสามคนของเขา ซึ่งเพื่อนของฮิโรชิประกอบไปด้วยมินาโตะ โนบุฮารุ(Minato Nobuharu) อายุ 16 ปี(ภาพที่สอง), โจ คามิเซคุ(Jo Kamisaku)อายุ 17 ปี และ ยาสุชิน วาตานาเบ้(Yasushi Watanaba) (ไม่ทราบอายุ แต่คาดว่ายังเป็นเยาวชน)

ฮิ โรชิ บอกจุนโกะว่าอยากคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว และเมื่อเธอไปพบว่าเขาพาเพื่อนมาด้วย เพื่อนของฮิโรชิหน้าตาอย่างกับโจรยากูซ่าทำให้เธอรู้สึกกลัวและพยายามหนี แต่เธอกลับโดนสี่คนนั้นจับและลักพาเธอไปกักตัวที่บ้านมินาโตะ โนบุฮารุ ที่อาดาจิ โตเกียว(ตอนแรกหนังสือพิมพ์ใช้ชื่อเรียกมินาโตะว่า เด็กชาย C) จากนั้นฮิโรชิก็บอกติดต่อไปที่บ้านว่าเขาหนีออกจากบ้านไม่ต้องตามหา ซึ่งด้วยความเป็นลูกน้องของยากูซ่า ทำให้พ่อแม่ของฮิโรชิกลัวจนไม่แจ้งกับตำรวจว่าลูกชายของตัวเองหายไป ส่วนผู้ปกครองที่บ้านโนบุฮารุก็พวกเขาหลอกไปว่าเธอเป็นแฟนของเขา

 
สิ่ง แรกที่เด็กวายร้ายสี่คนทำกับหญิงสาวคือบังคับให้ เด็กหญิงโทรไปบอกที่บ้านว่าอยู่บ้านเพื่อน จากนั้นมหกรรมนรกจึงเริ่มขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดมีการถ่ายภาพเอาไว้ด้วย(ซึ่งกลายเป็นหลักฐานในเวลาต่อ มา และภาพบางส่วนก็อยู่ในลิงค์ที่ผมแปะไว้แหละ)  จาก นั้นหญิงสาวก็ถูกรุมข่มขื่น ว่ากันว่าฮิโรชิได้พาคนอื่นๆ มาร่วมวงด้วย ในช่วงแรกๆ ที่เธอโดนลักพาตัวมานั้นเธอโดนข่มขื่นมากกว่าห้าร้อยครั้งโดยผู้ชายกว่าร้อย คน!! หลังจากนั้นจุนโกะก็กลายเป็นของเล่นสำหรับเด็กวายร้ายทั้งสี่คน และเรื่องราวทั้งหมดได้ถูกรวบรวมไว้ไดอารี่ 44 วันของจุนโกะ ต่อไปนี้
(http://carved7.com/UserFiles/Image/El%20sitio%20del%20crimen.jpg)

วันที่หนึ่ง:22 พฤศจิกายน 1988:
       ลักพา ตัว เธอ ถูกลักพาตัวโดยหนึ่งในสี่คนร้าย(ต่อไปนี้ขอเรียกว่าสัตว์นรกนะครับ) เธอถูกกักขังไว้ในบ้าน จากนั้นเธอถูกเปลือกกายและโดนข่มขืน(ยาวนานประมาณ 400 นาที ผมยังสงสัยเลยว่าเจ้าพวกนั้นมันจับเวลาด้วยเหรอนี้) เธอถูกบังคับให้โทรไปบอกที่บ้านว่าเธออยู่ที่บ้านเพื่อนไม่ต้องออกตามหา เธออดอยากและภาวะทุพโภชนาการ(สถาวะร่างกายอ่อนแอเพราะรับอาหารน้อยเกินไป) จนเป็นเหตุทำให้เธอต้องกินแมงสาปและปัสสาวะ เธอถูกบังคับให้สำเร็จความใคร่ บังคับเธอช่วยตนเองต่อหน้าคนอื่น(สัตว์นรก) เผาด้วยไฟแช็คบุหรี่ และวัตถุต่างๆ ยัดใส่ในช่องคลอดและทวารหนักของเธอ

ผ่านไปสิบเอ็ดวัน : 1 ธันวาคม 1988:
      ถูกซ้อมอย่างรุนแรงนับไม่ถ้วน ใบหน้าของเธอแนบลงกับพื้นซีเมนต์เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด เนื่องจากเธอโดนต่อยใบหน้านับไม่ถ้วน จากนั้นมือของเธอผูกติดกับกระดานและร่างกายของเธอกลายเป็นกระสอบทรายสำหรับ แตะต่อย จมูกเต็มไปด้วยเลือดจนเธอหายใจแทบไม่ออกจนต้องใช้ปากหายใจแทน ดับเบิลที่ใช้สำหรับออกกำลังกายถูกหย่อนลงท้องของเธอ เธอสำรองอาเจียนทุกครั้งเมื่อพยายามดื่มน้ำ(ท้องของเธอไม่สามารถยอมรับได้) เธอพยายามหลบหนีแต่จับได้เลยถูกซ้อม โดนลงโทษด้วยการเอาบุหรี่จี้ที่แขน เอาของเหลวไวไฟเทบนเท้าและขาของเธอและจุดไฟเผา และเอาขวดสอดใส่ถวารหนักของเธอจนบาดเจ็บ(ในการ์ตูนที่เอามาหลังจากเธอถูกจับ มีฉากเด็กเลวเอากำปั้นยัดใส่ช่องคลอดด้วย)

ผ่านไปยี่สิบวัน : 10 ธันวาคม 1988:
       เธอไม่สามารถเดินได้เพราะขาถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง เธอ ถูกตีด้วยไม้ไผ่ ถูกเอาดอกไม้ไฟยัดใส่ในทวารหนักและจุดไฟ เธอถูกทุบที่มือและเล็กจนแตกยับ ถูกตีด้วยไม้กอล์ฟ และเอาบุหรี่ยัดลงในช่องคลอด ถูกตีด้วยเหล็กซ้ำ เธอถูกบังคับให้นอนนอกระเบียงทั้งๆ ที่เป็นฤดูหนาว และถูกยัดโดยไม้เหล็กเสียบไก่ย่างลงในช่องคลอดและถวารหนักจนเลือดออกอย่าง รุนแรง(ในการ์ตูนที่เอามาให้ดูมีฉากเอาไม้ไผ่ยัดใส่รูถวารด้วย......)

ผ่านไปสามสิบวัน:
      เทียนร้อนๆ หยดใส่หน้า เปลือกตาของเธอถูกเผาด้วยไฟแช็ก แทงด้วยเข็มเย็บผ้าที่บริเวณหน้าอก หัวนมซ้ายถูกตัดและถูกย่ำยีด้วยคีม สัตว์นรกเอาหลอดไฟยัดที่ช่องคลอดของเธอ เลือดออกจากช่องคลอดอย่างหนักเพราะสัตว์นรกเอากรรไกรยัด จนเธอไม่สามารถปัสสาวะแบบปกติได้ เธอต้องใช้เวลากว่าชั่วโมงเพื่อลงข้างล่างและใช้ห้องน้ำ เยื่อแก้วหูเสียหายอย่างรุนแรง สมองได้รับกระทบกระเทือนอย่างหนัก

ผ่านไปสี่สิบวัน :
     เธอ ทรมานและขอร้องให้ฆ่าฉัน 1 มกราคม 1989 สภาพร่างกายของเธอเละอย่างน่าสงสาร เธอแทบไม่สามารถขยับตัวได้(ในการ์ตูนเธอถูกจัดแขวนแล้วเป็นกระสอบทรายให้ถูก ต่อย)

ผ่านไปสี่สิบสี่วัน : 4 มกราคม 1989:
     สัตว์นรก(ที่มีคำนำหน้าว่าเด็กชาย)บังคับเธอให้เล่นเกมส์ mah jong(เกมส์ ไพ่บนกระดานญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง) และรางวัลที่ได้จากเกมส์นึ้คือการทำให้ร่างกายเธอพิการด้วยดับเบิ้ลออกกำลัง กายรุมตีเธออย่างทารุณ ตอนนั้นเธอเลือดออกมากทั้ง จมูกและปาก แต่พวกสัตว์นรกนี้ไม่วายเอาน้ำตาเทียนหยดใส่ตาและใบหน้าของเธอ เธอขอร้องให้ฆ่าเธอดีกว่า และพวกสัตว์นรกนั้นก็เอาน้ำมันเทลงใบหน้าแขนขาและท้องแล้วจุดไฟเผา ไฟลุกไหม้ เธอตายอย่างทรมาน สิ้นสุด 44 วันนรกบนดิน
(http://carved7.com/UserFiles/Image/El%20cad%C3%A1ver%20(manga).jpg)

       เมื่อเธอตายแล้วสัตว์นรกทั้งสี่ก็เอาถัง น้ำมันแบบ 55 แกลลอน ที่เต็มไปด้วยปูนซีเมนต์ ยัดศพลงในถังแล้วเอาไปทิ้งที่ก่อสร้างรกร้างที่โคโตะ, โตเกียว

      เมื่อตำรวจพบศพของเธอ สภาพศพบ่งบอกถึงความโหดร้ายทารุณอย่างสุดจะพรรณนาที่จะเขียนเป็นภาษาลงใน กระดาษได้สภาพศพถูกไฟเผาไหม้ หน้าเละจนจำหน้าแทบไม่ได้ จากการชันสูตรพบว่ามีร่องรอยของน้ำอสุจิกว่าร้อยคน!! ที่ทวารหนักและช่องคลอดของเธอ แสดงให้เห็นว่าเธอได้รับความทุกข์ทรมานสุดจะพรรณนาก่อนสิ้นลม  เมื่อแม่ของเธอได้ยินข่าวและรายละเอียดสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาว เธอแทบจะเป็นลม จนเธอต้องเข้า รักษาตนเป็นผู้ป่วยจิตเวช จนบัดนี้เธอยังไม่สามารถลืมได้กับความทรมานที่ลูกสาวของเธอได้รับ...

      สุดท้ายสัตว์นรกสี่คนนั้นก็ถูกจับและตัดสิน แต่กฎหมายญี่ปุ่นเยาวชนที่มีความผิดนั้นโทษเบามาก สี่คนที่ว่าจำคุกเพียง 7-20 ปี เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่พร้อมกลับเข้าสู่สังคมอีกครั้ง มันไม่สาสมกับสิ่งที่มันได้กระทำกับสาวน้อยคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความหวังและ อนาคตเลย ...........

(http://carved7.com/UserFiles/Image/El%20hallazgo%20del%20cad%C3%A1ver.jpg)
หากข้อมูลขาดตกบกพร่อง ประการใดขออภัยด้วย และหากสมาชิกท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม
 สุดท้ายนี้  ขอไว้อาลัยแด่เธอ จุนโกะ ฟูรุตะ

(http://carved7.com/UserFiles/Image/Los%20titulares%20(002).jpg)

ความคืบหน้าคดี

ฮิโรชิ ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ออกมาช่วงปี 1999 กลับเข้าไปใหม่อีก ข้อหาทำร้ายร่างกาย คราวนี้ติด 7 ปี
ครอบครัวฮิโรชิต้องขายบ้านขายทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อหาเงินราว 50 ล้านเยนมาจ่ายค่าเสียหายให้ครอบครัวจุนโกะ

ฆาตกรอีก 4 ตัวที่เหลือ ติดกันคนละ 4-7 ปี ตอนนี้ออกมาแล้ว
# Hiroshi Miyano ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Hiroshi Yokoyama
# Jō Ogura เปลี่ยนชื่อเป็น Jō Kamisaku

ทุกๆ ตัว ยังมีชีวิตในสังคมญี่ปุ่น.....



หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: JudasPriest01 ที่ ตุลาคม 09, 2011, 05:27:55 PM

ผมเคยอ่านเรื่องนี้เมื่อปีก่อน จากในเว็บต้นฉบับ ที่คุณ cammy เขียนไว้
หลังจากอ่านจบผมรู้สึก จิตตกและซึม ไปเลย

เหมือนตกนรกทั้งเป็น ทั้งๆที่เธอไม่ไ้ด้ทำอะไรผิดเลย ..


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: sompoat ที่ ตุลาคม 09, 2011, 06:09:16 PM
ยังมีอีกตัวนึงที่เลวสุด ฉายา The Otaku Murderer มันคือ Tsutomu Miyazaki  โชคดีที่ถูกแขวนคอไปเมื่อปี 2008 ไอ้นี่เน้นฆ่าเด็กโดยเฉพาะ แถมยังสะสมหนังและอนิเมะแนว Slasher กว่า 5000 เรื่องในบ้านอีกด้วย โดยเฉพาะหนังชุด Guinea Pigs ทั้ง 5 เรื่อง ที่มันใช้สภาพของเหยื่อจาก 4 ตอนแรกมาทำกับเหยื่อจริงๆ แล้วถ่ายหนังไว้ด้วย
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/2/2b/Tsutomu_Miyazaki.jpg)
เด็กหญิงที่มันฆ่าอายุ ระหว่าง 4-7 ปีครับ

(http://media3.washingtonpost.com/wp-dyn/content/photo/2008/06/17/PH2008061702597.jpg)


มิยาซากิ ทสึโตมุ (Tsutomu Miyazaki)เมื่อโอตากุกลายเป็นจำเลยของสังคม



มิยาซากิ ทสึโตมุ Tsutomu Miyazaki (宮﨑 勤,) (21 สิงหาคม 1962 -17 มิถุนายน2008 ) เป็นฆาตกรต่อเนื่องเด็กผู้หญิง 4 ราย และเป็นฆาตกรญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักมากที่สุด อันเนื่องจากเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้สังคมญี่ปุ่นรังเกียจโอตากุจนถึงทุก วันนี้

มิยาซากิ ทสึโตมุ เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1962 ในครอบครัวผู้มีฐานะปานกลางที่เมืองนิชิทามะ จังหวัดโตเกียว บิดาและมารดาทำงานกันทั้งคู่ ทสึโตมุในวัยเด็กจึงโตมากับปู่ ซึ่งปู่ก็ตามใจเขามากจนทสึโตมุกลายเป็นเด็กเสียคนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทสึโตมุเป็นโรคข้อเชื่อมกระดูกบกพร่องโดยกำเนิดซึ่งทำให้เขาไม่สามารถหงาย ฝ่ามือขึ้นด้านบนได้ และนี่เองที่กลายมาเป็นปมด้อยของเขาตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้ไม่มีใครคบกับเขามากนัก เมื่อขึ้นชั้นมัธยมปลายก็ไปเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายเมย์ไดนากาโนะ ผลการเรียนของทสึโตมุก็แย่ลงเรื่อยๆ และสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ตนเองหวังไม่ได้ ทำให้ เขาต้องเข้าเรียนในคณะอนุปริญญาเทคนิคการวาดภาพของมหาวิทยาลัยช่างศิลป์ โตเกียวแทน



ปี 1983 หลังจากที่จบอนุปริญญามาแล้ว ทสึโตมุเข้าทำงานในโรงพิมพ์ที่เมืองโคไดระโดยรับหน้าที่เป็นผู้คุมเครื่อง จักร แต่กระนั้นเขาก็ยังเป็นคนเก็บตัวและคบกับคนรอบข้างไม่ได้เหมือนเดิม ในเดือนมีนาคมปี 1986 เขาก็ออกจากงานที่โรงพิมพ์ไป และเก็บตัวอยู่ในห้องเป็นเวลาหลายเดือน และในเดือนกันยายนปี 1986 เขาก็ยอมออกมาช่วยงานเล็กๆน้อยๆในกิจการของครอบครัว ในช่วงนี้เองที่เขาหันมาชอบโดจินชิอนิเมชั่นจนถึงกับรวมกลุ่มกับคนรู้จัก เพื่อออกหนังสือร่วมกัน แต่ไม่นานเขาก็ถูกพรรคพวกเกลียดจนออกหนังสือได้เพียงเล่มเดียว หลังจากนั้น เขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของเซอร์เคิ่ลวีดีโอหลายกลุ่ม (หมายถึงกลุ่มแลกเปลี่ยนวีดีโอที่อัดมาจากรายการต่างๆในทีวี) แต่ทสึโตมุเป็นคนชอบจู้จี้เรื่องวิธีการอัดวีดีโอ รวมทั้งไม่ยอมส่งวีดีโอก็อปปี้มาแลกให้กับอีกฝ่าย เขาจึงกลายเป็นคนน่ารังเกียจในกลุ่มนี้โดยบริยาย

เนื่องจากทสึโตมุเป็นคนเก็บตัว เขาเลยไม่มีเพื่อนเป็นผู้หญิงมากนัก เขาเคยถูกบังคับให้ดูตัวสี่ครั้งแต่ทุกครั้งก็โดนฝ่ายหญิงปฏิเสธหมด(ก็หน้า มันไม่หล่อนี้น่า)

ปี 1988 ไม่รู้เพราะอะไร ทสึโตมุเริ่มก่อคดีฆาตกรรม โดยเหยื่อที่เขาฆ่าเป็นเด็กผู้หญิงล้วนๆ โดยรายชื่อมีดังต่อไปนี้

1. มาริ คงโนะ( Mari Konno) อายุ 4 ปี หายสาบสูญไปจากละแวกบ้านเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ทสึโตมุให้การสารภาพในภายหลังว่าเขาลักพาตัวมาริ และบีบคอเด็กตายและศพเริ่มแข็งตัว เขาก็ทำการอนาจารกับศพของเด็กหญิง (ไม่มีการข่มขืน) และถ่ายวีดีโอเก็บไว้ (เพื่อจะเอามาดูซ้ำหลายๆ รอบ)จากนั้นในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ มีกล่องกระดาษถูกวางทิ้งไว้ที่หน้าบ้านครอบครัวคงโนะ ภายในคือเถ้ากระดูกและฟันบางส่วนซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นของคงโนะ มาริ

2. มาซามิ โยชิซาว่า (Masami Yoshizawa) อายุ 7 ปี หายสาบสูญไปจากละแวกบ้านเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ทสึโตมุให้การสารภาพว่าเขาบีบคอฆ่ามาซามิแล้วเริ่มทำการอนาจารในทันที

3. เอริกะ นันบะ (Erika Nanba) อายุ 4 ปี) หายสาบสูญไปจากละแวกบ้านเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ทสึโตมุให้การสารภาพในภายหลังว่าหลังจากฆ่าแล้ว เอริกะปัสสาวะออกมา ทำให้เขาขยะแขยงและทิ้งศพของเด็กหญิงไว้ในภูเขา และในวันที่ 15 เดือนเดียวกัน ศพเปลือยของเอริกะก็ถูกพบในภูเขานั้นเอง

วันที่ 10 เดือนต่อมา ทสึโตมุเขียนจดหมายไปหาจดหมายไปกาสำนักพิมพ์อาซาฮิอ้างตัวว่าเป็นผู้หญิง ชื่อ"อิมาดะ ยูโกะ" บอกว่าเธอเป็นผู้ลักพาตัวเด็กหญิงไปฆ่าเนื่องจากความน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัว เองมีร่างกายบกพร่องทำให้ไม่สามารถมีบุตรได้

วันที่ 11 มีนาคม มีจดหมายสารภาพจาก"อิมาดะ ยูโกะ"ส่งไปยังหนังสือพิมพ์อาซาฮิและบ้านครอบครัวของโยชิซาว่า มาซามิซึ่งเป็นเหยื่อรายที่สอง บอกเขาเอาซากกระดูกของมาซามิ โยชิซาว่ามาปนก็กับเถ้ากระดูกของลูกของเธอที่เสียชีวิตเพื่อทำพิธีศพ

4. อายาโกะ โนะโมโตะ (Ayako Nomoto) อายุ 5 ปี ถูกพบเป็นศพเมื่อวันที่วันที่ 6 มิถุนายน ในห้องน้ำในสวนสาธารณะ ศพของเด็กหญิงเปล่าเปลือยไร้ศีรษะและถูกตัดข้อมือข้อเท้า ทสึโตมุให้การในภายหลังว่าอายาโกะหัวเราะมือของเขาทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้น หน้าและเผลอฆ่าอายาโกะทิ้ง ส่วนมือที่ตัดไปนั้นเอากลับไปบ้านแล้วย่างกินกับโชยุ รวมทั้งเขาได้ดื่มเลือดจากมือของเด็กหญิงที่ค้างอยู่ในถุงพลาสติกด้วย

วันที่ 23 กรกฎาคม ทสึโตมุทำอนาจารกับเด็กหญิงชั้นประถมหนึ่งโดยจับเด็กหญิงแก้ผ้าในห้องน้ำและ กำลังจะถ่ายภาพปรับขยายภาพเข้าไปในช่องคลอดของเด็กหญิง ผู้ปกครองของเด็กหญิงก็มาพบ เขาจึงถูกตำรวจจับกุม ระหว่างการสอบสวนทสึโตมุก็รับสารภาพว่าตัวเองเป็นคนร้ายของคดีทั้งหมดที่ ผ่านมา ซึ่งคำรับสารภาพนี้ส่งผลให้ตำรวจพบส่วนต่างๆ ของศพทั้งหมดที่ ทสึโตมุ ฆ่า



หลังการจับกุม มีการพบวีดีโอ 5763 ม้วนจากห้องของทสึโตมุ และหลังการตรวจสอบ ก็พบว่ามีภาพของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายปะปนอยู่ด้วย ทำให้วีดีโอดังกล่าวกลายมาเป็นหลักฐานสำคัญในการฟ้องคดีของทสึโตมุในเวลาต่อ มา
(http://1.bp.blogspot.com/_352xV8C14UE/SGOKaSouEkI/AAAAAAAACYU/wJtcNqtgDhI/s320/miyazaki2.jpg)
ระหว่างที่ทสึโตมุพิจารณาคดี พ่อของทสึโตมุฆ่าตัวตายด้วยการโดดลงมาจากสะพาน แต่ตัวทสึโตมุก็ไม่มีท่าทีเสียใจต่อเรื่องนี้ และเมื่อวันที่ 14 เมษายน 1997 ทสึโตมุถูกตัดสินโทษประหารชีวิต เขาขอยื่นอุทธรณ์ แต่ผลสุดท้ายศาลฎีกาก็ประกาศยืนยันโทษประหารของทสึโตมุในที่สุด

วันที่ 17 มิถุนายน 2008 มิยาซากิ ทสึโตมุถูกประหารด้วยการแขวนคอตายในเรือนจำโตเกียว ไม่มีคำพูดขอขมาหรือแสดงความสำนึกผิดออกมาจากปากของเขาจนวาระสุดท้าย
(http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2008/06/17/article-1027049-01A304AE00000578-401_468x395.jpg)

宮崎勤 (1962-2008)
มิยาซากิ ทสึโตมุ
The Otaku Murderer, The Little Girl Murderer, Dracula
東京・埼玉連続幼女誘拐殺人事件 (คดีฆาตกรรมเด็กหญิงต่อเนื่องที่โตเกียวกับไซตามะ หรือบ้างก็เรียกคดีมิยาซากิ, คดีมิยาซากิ ทสึโตมุ, คดี M คุง, คดี M)

มิยาซากิ ทสึโตมุ เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1962 ในครอบครัวผู้มีฐานะปานกลางที่เมืองนิชิทามะ จังหวัดโตเกียว บิดาและมารดาทำงานกันทั้งคู่ ทสึโตมุในวัยเด็กจึงโตมากับปู่ซึ่งเป็นผู้อาวุโสที่คนในเมืองนับถือกับพี่ เลี้ยงซึ่งเป็นชายวัยกลางคนผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา ปู่เอ็นดูทสึโตมุเป็นอย่างมาก และตัวเขาเองซึ่งเป็นเด็กเก็บตัวก็เคารพเชื่อฟังปู่มากเช่นกัน

ทสึโตมุเป็นโรคข้อเชื่อมกระดูกบกพร่องโดยกำเนิดซึ่งทำให้เขาไม่สามารถหงาย ฝ่ามือขึ้นด้านบนได้ และนี่เองที่กลายมาเป็นปมด้อยของเขาตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากเขาเป็นเด็กคนเดียวในชั้นอนุบาลที่ไม่สามารถทำท่า"ขอ"หรือเล่นเกม ได้เหมือนเด็กคนอื่นๆ สมัยประถม ทสึโตมุเป็นเด็กเรียนเก่งแต่ไม่ถนัดวิชาภาษาญี่ปุ่นกับวิชาสังคม เมื่อขึ้นชั้นมัธยมปลายก็ไปเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายเมย์ไดนากาโนะซึ่ง ต้องเดินทางจากบ้านด้วยรถไฟไปถึงสองชั่วโมง และเหตุผลก็มาจากปมด้อยเรื่องมือนั่นเอง (หากพ่อแม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเจ้าตัวอยากจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในอนาคต) แต่หลังจากที่เข้าเรียนในชั้นมัธยมปลาย ผลการเรียนของทสึโตมุก็แย่ลงเรื่อยๆ เพื่อนร่วมชั้นให้การในภายหลังว่าเขาเป็นคนเก็๋บตัวและไม่เด่นสะดุดตา ทสึโตมุตั้งความหวังว่าจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเมย์ได หากสุดท้ายความหวังของเขาก็ไม่เป็นจริงเพราะคะแนนไม่ถึง หลังจากสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมในปี  1981 เขาจึงเข้าเรียนในคณะอนุปริญญาเทคนิคการวาดภาพของมหาวิทยาลัยช่างศิลป์ โตเกียวแทน แต่กระทั่งหลังจากเข้าเรียนที่นี่แล้ว ทสึโตมุก็ยังคงเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวจนแทบไม่มีใครในชั้นเรียนที่จดจำเขา ได้

ปี 1983 หลังจากที่จบอนุปริญญามาแล้ว ทสึโตมุได้รับการแนะนำจากปู่ให้เข้าทำงานในโรงพิมพ์ที่เมืองโคไดระโดยรับ หน้าที่เป็นผู้คุมเครื่องจักร เพื่อนร่วมงานให้การในภายหลังว่าเขาไม่ตั้งใจทำงานและเข้ากับคนรอบข้างไม่ ได้ จนเดือนมีนาคมปี 1986 ก็ออกจากงานที่โรงพิมพ์ไป ทสึโตมุเก็บตัวอยู่ในห้องเป็นเวลาหลายเดือน (อย่างที่เรียกกันว่าฮิกิโคโมริ) และในเดือนกันยายนปีเดียวกันก็ยอมออกมาช่วยงานเล็กๆน้อยๆของกิจการในครอบ ครัวเช่นการออกไปรับต้นฉบับใบปลิว ในช่วงนี้เองที่เขาหันมาออกโดจินชิของอนิเมชั่น หากก็ถูกพรรคพวกเกลียดจนออกหนังสือได้เพียงเล่มเดียว หลังจากนั้น เขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของเซอร์เคิ่ลวีดีโอหลายกลุ่ม (หมายถึงกลุ่มแลกเปลี่ยนวีดีโอที่อัดมาจากรายการต่างๆในทีวี) แต่ทสึโตมุชอบจู้จี้กับสมาชิกคนอื่นเรื่องวิธีการอัดวีดีโอ รวมทั้งไม่ยอมส่งวีดีโอที่ตัวเองต้องก็อปปี้มาแลกให้กับอีกฝ่าย เขาจึงเป็นที่เหม็นขี้หน้าในที่นี้เช่นกัน
ทสึโตมุไม่มีประสบการณ์ในการคบกับผู้หญิง ซึ่งสาเหตุสำคัญนั้นมาจากปมด้อยเรื่องมือที่ทำให้เขาไม่กล้าเข้าใกล้ผู้หญิง ที่เป็นผู้ใหญ่ เขาเคยถูกมารดาคะยั้นคะยอให้ไปดูตัวถึงสี่ครั้ง แต่หลังการดูตัวก็ถูกปฏิเสธโดยฝ่ายหญิงหมดทุกครั้ง (ภาพที่ใช้ในการดูตัวก็คือภาพข้างบนนี่เองค่ะ)

ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอะไรเป็นชนวนทำให้ทสึโตมุเริ่มก่อคดี แต่คดีแรกของเขานั้นเริ่มขึ้นสามเดือนหลังจากที่ผู้เป็นปู่เสียชีวิตไปใน เดือนพฤษภาคมปี 1988 นี่เอง (มีคำให้การว่าทสึโตมุกินเถ้ากระดูกของปู่ลงไปเพื่อแสดงถึงความเคารพอีก ด้วย)

วันที่ 22 สิงหาคม 1988 คงโนะ มาริ (4 ขวบ) หายสาบสูญไปจากละแวกบ้าน ทสึโตมุให้การสารภาพในภายหลังว่าเขาลักพาตัวมาริมาจากใกล้บ้านของเด็กหญิง นั่นเอง หลังจากที่บีบคอมาริตายและศพเริ่มแข็งตัว เขาก็ทำการอนาจารกับศพของเด็กหญิง (ไม่มีการข่มขืน) และถ่ายวีดีโอเก็บไว้ ซึ่งเกี่ยวกับข้อนี้ ทสึโตมุแสดงความเห็นในภายหลังว่า"ผมอยากจะได้ร่างกายนั้นเป็นของตัวเอง ศพยังไงก็ต้องเน่า แต่วีดีโอยังเอามาดูซ้ำได้อีก"

วันที่ 3 ตุลาคม โยชิซาว่า มาซามิ (7 ขวบ) หายสาบสูญไปจากละแวกบ้าน ทสึโตมุบีบคอฆ่ามาซามิแล้วเริ่มทำการอนาจารในทันที หากจากคำให้การในภายหลัง ตอนนั้นมาซามิยังพอมีลมหายใจอยู่ แขนขาของเธอจึงกระตุกเป็นระยะ

วันที่ 9 ธันวาคม นันบะ เอริกะ (4 ขวบ) หายสาบสูญไปจากละแวกบ้าน หลังจากฆ่าแล้ว เอริกะปัสสาวะราดออกมา ทสึโตมุจึงทิ้งศพของเด็กหญิงไว้ในภูเขา และในวันที่ 15 เดือนเดียวกัน ศพเปลือยของเอริกะก็ถูกพบในภูเขา หลังการพบศพ พ่อของเอริกะให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ว่า"ถึงจะตายไปแล้ว แต่ก็ยังดีที่เขากลับมา" ทสึโตมุจึงวางแผนจะคืนศพของผู้เคราะห์ร้ายให้กับครอบครัว แต่ลงท้าย เขาก็ไม่สามารถหาศพของมาซามิซึ่งเป็นเหยื่อรายที่สองพบ

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1989 มีกล่องกระดาษถูกวางทิ้งไว้ที่หน้าบ้านครอบครัวคงโนะ ภายในคือเถ้ากระดูกและฟันบางส่วนซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นของคงโนะ มาริ เหยื่อเคราะห์ร้ายรายแรก และในวันที่ 10 เดือนเดียวกันก็มีจดหมายจากฆาตกรซึ่งอ้างตัวเป็นผู้หญิงชื่อ"อิมาดะ ยูโกะ"ส่งไปยังหนังสือพิมพ์อาซาฮิ (มีทฤษฎีกล่าวว่าแผลงมาจากประโยค"มาตอนนี้แล้วเลยพูดได้") บอกว่าเธอเป็นผู้ลักพาตัวเด็กหญิงไปฆ่าเนื่องจากความน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัว เองมีร่างกายบกพร่องทำให้ไม่สามารถมีบุตรได้

บางส่วนจากจดหมาย (ขออภัยค่ะที่ไม่สามารถแปลมาทั้งหมด มันยาวมากจริงๆค่ะ)
"นี่เป็นกระดูกของมาริจังอย่างแน่นอนค่ะ พอเผาแล้วกระดูกก็สลายลงไปตามธรรมชาติ.... พอคนเรากลายมาเป็นกระดูก กระดูกนั้นก็ช่างเล็กและมีจำนวนน้อยกว่าที่คิดไว้เสียอีก แต่ฉันก็พยายามเก็บกระดูกใส่ลงมาในกล่องทั้งหมดแล้วค่ะ อาจจะมีคนพูดว่าคดีในครั้งนี้เป็น"ความแค้น" "การเล่นเกม" "การกลั่นแกล้ง" หรือ"การท้าทาย" แต่ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ฉันเพียงแค่มา"คืน"มาริจังเท่านั้นเอง
ฉันแค่อยากจะคืนมาริจังให้เท่านั้นเองจริงๆค่ะ ได้โปรดรีบจัดงานศพให้มาริจังเถอะค่ะ อาจจะฟังเป็นการเห็นแก่ตัว แต่ฉันก็ยังไม่อยากถูกจับค่ะ และฉันก็จะไม่ทำเรื่องเช่นนี้อีกแล้วด้วย
วันก่อน ฉันดูข่าวที่คุณแม่ทราบเรื่องจากตำรวจแล้วบอกว่า"เท่านี้ฉันก็พอจะมีความ หวังต่อไปได้" ฉันจึงคิดว่าควรจะจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อยจะดีกว่า ไม่เช่นนั้น คนที่บ้านก็จะไม่มีวันรู้เลยว่ามาริจังอยู่ที่ไหน ฉันจึงรีบส่งจดหมายมาเช่นนี้ค่ะ

กระดูกพวกนั้นคือมาริจังจริงๆค่ะ"

วันที่ 11 มีนาคม มีจดหมายสารภาพจาก"อิมาดะ ยูโกะ"ส่งไปยังหนังสือพิมพ์อาซาฮิและบ้านครอบครัวของโยชิซาว่า มาซามิซึ่งเป็นเหยื่อรายที่สอง คราวนี้อ้างว่าตัวเองมีลูกที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเด็กแต่ไม่ได้ทำศพให้ จึงลอบปนกระดูกบางส่วนของลูกตัวเองไปกับกระดูกของมาริเพื่อที่จะได้ทำศพเสีย ที

แต่ทสึโตมุก็ยังไม่หยุดตัวเองลงแค่นั้น

วันที่ 6 มิถุนายน โนะโมโตะ อายาโกะ (5 ขวบ) ถูกพบเป็นศพอยู่ที่ห้องน้ำในสวนสาธารณะ ศพของเด็กหญิงเปล่าเปลือยและถูกตัดข้อมือข้อเท้า ทสึโตมุให้การในภายหลังว่าอายาโกะหัวเราะมือของเขาทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้น หน้าและเผลอฆ่าอายาโกะทิ้ง ส่วนมือที่ตัดไปนั้นเอากลับไปบ้านแล้วย่างกินกับโชยุ รวมทั้งเขาได้ดื่มเลือดจากมือของเด็กหญิงที่ค้างอยู่ในถุงพลาสติกด้วย

วันที่ 23 กรกฎาคม ทสึโตมุทำอนาจารกับเด็กหญิงชั้นประถมหนึ่งโดยจับเด็กหญิงแก้ผ้าในห้องน้ำและ กำลังจะถ่ายภาพ หากผู้ปกครองของเด็กหญิงเข้ามาพบทันท่วงที เขาจึงถูกจับกุมในข้อหาพรากผู้เยาว์ และระหว่างการสอบปากคำก็รับสารภาพว่าตัวเองเป็นคนร้ายของคดีทั้งหมดที่ผ่าน มา (ศพของมาซามิ บางส่วนของศพมาริ และส่วนศีรษะของศพอายาโกะถูกพบหลังจากการสารภาพนี้)

หลังการจับกุม มีการพบวีดีโอ 5763 ม้วนจากห้องของทสึโตมุ และหลังการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ 74 คนกับเครื่องเล่นวีดีโอ 50 เครื่องเป็นเวลาสองสัปดาห์ ก็พบภาพของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายปะปนอยู่ด้วย วีดีโอดังกล่าวกลายมาเป็นหลักฐานสำคัญในการฟ้องคดีของทสึโตมุในเวลาถัดมา

มิยาซากิ ทสึโตมุไม่ได้ให้การชัดเจนนักเกี่ยวกับแรงจูงใจในการฆ่า แต่ความแปลกประหลาดของคดีก็ทำให้อาชญากรรมนี้เป็นที่สนใจของหลายฝ่าย และมีการสันนิษฐานกันไปต่างๆนานา

โอสึกะ เอย์จิ นักวิจัยโอทาคุกล่าวไว้ว่าความโดดเดี่ยวขณะที่เขาอายุยังน้อยทำให้สภาพจิตใจ ของทสึโตมุหยุดอยู่ในวัยเด็กซึ่งส่งผลต่ออุปนิสัยและรสนิยมทางเพศที่เหมือน กับเด็กไปด้วย ในความเป็นจริง ทสึโตมุทำอนาจารต่อเด็กหญิงโดยการลูบไล้ก็จริง แต่เขาไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์กับเด็กหญิงเลยแม้แต่หนเดียว ซึ่งการมีนิสัยย้อนอายุนี้ตรงกับเปโดฟีเลียประเภทหนึ่ง (Pedophilia หมายถึงรสนิยมทางเพศที่มีเป้าหมายเป็นผู้เยาว์) และยังกล่าวอีกด้วยว่าทสึโตมุใช้ความรุนแรงกับเหยื่อเหมือนที่เด็กใช้ความ รุนแรงกับเด็กด้วยกัน แต่เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ ความรุนแรงดังกล่าวจึงมีผลเป็นการฆาตกรรม

จิตแพทย์ผู้รับผิดชอบคดีของมิยาซากิ ทสึโตมุก็กล่าวว่า เขาไม่ใช่เปโดฟีเลียโดยสมบูรณ์ เพียงแต่เล็งเด็กหญิงเป็นเหยื่อโดยจิตใต้สำนึกเท่านั้น เขาเพียงแต่ตัดใจที่จะคบหากับผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่ และหันมาใช้เด็กหญิงเป็นเครื่องทดแทนเสียมากกว่า ตัวเขาเองจริงๆแล้วไม่ได้มีรสนิยมชอบเด็กหรือชอบศพเลย

โรเบิร์ต เรสเสลอร์ (FBI และนักเขียน เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการตั้งทฤษฎีโปรไฟลิ่ง) กล่าวว่าทสึโตมุเป็นเปโดฟีเลียประเภทซาดิสต์แบบเลือก ซึ่งผู้มีอุปนิสัยดังกล่าวจะมีลักษณะดังนี้
- มักจะกระทำการซ้ำๆเป็นเวลานาน
- เคยถูกทารุณกรรม (ทางเพศ) ในวัยเด็ก
- ในช่วงวัย 10 ปี มักจะคบหาคนในวงจำกัด
- มักจะทำอันตรายต่อเด็กซึ่งเป็นเหยื่อ
- เป็นคนโสดอายุ 25 ปีขึ้นไป
- อยู่ตัวคนเดียว หรืออยู่ร่วมบ้านกับพ่อแม่
- สนใจเด็กและสิ่งที่เกี่ยวกับเด็ก
- เป็นซาดิสซึ่ม
- จะไม่มีความสำนึกผิดต่ออาชญากรรมที่ตนก่อ
- ไม่มีวิธีรักษา

* แถม มีการวิเคราะห์ว่าที่ทสึโตมุตัดมือเหยื่อนั้นมีความหมายถึง"การทำหมัน" ซึ่งแสดงถึงการขาดสมรรถภาพทางเพศของเขานั่นเอง

ทสึโตมุพยายามดึงรูปคดีว่าตัวเองเป็นผู้มีความบกพร่องทางจิตที่มีสองบุคลิก โดยอ้างว่าจะมีมนุษย์หนูโผล่มายั่วยุให้เขาก่อคดี หากเหตุผลนี้ก็ไม่ได้รับการรับฟัง ระหว่างการพิจารณาคดี พ่อของทสึโตมุฆ่าตัวตายด้วยการโดดลงมาจากสะพาน หากตัวทสึโตมุก็ไม่มีท่าทีเสียใจต่อเรื่องนี้
วันที่ 14 เมษายน 1997 ทสึโตมุถูกตัดสินโทษประหารชีวิต เขาขอยื่นอุทธรณ์ หากก็ถูกศาลอุทธรณ์ปฏิเสธและพิพากษายืนคำตัดสินของศาลชั้นต้น ขณะถูกขังอยู่ ในเรือนจำโตเกียว เขาร้องเรียนว่าตนเห็นภาพลวงตาและถูกใช้ยาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอให้ศาลฎีกาพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง หากในวันที่ 17 มกราคม 2006 ศาลฎีกาก็ประกาศยืนยันโทษประหารของทสึโตมุในที่สุด

ระหว่างการขังรอประหาร ทสึโตมุพยายามเขียนจดหมายร้องเรียนความโหดร้ายของโทษแขวนคอ และขอให้เปลี่ยนวิธีประหารเป็นการฉีดยาตาย ซึ่งจดหมายเหล่านี้ถูกรวบรวมเป็นหนังสือในภายหลัง ในจำนวนนั้นมีจดหมายกล่าวถึงการที่สื่อมวลชนออกข่าวการประหารของเขาอย่าง ครึกโครมว่า"ผมเป็นคนมีชื่อเสียงจริงๆ" และเมื่อถูกถามถึงความเห็นใจต่อผู้เคราะห์ร้ายซึ่งเป็นเหยื่อกับครอบครัว เขาก็ตอบไว้ว่า"ไม่มีเป็นพิเศษ ผมว่าดีแล้วที่ผมได้ทำเรื่องดีๆ"



หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ผมรู้คุณก็ดู ~ ที่ ตุลาคม 09, 2011, 07:51:20 PM
ผมโหลดการ์ตูนที่นักเขียนคนนี้เขียนมาเก็บเกือบทุกเรื่องเลย

แต่ยังไม่กล้าดูเองเลยซักเรื่อง แล้วจะโหลดมาทำไมเนี่ย  ;D


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: DreamSNHK ที่ ตุลาคม 09, 2011, 09:34:52 PM
ขอเวลาทำใจก่อน :-\


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: yesdamon ที่ ตุลาคม 09, 2011, 11:19:17 PM
คนญี่ปุ่นคนไหนดีก็โคตรดีไปเลย ดูอย่างเหตุการณ์ซึนามิ แผ่นดินไหว ไม่มีขโมย ไม่มีปล้น
แต่คนไหนเลว แมร่ง ก็เลวแบบนรกส่งมาเกิดเลยจริงๆ

ถ้านรกมีจริง ขอให้ลงโทษพวกมันให้สาสมหน่อยเหอะ โคตรสงสารผู้หญิงเลย


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: dekseo ที่ ตุลาคม 10, 2011, 01:08:18 AM
อย่างดูหนังเอวี แนวข่มขืนก็รู้ว่าเป็นการแสดง แต่บางเรื่องถ้าหนักมาก
ผมก็ดูไม่ไหวเหมือนกัน แต่ถ้ารู้ว่าเรื่องไหนเป็นเหตุการณ์จริง และมีการ
ทรมานหรือใช้ความรุนแรงมาก ยิ่งเรื่องที่ท่าน sompoat นำมาให้อ่าน
บอกตรงๆว่า ทำใจยากมาก ผมอ่านแทบไม่จบ แต่ก็อ่านจนจบ สิ่งที่ได้
ถ้าจุนโกะ ฟูรุตะ เป็นคนในครอบครัวผม จะยิ่งทำใจรับได้ยากมากกับสิ่งที่เกิด
ขึ้น นี่ขนาดเป็นคนที่อยู่ไกลตัวออกไป ผมยังแค้นแทนเลย
และอีกอย่างผู้ชายพวกนั้น ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้โหดร้ายมาก
มายขนาดนั้น หรืออาจจะรู้ว่าโทษที่ได้รับจากการกระทำไม่รุนแรง ก็เลย
ก่อเหตุขึ้น ที่จริงน่าจะมีการแก้ไขกฏหมายกันใหม่ (รวมทั้งไทยด้วย) เพราะ
ชอบเอาเหตุว่ายังเป็นเยาวชนมาอ้าง แต่ความจริงน่าจะดูเหตุการณ์ที่เยาวชน
คนนั้นทำความผิด เยาวชนหลายคนที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ แต่ได้รับโทษเบา
เพราะเหตุเป็นเยาวชน ที่จริงน่าจะมีการพิจารณาเป็นรายๆไป
ไม่งั้นพวกนี้จะไม่หลาบจำ ก่อเหตุซ้ำซาก ที่จริงผมชอบกฏหมาย ตาต่อตาฟันต่อฟันเหมือนกัน
เหมือนกับคดีหนึ่งผมจำประเทศไม่ได้แล้ว จำได้แต่ว่ามีนักศึกษาสาวถูก ชายที่
มาจีบสาดน้ำกรดที่หน้าทำให้หน้าเสียโฉม และตาบอด เพราะเหตุเพราะฝ่าย
หญิงไม่เล่นด้วย ต่อมาชายคนนั้นถูกจับ ศาลตัดสินให้เอาน้ำกรดมาหยดใส่ตา
ข้างเดียวกันกับที่ทำให้ตาฝ่ายหญิงนั้นบอด พอศาลตัดสินออกมาแล้ว ชายคนนั้น
ขอเจรจากับฝ่ายหญิง ยอมทุกอย่าง ยกเว้นอย่าให้หยอดน้ำกรดเข้าตา
ฝ่ายหญิงไม่ยอมก็เลยต้องโดน อันนี้ผมก็เลยอยากให้พวกสัตว์นรก พวกนั้น
โดนแบบนี้บ้าง มันจะได้รู้สึก ทีตัวทำคนอื่นได้ ถ้าตัวเองโดนแบบนั้นบ้าง
จะรู้สึกยังไง และผมก็กลัวอีกอย่างถ้าพวกนี้ออกมาลอยหน้าลอยตาในสังคม
ได้ จะทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ยิ่งชอบทำกันอยู่ด้วย ถ้าผมจับตัวพวกนี้
ได้ จะเฉือนกระปู๋ของพวกมันแล้วโยนให้เป็ดกิน(อ้าวออกแนวรุนแรงซะเอง)


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Jojoe ที่ ตุลาคม 10, 2011, 09:42:46 PM
สยองขวัญ จริงๆ  :-[


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: rdk ที่ ตุลาคม 10, 2011, 09:55:08 PM
อีกหนึ่งความรู้..  :o


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Meruto ที่ ตุลาคม 11, 2011, 01:36:28 PM
.


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Bakuno ที่ ตุลาคม 12, 2011, 11:18:48 AM
เพราะกฏหมายเยาวชน เค้าไม่มีโทษประหารไงครับ ทำผิดแรงแค่ไหนก็ได้ก่อนอายุ 18-20 ปี

อ่านเรื่องของ Schoolgirl in Concrete โทษเบามากกับสิ่งที่ทำลงไป

ผมก็ไม่ชอบหนังแนวรุมโทรม ถ้า 1-1 พอรับได้ แต่ถ้าสาวๆ ข่มขืนหนุ่ม ชอบ ^^


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: avclub ที่ ตุลาคม 12, 2011, 09:16:57 PM
 [ง่ะ]สยองมาก


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ✖ Mai[Th]e_Victim™ ✖ ที่ ตุลาคม 15, 2011, 10:31:47 AM
ผมเคยเห็นการ์ตูนเรื่องนี้ในร้านหนังสือมือ 2 ครับ พี่ที่ร้านเค้าบอกเป็นเรื่องจริง


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: av.idol.18 ที่ ตุลาคม 15, 2011, 10:31:39 PM
เหนื่อยใจกับพวกเลวๆจริงๆเลย  >:( >:( >:(


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Jojoe ที่ ตุลาคม 16, 2011, 12:00:21 PM
ท่าน meruto ฟังร็อคภาษาญี่ปุ่นด้วย ...เจ๋งจริง


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆขาว ที่ ตุลาคม 16, 2011, 07:59:25 PM
สยองมากครับ ผมเอาเชื่อ 1 ใน คนที่ทารุณกรรมเธอเจอชื่อด้วย เป็นศาสตราจารย์ระดับญี่ปุ่นเลยนะ แล้วก็ไปเจอบล็อคที่ขยายมากกว่านี้ คือมีรูปถ่ายเธอขณะโดนทรมานด้วย (บางภาพ)


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆขาว ที่ ตุลาคม 16, 2011, 08:03:51 PM
http://carved7.com/?name=variety&file=readvariety&id=424


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆขาว ที่ ตุลาคม 16, 2011, 08:06:51 PM
จัดหนัก จัดเต็ม แถม LINK มังงะ ครับ

http://www.mediafire.com/?znhzwzhvgme


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Okitasun ที่ ตุลาคม 18, 2011, 09:27:07 AM
น่าอนาจใจมากคับ...
คนอาไร จิตใจเลวขนาดนี้


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: kiboom7 ที่ ตุลาคม 18, 2011, 05:04:41 PM
อ่านแล้วจิตตกไปตามๆกัน -*-  http://www.youtube.com/watch?v=t3kZOQuAokA&feature=related นี่คือหนังที่จำลองมาครับ


หัวข้อ: Re: Schoolgirl in Concrete เรื่องจริงสำหรับท่านที่ชอบหนังแนวข่มขืน
เริ่มหัวข้อโดย: kongav ที่ ตุลาคม 20, 2011, 11:52:19 AM
จิตตกสุดๆ ครับบ

คนที่ทำได้ขนาดนี้มันไม่น่าจะเรียกตัวเองว่ามนุษย์แล้วละครับ :-\ :-\













AV Community Since 2009 : AVCollectors.com - Advertising please contact [email protected]