AVC

หลังจากได้รับความช่วยเหลือมาจากพี่ๆใจดีหลายๆท่าน

วันนี้โปรเจคจบของผมก็ได้เข้ามาถึงในจุดที่สามารถเสร็จสิ้นได้แล้วครับ

ผมได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆมาทั้งหมด5คนด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามผมจะไม่เปิดเผยชื่อ
พี่ๆเหล่านั้นนะครับ ต้องขอขอบคุณพี่ๆไว้นะที่นี้ด้วย

เป้าหมายในการวิจัยของผมมีทั้งหมดอยู่สองประการ
1.ดูลักษณะและความเป็นไปของตลาดJAVในบ้านเรา
2.ดูว่ามายาคติในสิ่งที่คนในตลาดนั้นกระทำอย่างเดียวกับสิ่งที่คิดหรือไม่

ในการดูตลาดผมมีโครงสร้างตลาดอธิบายคร่าวๆโดยแผนภูมิออยเลอร์
(http://img.ihere.org/uploads/9aa208f395.jpg)

ในตลาดมีผู้เล่นทั้งหมด 3 พวกหลักคือ
1.อุปทาน คือผู้ให้บริการJAVสู่ผู้บริโภคในบ้านเรา
2.อุปสงค์ คือผู้บริโภคJAV
3.ผู้อยู่กึ่งกลาง คือเป็นผู้บริโภคที่มีความพิเศษในตลาด เพราะคนกลุ่มนี้บริโภาและเผยแพร่ข้อมูลให้ตลาด

ในการหาข้อสรุปจากการวิจัย ผมมีโครงวิจัยทั้งหมดสองอัน ซึ่งทั้งสองอันจะใช้ตอบปัญหาวิจัย
ในแต่ละข้อ

โครงวิจัยที่ 1ผมใช้เพื่อหา ข้อมูลจากตลาด
ในที่นี้ผมใช้โมเดล structure conduct and performance
โดยที่ ผู้เล่นจะใช้โครงสร้างในการดำเนินการและมีผลลัพธ์ และมีสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงจากภายนอกมาเปลี่ยนแปลง
ตลาดได้เช่นกัน โดยจะเป็นตามภาพข้างล่างครับ
(http://img.ihere.org/uploads/fe29b569b5.jpg)

ในโครงนี้มี3ส่วนเพื่อใช้ในการดึงข้อมูลในแต่ละส่วนจากผู้เล่น
ในที่นี้ผมได้สัมภาษณ์ผู้เล่นมาทั้ง5คนครับ

ส่วนนี้ผมคงจะคัดมาส่วนหลักๆ ด้วยหากการใส่มาทั้งหมดนั้น ข้อมูลมีจำนวนที่เยอะมากๆจริงๆ

ผมสามารถสรุปได้5ข้อหลักๆใหญ่ๆว่า
1.ในการแข่งขัน อุปทานและผู้อยู่กึ่งกลางแม้จะอยู่รวมในตลาดเดียวกัน แต่ประสบการแข่งขัน
และสภาพที่แตกต่างกัน เนื่องจากเป้าหมายในการดำเนินงานที่ต่างกัน
2.ในสภาวะการแข่งขัน อุปทานพบตลาดการแข่งขันสมบูรณ์ที่ เนื่องจากมีผู้แข่งขันจำนวนมากที่สามารถ
จัดหาหนังเหมือนกันสู่ผู้บริโภคคนเดียว และเพราะเป้าหมายการทำธุรกิจคือmaximizing profits ทำให้การแข่งขัน
นั้นมีความรุนแรงมาก ในขณะผู้อยู่กึ่งกลางนั้นสามารถอยู่ในตลาดโดยที่สามารถเรียกได้ว่า แทบไร้การแข่งขัน
เนื่องจากผู้อยู่กึ่งกลางนั้นมองว่าการดำเนินกิจการนั้นเป็นไปเพื่อความสุขหรือ maximizing utilityโดยมองว่าการส่งข้อมูลสู่
ตลาดนั้นเป็นเชิงงานอดิเรกมากกว่า ทำให้การดำเนินงานนั้นไม่ต้องแข่งกับใคร หรือแม้ว่าต้องแข่ง กลยุทธ์คือการทำให้งานตัวเอง
แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นในตลาด
3. ในมุมมองหลายคนมองว่า การที่ทางเว็ปมีการติดต่อกับฝั่งอุปสงค์นั้นก่อให้เกิดประโยชน์ในการสร้างความยั่งยืนในการดำเนินการ
มีพลังในการเปลี่ยนตลาด ซึ่งข้อสรุปนึ้สรุปตรงกับ (Tyson, G., Elkhatib, Y., Sastry, N. & Uhliq, S. , 2013 ) ที่ว่าเว็ปไซด์ที่ให้บริการหนังโป๊นั้น ต้องข้ามจาก 1.0 ที่เป็นแค่การให้บริการอย่างเดียว ไปสู่การติดต่อและสื่อสารกับผู้บริโภค
4. อุปสรรคหลักของJAVในบ้านเราไม่เว้นเรื่องวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมเป็นตัวหลักในการทำให้JAVหรือหนังโป๊อื่นๆ วัฒนธรรมไทยเป็นคนละเรื่องกันกับศาสนา คนไทยเอามารวมกันเอง  วัฒนธรรมไทยทำให้กฎหมายมองสืงเหล้านี้ไม่ถูก แต่การบังคับใช้กฎหมายยังอ่อน อยากมากการดำเนินการเป็นเพียงแค่บล็อกเว็บ ไม่มีการดำเนินการจริงจังกับเว็บ
5.ในการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในตลาด คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดในทุกด้านคือผู้บริโภค หากกฎหมายสิ่งลามกถูกยกเลิก ผู้บริโภคจะได้รับความหลากหลายมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีก็เช่นกัน อินเตอร์เน็ตทำให้ผู้บริโภคหาJAVได้ง่ายและหลากหลาย รวมทั้งมือถือทำให้มีช่องทางการบริโภคมากขึ้น ในขณะอุปทานจ้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงอุปสงค์ได้มากขี้น

อันนี้เป็นความคิดหลักๆ แต่ก็ยังมิได้รวมความคิดเห็นอื่นๆเข้ามาไว้ เรื่องจากเนื้อหามีปริมาณเยอะมาก

จากโครงวิจัยที่ 1นี้
ผมได้เห็นมายาคติอยู่ทั้งหมด5ข้อ+1
1.ผู้บริโภคบริโภคJAVต่อสัปดาห์เยอะ
2.ผู้บริโภคบริโภคJAVวันต่อสัปดาห์เยอะ
3.ผู้บริโภคเลือกJAVจากหนังโป๊อื่นๆ
1-3 เพราะ JAVให้ ความ 1.น่ารักหรือส่วนอื่นๆ(แปลความหลักได้ว่าเป็นลักษณะประกอบของนักแสดง) 2.ความหลากหลาย(รูปแบบหนัง ค่าย fetish และอื่นๆ) 3.ความเป็นเอเชีย(ความเข้ากันได้ทางวัฒนธรรม)?
4.ผู้ให้บริการเริ่มให้บริการonline streaming สิ่งนี้จะให้รายได้จากผู้บริโภคจริงไหม?
5.จริงหรือไม่ที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ๆ บริโภคJAVอย่างฉาบฉวย โดยการข้ามฉากต่างๆในJAV
และจากผู้หญิง
6.JAVมีไว้เพื่อชายโสดสิ้นหวังดู?


โครงวิจัยที่ 2
ข้างล่างนี้เป็นแผนภูมิเพื่ออธิบายโมเดลconsumer behaviorทีดัดแปลงมาจากconsumer process
ในโมเดลของผม เหตูผลการบริโภคและส่วนประกอบการบริโภคนั้นส่งผมต่องการบริโภค และการบริโภคส่งผลต่อพฤติกรรมบางอย่างในภายหลัง และเชื่อว่าลักษณะทางประชากรศาสตร์ส่งผมกับทุกสิ่งได้
(http://img.ihere.org/uploads/e809a61aa4.jpg)
ในแผนภูมินี้ผมจะเลือกทำวิจัยมาแค่ในกรอบเส้นประสีแดงเท่านั้นนะครับ

โดยผมจะดูการบริโภคว่าจะถูกส่งผลจาก เหตุผลการบริโภค ลักษณะการบริโภคและ ประชากรศาสตร์
ตาม5โมเดลข้างล่าง ที่ผมจะใช้การวิเคราะห์เชิงเศรษฐมิติ
เพือหา 1.การบริโภคJAVต่อสัปดาห์ 2.บริโภคJAVวันต่อสัปดาห์ 3.การเลือกJAVจากหนังโป๊อื่นๆ 4.ความเต็มใจที่จ่ายให้เว็บไซด์
5.การข้ามฉากของผู้บริโภค
มีจำนวน Sample = 601, Male=583, Female= 16 and others = 2 ดงนั้นผมไม่สามารถทำวิเคราห์กับผู้หญิงและเพศอื่นๆได้ เนื่อกจากจำนวนข้อมูลน้อยมาก
อายุต่ำกว่า 18 = 4.8%, อายุ18-22 = 36.4%, อายุ 23-35 = 50.2% และ มากกว่า 35 = 8.5%
มีแฟน = 26.5%, แต่งงาน = 10.5%, หย่า = .7%, โสด = 62.1% และ หม้าย 35 = .3%
(http://img.ihere.org/uploads/b9157ccc06.jpg)
(http://img.ihere.org/uploads/78d4723a2a.jpg)

โดยผลลัพธ์นั้นผมได้ตัดมาบางส่วน ตัดมาเฉพาะตัวแปรที่สนใจจากทั้งหมด กว่า3หน้าA4เลยนะครับ
(http://img.ihere.org/uploads/2e471e73c1.jpg)
(http://img.ihere.org/uploads/f3bfb2a710.jpg)
(http://img.ihere.org/uploads/b9b18db75c.jpg)

ผลสรุป นั้นสามารถสรุปเป็นทีละตัวแปรได้ แต่เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ผมขอสรุปเป็นไอเดียหลักๆนะครับ

มายาคติทั้ง6ข้อนั้นแทบไม่เป็นจริงแต่อย่างใด
มายาคติ1. จากสมการที่ 1 ผู้บริโภตนั้นบริโภคJAVจากความหลายหลายจริง แต่ไม่ใช่เพราะลักษณะนักแสดงหรือความเข้ากันทางวัฒนธรรมแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะความหลากของJAVและตัวนักแสดงJAVจริง
มายาคติ2. จากสมการที่ 2 ผู้บริโภตนั้นเพิ่มจำนวนวันบริโภคจาก ลักษณะนักแสดง ความเข้ากันได้ทางวัฒนธรรม ความหลากหลายนั้นไม่จริง มีเพิ่งแต่นักแสดงเท่านั้นที่ทำได้
มายาคติ3. จากสมการที่ 3 การเลือกJAVจากหนังโป๊อื่นๆมีผลสรุปเหมือนข้อสอง
มายาคติ1-3 มีข้อสรุปเดียวกันกับวิจัยว่า นักแสดงเองสามารถดึงดูงให้มีการบริโภคอยาางมากในตัวหนัง (Karniouchina, E. V. , 2010)
มายาคติ4. จากสมการที่ 4 ผู้บริโภคนั้นยินยอมที่จะจากให้กับเว็บไซด์เพื่อการดาวน์โหลด ในขณะonline streamingนั้น ไม่พบผลที่ทำให้ผู้บริโภคยอมจ่ายได้
มายาคติ5. จากสมการที่ 5 ไม่พบการข้ามฉากในการบริโภคเมื่อเทียบระหว่างกลุ่มอายุในผู้บริโภค  การข้ามฉากในหมู้ผู้อายุน้อยมากกว่าในผู้ที่อายุมากกว่านั้นไม่เป็นจริง และผู้ที่ชอบดูJAVยาวๆ มีแนวโน้มที่จะลดการข้ามฉากในระหว่างการบริโภคJAV
มายาคติ6. จากสมการที่ 1-3 เมื่อเทียบกับผู้ที่มีแฟน ผู้ที่แต่งงานลดการบริโภคJAVจริง แต่กับผู้ที่โสดนั้น ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นJAVเป็นเพื่อคนโสดนั้นจริง

การนำไปประยุกต์ใช้ในโลกธุรกิจ
อุปทานสามารถเรียนรู้ได้จากการที่มายาคติที่ไม่เป็นจริงในแต่ละข้อได้
จากมายาคติ1 อุปทาน สามารถปรับเว็บไซด์ในการปรับบริการ ให้มีการโปรโมทตัวนักแสดง และความหลากหลายเช่น ประเภทของหนัง ค่าย ฉาก (ผู้บริโภคนั้นไม่ชอบcensoredสักเท่าไร)
จากมายาคติ2-3 อุปทานสามารถทำให้ผู้บริโภคเข้ามาดูJAVในจำนวนวันหรือเลือกJAVมากขึ้นด้วยตัวนักแสดง
จากมายาคติ4 อุปทานที่ทำonline streamingต้องคิดให้ดีในการหาแหล่งเงินได้ เพราะ ผู้บริโภคอาจจะไม่ได้จ่ายให้เว็บไซด์

ทั้งหมดนี้คือการวิเคราะห์ ตามข้อมูลที่ผมได้รับอย่างตรงไปตรงมาที่สุดนะครับ บางส่วนอาจขัดหลักความเห็นของบางคนก็เป็นได้ครับ ผมคงเขียนได้เท่านี้ เนื่องจากเกรงว่า พี่ๆ เพื่อนๆ จะขี้เกียจอ่านกันเสียก่อนครับ

ข้อจำกัดทางการวิจัย
1. โมเดลนี้เปนโมเดลประยุกต์ ย่อมอาจขาดความสมบูรณ์ หรือมีโดลที่ดีกว่านี้
2. การทำโปรเจคนี้ในส่วนของconsumer behaviorนั้นเป็นการวิเคราะห์เชิงสมการเดี่ยว ในอนาคตอาจเห็นผลที่ชัดกว่าหากใช้สมการstructural equation model ซึ่งปัจจุบันผมไม่มีความรู้ถึงขั้นนั้น
3. การทำวิจับนั้อาจเรียกได้ว่าเป็นสำหรับผู้ชาย เนื่องจากขาดsampleจากเพศอื่นๆ อาจเป็นดังข้อสรุปที่ว่าผูหญิงรู้สึกว่าหนังโป๊นั้นเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยผู้ชาย และในไต้หวัน ผู้หญิงรู้สึกว่าJAVนั้น ผู้ชายมีการแสดงอำนาจเหนือกว่า(Dworkin, A., 1985 )และมองการมีเพศสัมพันธ์นั้นไม่มีความเป็นมนุษย์สักเท่าไหร่(Wong, H. and Yau, H.. , 2014) ดังนั้นหากทำวิจัยในอนาคต การเก็บข้อมูลโดยตรงกับผู้หญิงหรือเพศอื่นๆ นั้นน่าจะเป็นวิธีการที่ดีกว่า


หากมีคำถามใดๆสงสัย ทิ้งคำถามมาได้เลยนะครับ

ขอขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ร่วมมือเข้ามาทำแบบสอบถาม และที่ใจดีให้สัมภาษณ์นะครับ

โอเคครับ ยอดไปเลยที่เราจะมีผลงานวิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจัง ยอมรับว่ายังอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องนักในฐานะคนที่ไม่มีความรู้เรื่องวิจัยทางเศรษฐศาสตร์เลย แต่ก็พอเข้าใจสาระสำคัญ จากนี้จะมีขั้นตอนต่อไปอย่างไรบ้างครับ

ตอนเสนอโครงงานวิจัยนี่  อาจารย์ไม่ทำหน้าแปลกๆหรือครับ [ตกใจ]

อาจารย์ที่ปรึกษาเป็นชายหรือหญิงครับ อิอิ

ยอดเยี่ยมครับ ขอให้เก็บคะแนนสูงๆ นะครับ สู้ๆ โชคดีครับ

เป็น งานวิจัย ที่ดีมากๆเลยครับ

ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้ความช่วยเหลือมามากครับ :)

รู้ๆกันอยู่แหละครับ555

มีพี่ๆท่านใดสงสัย อยากรู้อะไร ถามผมมาได้เลยครับ
ผมยินดีตอบเต็มที่เลยครับ :)

น่าสนใจมากครับ

เข้าใจยากสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ด้านนี้ครับ ถ้าสามารถสรุปเป็นภาษาที่คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้เลยจะยิ่งดีครับ
คือเสียดายที่อุตส่าห์ตั้งใจเอาผลการวิเคราะห์มาให้ดูทั้งทีแต่คนที่อยากรู้ไม่สามารถเข้าใจได้

ยอดไปเลยครับ   เรียกว่า   หื่นอย่างมีหลักการ

ข้อมูลนี้  เอาไปใช้ในการทำหนังของ Nicky Pimp ได้เลยนะเนี่ย
ไอ้ตอน  นักบิดราคะ    ดูว่า  จะทำหนัง อะไร  ยังไง  มาตอบโจทย์ตลาดไทย

ในอนาคต ผมจะไปหุ้นกับค่ายหนังญี่ปุ่นครับ    แล้วเอาของแท้มาขายคนไทย
และเอาดารา AV ญี่ปุ่นมา  โปรโมทที่ Siam Paragon 

ซึ่งถ้าทำอย่างนั้น  ผมจะกำจัดแผ่นเถื่อนด้วยครับ   จะดูต้องซื้อแผ่นแท้

ก็ต้องรอดูปัญหาการเมืองก่อน    ถ้าผ่านไปได้   บ้านเมืองเรา  ควรจะหื่นให้เป็นระบบ
และมีหลักการ  อย่างที่น้อง   เขาได้ทำการวิจัย มานั่นแหละครับ