AVC

พวกนี้เหมาะกับการเก็บ หรือแชร์กันชั่วคราวครับ มันไม่มีทางอยู่ไปได้ตลอดอยู่แล้ว ยิ่งถ้าฟรีนี่ยิ่งไม่ต้องหวังเลย ผมว่าอยู่ได้ไม่เกิน 2-3ปี

ผมเก็บใน google drive ตอนนี้ 18 TB ครัลบ

ผมเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ผมนี่แหละ แต่เลือกอันชอบๆสำรองไว้ใน Google Drive 1.5 TB.

หั่นให้น้อยสุดเเล้วเก็บไว้ในคอม  ซื้อฮารดิสมาเติมตามเวลาอันควร เคยเก็บไว้บนเน็ท จำเเอคเค้าไม่ได้ จบเลย เพราะใช้เเบบฟรี สมัครอีเมย์เยอะเเยะเกินไปเลยลืม เอาไปเอามามันสนุกที่ได้หั่นนี่เเหละ

คุณ kkunurat มาสายแฟนคลับ ameri ตามเก็บถามตอบpmกับผมมาสักระยะแล้ว
ส่วนตัวผมเก็บหนังเธอไว้ใน hdd อย่างเดียว  แนวทางคุณ kkunuratก็ดีครับถ้ากังวลว่าหนังจะหายหรือ hdd เสีย
คือสำรองไว้หลายๆที่  ถ้าของผมไม่กังวลมากก็ยอมรับความเสี่ยงไป   

พ๊มม คนที่เก็บไม่ถึง 100Gb ได้แต่นั่งมองตาปริบ  ::)

  ตอนนี้ผมก็ใช้ Terabox อยู่เหมือนกัน แต่เหมือนที่ทุกท่านว่าให้พื้นที่เยอะขนาดนี้
แล้วฟรีด้วยมันแปลกๆ 55555 แต่ผมจะมาเล่าประสบการณ์ของ Mega ที่ผมเจอให้ฟัง
 
  ในบรรดาเว็บฝากไฟล์ทั้งหมดผมก็ยกให้ Mega เป็นอันที่ทำออกมาดูดีและใช้งาน
ง่ายที่สุดแต่ก็มีเงื่อนไขมากมาย คือตัวที่ผมใช้เป็นตัวฟรีนะต้องบอกก่อน เช่น นอกจากโควต้าพื้นที่เก็บแล้ว
ยังมีโควต้า Tranfer อีก สามารถโหลดหรืออัพโหลดไฟล์ได้วันละไม่เกิน 4 GB ถ้าจำไม่ผิดนะ (ทุกท่านก็
ทราบอยู่แล้วว่าหนัง AV สมัยนี้เรื่องนึงมันใหญ่กว่า 4 GB อยู่แล้ว) บางที่ไปเจอไฟล์ดีๆแต่ใหญ่หน่อยผมนี่
เศร้าก่อนเลย แล้วไม่รู้ทำไมเวลาโหลดอะไรก็ช่างมันจะต้องโหลดในเว็บมันให้เสร็จก่อน (ไม่ใช่การบีบอัดไฟล์
นะคนเคยใช้จะรู้ดี) แล้วค่อยเด้งลิ้งมาโหลดในเครื่องเราอีกที WTF

  แต่ที่พีคที่สุดคือผมมี ID Mega หลายอันแต่ก็เต็มทุกอันเพราะมันแค่ 50 GB
ผ่านไปนานมาก ผมก็ไม่ได้เข้าไปดูหรอก
มีอยู่วันนึงมีอีเมลส่งมาประมาณว่า"คุณใช้เกินโควต้ากำหนด คุณต้องอัพเกรดภายใน
วันXXเดือนXX มิฉะนั้นเราจะทำการลบไฟล์ของคุณ" โอ้โหตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนโดนเรียกค่าไถ่เลยอ่ะ
คือผมก็ว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎนะ เพราะไฟล์ก็ไม่ได้เกิน แล้วผมก็ไม่เคยโหลดเอางานออกมาด้วย มีแต่อัพโหลดไปอย่างเดียว
ผมคิดว่าที่ผมพลาดคือการไปโหลดงานต่างๆนาๆของคนอื่นที่ฝากไว้กับ Mega นี่แหละซึ่งมัน
นับรวมหมด ซึ่งผมก็ต้องยอมจำนนจ่ายเงินไปไม่ได้ ID เดียวด้วยนะทั้งสี่ไอดีเลยมาพร้อมกันหมด

ถ้าบางคนถามว่าแล้วทำไมไม่โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องแล้วปล่อยให้IDปิดไป ผมตอบเลยว่า
1.เครื่องผมมีพื้นที่ไม่พอ
2.ไฟล์ทั้งหมดใน Mega ทำอะไรไม่ได้เลยพูดง่ายถูกล็อคนั่นแหละ เรื่องก็มีประมาณนี้ครับ

ปล.ที่ผมมาฝากไฟล์กับเว็บเพราะผมเคยฮาร์ดดิสพัง 2 ครั้ง ครั้งแรกฮาร์ดดิสธรรมดา ครั้งที่สองนี่ SSD เลย
     เคลมได้ได้ตัวใหม่มาแต่งานที่หายไปไม่คุ้มเลยครับ

ส่วนตัวผมเก็บในฮาร์ดดิสค์แบบinternal อย่างเดียวเลยครับ ด้วยเหตุผลส่วนตัว ที่ต้องการเรียกใช้ไฟล์ได้อย่างสะดวกทันทีเพราะชอบตัดต่อวิดีโอ ถ้าฝากบนคลาวด์นอกจากต้องเสี่ยงโดนลบไฟล์แล้ว ก็ต้องเสียเวลาโหลดกลับลงเครื่องอีก ตอนฝากก็เสียเวลาอัพ ถ้าใช้ฮาร์ดดิสค์แบบexternal ก็ต้องต่อusb แล้วโหลดกลับเข้าเครื่องอีก เพราะตัดต่อผ่านusbมันช้า ถึงจะเป็น usb 3.0 ก็เทียบไม่ได้กับ  SSD M.2 NVME ถ้าใช้ NAS ก็หลักเดียวกันกับฝากบนคลาวด์ เพราะฉะนั้นการเก็บไว้ใน internal ฮาร์ดดิสค์เหมาะกับความต้องการผมที่สุดครับ

ทีนี้มาว่ากันว่า ทำไงให้ความเสี่ยงน้อยที่สุด เพราะผมเองก็ผ่านการเสียหนังจำนวนมาก เพราะฮาร์ดดิสค์พังมาแล้ว จนต้องมาตั้งกระทู้เมื่อหลายปีก่อน เรียกว่าจำฝังใจจากความไร้ประสบการณ์

และจากครั้งนั้น ทำให้ผมมาวิเคราะห์ว่าทำยังไงไม่ให้ประว้ติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะตอนแรกใช้งานแบบเด็กน้อยไม่รู้อะไร

เลยสรุปหลักได้ 6 ข้อดังต่อไปนี้ (แต่ทำได้แค่ 5 ข้อ ตามงบประมาณที่ต้องมีลิมิท)

1. ใช้ฮาร์ดดิสค์รุ่นที่ทนกว่าปกติ ซึ่งในเครื่องผมเปลี่ยนมาใช้ Seagate Ironwolf ทุกตัว เพราะรุ่นนี้เน้นความทนทาน ใช้งานได้นาน ราคาจะแพงกว่าฮาร์ดดิสค์แบบปกติในขนาดพื้นที่เท่ากัน ในอนาคตถ้ามีรุ่นไหนทนกว่าก็จะเปลี่ยนไปใช้รุ่นนั้น

2. ใช้ตัวจ่ายไฟที่ดีและเสถียร เพื่อมีไฟเลี้ยงให้ฮาร์ดดิสค์อย่างเพียงพอ ซึ่งผมเลือกตัวฟูลวัตถ์แท้ 1000W CORSAIR RM1000x

3. ใช้เมนบอร์ดที่มีภาคจ่ายไฟเยอะๆ ซึ่งผมเลือกตามงบคือ Askrock Steel legend 570 ที่มีภาคจ่ายไฟ 10 เฟส ตัวนี้ดีมากเลย นอกจากภาคจ่ายไฟเยอะและเสถียรแล้ว ฮาร์ดดิสค์ที่ไม่ได้เรียกใช้งานจะอยู่ในสถานะ sleep mode เรียกได้ว่าลดโอกาสเสื่อมได้เยอะมาก

4. ตัวนี้สำคัญมากคือเครื่องสำรองไฟต้องมี เวลาไฟตกไฟดับไฟกระชากช่วยได้มาก เพราะไฟบ้านเราไม่ค่อยเสถียร ตามงบที่ผมมีก็เลือกใช้ Syndome Premium 1000VA

5. ใน 4 ข้อแรกเป็นการดูแลด้านฮาร์ดแวร์ แต่ข้อ 5. จะเป็นการดูแลการใช้งาน ผมจะไม่ไช้ฮาร์ดดิสค์ที่เก็บหนังโหลดบิทเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ฮาร์ดิสค์ทำงานหนัก  แต่จะมีฮาร์ดดิสค์สำหรับดาวน์โหลดโดยเฉพาะ พอโหลดเสร็จ ค่อยย้ายไปเก็บในฮาร์ดดิสค์ที่เตรียมไว้ และการตัดต่อก็จะไม่ตัดต่อในฮาร์ดดิสค์ที่เก็บ แต่จะย้ายไปตัดต่อในฮาร์ดดิสค์แบบ SSD แทน เพื่อลดการใช้งานให้มากที่สุด และมีประโยชน์ในเรื่องความเร็วด้วย ส่วนเรื่องการใช้ฮาร์ดดิสค์แบบ External USB นั้น ลีมไปได้เลย สำหรับสายสะสมห้ามใช้เด็ดขาด เหมาะสำหรับไว้ดูหรือเก็บชั่วคราวเท่านั้น เพราะการเชื่อมต่อแบบ USB ไฟจะไม่ค่อยเสถียร และช้ามากถึงจะเป็น usb 3.0 ก็ตาม โอกาสพังมีสูงมาก

6. ข้อนี้เป็นข้อที่ควรจะทำ แต่ผมยังไม่ได้ทำ เพราะมันจะใช้งบประมาณมาก นั่นคือการแบคอัพฮาร์ดดิสค์ใหม่ทุก 2-3ปี ซึ่งจากจำนวนฮาร์ดดิสค์ที่ผมมีอยู่ น่าจะใช้งบมากกว่า 50k+ ซึ่งมันจะเกินไปหน่อย และผมพิจารณาแล้วว่า แค่ 5 ข้อก็เหลือเฟือ และใช้วิธีตรวจเชคฮาร์ดดิสค์ทุก 6 เดือนเอา ถ้าตัวไหนมีสัญญาณไม่ดีค่อยเปลี่ยนตัวนั้น แต่จากที่ผมทำแบบนี้ ทุกตัวอายุ 4 ปีขึ้น ยังไม่มีสัญญาณใดๆที่บอกว่าฮาร์ดดิสค์มีปัญหา ตัวที่ใช้โหลดบิท ผมก็ใช้มาตั้งแต่ปี 2011 ก็ยังใช้โหลดได้ปกติ ยังไม่ได้เปลี่ยนแต่อย่างใด

มาแชร์วิธีการและแนวคิดส่วนตัวครับ

ส่วนตัวผมเก็บในฮาร์ดดิสค์แบบinternal อย่างเดียวเลยครับ ด้วยเหตุผลส่วนตัว ที่ต้องการเรียกใช้ไฟล์ได้อย่างสะดวกทันทีเพราะชอบตัดต่อวิดีโอ ถ้าฝากบนคลาวด์นอกจากต้องเสี่ยงโดนลบไฟล์แล้ว ก็ต้องเสียเวลาโหลดกลับลงเครื่องอีก ตอนฝากก็เสียเวลาอัพ ถ้าใช้ฮาร์ดดิสค์แบบexternal ก็ต้องต่อusb แล้วโหลดกลับเข้าเครื่องอีก เพราะตัดต่อผ่านusbมันช้า ถึงจะเป็น usb 3.0 ก็เทียบไม่ได้กับ  SSD M.2 NVME ถ้าใช้ NAS ก็หลักเดียวกันกับฝากบนคลาวด์ เพราะฉะนั้นการเก็บไว้ใน internal ฮาร์ดดิสค์เหมาะกับความต้องการผมที่สุดครับ

ทีนี้มาว่ากันว่า ทำไงให้ความเสี่ยงน้อยที่สุด เพราะผมเองก็ผ่านการเสียหนังจำนวนมาก เพราะฮาร์ดดิสค์พังมาแล้ว จนต้องมาตั้งกระทู้เมื่อหลายปีก่อน เรียกว่าจำฝังใจจากความไร้ประสบการณ์

และจากครั้งนั้น ทำให้ผมมาวิเคราะห์ว่าทำยังไงไม่ให้ประว้ติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะตอนแรกใช้งานแบบเด็กน้อยไม่รู้อะไร

เลยสรุปหลักได้ 6 ข้อดังต่อไปนี้ (แต่ทำได้แค่ 5 ข้อ ตามงบประมาณที่ต้องมีลิมิท)

1. ใช้ฮาร์ดดิสค์รุ่นที่ทนกว่าปกติ ซึ่งในเครื่องผมเปลี่ยนมาใช้ Seagate Ironwolf ทุกตัว เพราะรุ่นนี้เน้นความทนทาน ใช้งานได้นาน ราคาจะแพงกว่าฮาร์ดดิสค์แบบปกติในขนาดพื้นที่เท่ากัน ในอนาคตถ้ามีรุ่นไหนทนกว่าก็จะเปลี่ยนไปใช้รุ่นนั้น

2. ใช้ตัวจ่ายไฟที่ดีและเสถียร เพื่อมีไฟเลี้ยงให้ฮาร์ดดิสค์อย่างเพียงพอ ซึ่งผมเลือกตัวฟูลวัตถ์แท้ 1000W CORSAIR RM1000x

3. ใช้เมนบอร์ดที่มีภาคจ่ายไฟเยอะๆ ซึ่งผมเลือกตามงบคือ Askrock Steel legend 570 ที่มีภาคจ่ายไฟ 10 เฟส ตัวนี้ดีมากเลย นอกจากภาคจ่ายไฟเยอะและเสถียรแล้ว ฮาร์ดดิสค์ที่ไม่ได้เรียกใช้งานจะอยู่ในสถานะ sleep mode เรียกได้ว่าลดโอกาสเสื่อมได้เยอะมาก

4. ตัวนี้สำคัญมากคือเครื่องสำรองไฟต้องมี เวลาไฟตกไฟดับไฟกระชากช่วยได้มาก เพราะไฟบ้านเราไม่ค่อยเสถียร ตามงบที่ผมมีก็เลือกใช้ Syndome Premium 1000VA

5. ใน 4 ข้อแรกเป็นการดูแลด้านฮาร์ดแวร์ แต่ข้อ 5. จะเป็นการดูแลการใช้งาน ผมจะไม่ไช้ฮาร์ดดิสค์ที่เก็บหนังโหลดบิทเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ฮาร์ดิสค์ทำงานหนัก  แต่จะมีฮาร์ดดิสค์สำหรับดาวน์โหลดโดยเฉพาะ พอโหลดเสร็จ ค่อยย้ายไปเก็บในฮาร์ดดิสค์ที่เตรียมไว้ และการตัดต่อก็จะไม่ตัดต่อในฮาร์ดดิสค์ที่เก็บ แต่จะย้ายไปตัดต่อในฮาร์ดดิสค์แบบ SSD แทน เพื่อลดการใช้งานให้มากที่สุด และมีประโยชน์ในเรื่องความเร็วด้วย ส่วนเรื่องการใช้ฮาร์ดดิสค์แบบ External USB นั้น ลีมไปได้เลย สำหรับสายสะสมห้ามใช้เด็ดขาด เหมาะสำหรับไว้ดูหรือเก็บชั่วคราวเท่านั้น เพราะการเชื่อมต่อแบบ USB ไฟจะไม่ค่อยเสถียร และช้ามากถึงจะเป็น usb 3.0 ก็ตาม โอกาสพังมีสูงมาก

6. ข้อนี้เป็นข้อที่ควรจะทำ แต่ผมยังไม่ได้ทำ เพราะมันจะใช้งบประมาณมาก นั่นคือการแบคอัพฮาร์ดดิสค์ใหม่ทุก 2-3ปี ซึ่งจากจำนวนฮาร์ดดิสค์ที่ผมมีอยู่ น่าจะใช้งบมากกว่า 50k+ ซึ่งมันจะเกินไปหน่อย และผมพิจารณาแล้วว่า แค่ 5 ข้อก็เหลือเฟือ และใช้วิธีตรวจเชคฮาร์ดดิสค์ทุก 6 เดือนเอา ถ้าตัวไหนมีสัญญาณไม่ดีค่อยเปลี่ยนตัวนั้น แต่จากที่ผมทำแบบนี้ ทุกตัวอายุ 4 ปีขึ้น ยังไม่มีสัญญาณใดๆที่บอกว่าฮาร์ดดิสค์มีปัญหา ตัวที่ใช้โหลดบิท ผมก็ใช้มาตั้งแต่ปี 2011 ก็ยังใช้โหลดได้ปกติ ยังไม่ได้เปลี่ยนแต่อย่างใด

มาแชร์วิธีการและแนวคิดส่วนตัวครับ

ออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่กูรูครับ ก็งูๆปลาๆเหมือนกัน

ผมใช้โปรแกรมหลายตัวทำงานแตกต่างกันครับ เอาเฉพาะที่ท่าน kkunurat ถามคือใช้ตัวไหนตัดไฟล์โดยคุณภาพไม่ลด ส่วนใหญ่ผมจะใช้ AVIdemux ครับ ค่อนข้างใช้งานง่าย และคุณภาพเท่าต้นฉบับ

สำหรับฮาร์ดดิสค์แบบ 2.5 ยังไม่มีตัวไหนทนทานครับ พอๆกันหมด

ส่วนการตรวจสภาพฮาร์ดดิสค์ไม่ใช่การฟังเสียง แต่อาจจะใช้โปรแกรมที่ติดมากับวินโดวส์ก็ได้ครับ  โดยคลิกขวาเลือกไดรว์ที่ต้องการตรวจสอบ เลือกคําสั่ง Properties. คลิกแท็ป Tools. เลือกคําสั่ง Check now ประมาณนี้ เป็นการตรวจสอบเบื้องต้น แต่ส่วนใหญ่ผมจะใช้HD Tune ตรวจสอบ หาโหลดไม่ยากครับ

http://www.avcollectors.com/board/index.php?topic=222474.0

ฝากกระทู้เรื่องราวของจารย์เบสยอดนักสะสมไฟล์ไว้ด้วยครับ
จริงๆชื่อกระทู้ "คลาวด์ vs ฮาร์ดดิกส์" ไม่เกี่ยวกัยข้องกับเนื้อหาเท่าไหร่
แต่ตอนนั้นไม่รู้จะตั้งอะไร

คล้ายๆกันเลยครับ
ผมมีอีเมล์ 3 เจ้า
(gmail, hotmail, yahoo)
เลยสมัคร
Terabox 3 id ก็จะได้ 3 TB
Mega 3 id ได้ ประมาณ 100 GB (อันนี้สงสัยเหมือนกันครับว่าทำไม id ที่สมัครเพิ่มนั้นได้แค่ 25 GB และ 20 GB ไม่ได้ 50 GB เหมือน id แรก)

*** ส่วนเทคนิคผมคือใช้รหัสผ่านเดียวกันทุก id และเข้าค้างไว้เลยไม่ต้อง sign out
แต่ใช้ web browser อีก  3 เจ้า จับคู่ 3 id ครับ
เช่น
1. edge คู่กับ id ของ hotmail
2. chrome คู่กับ id ของ gmail
3. firefox คู่กับ id ของ yahoo
ครับ


ปล. โปรแกรมหั่น ท่าน maload ใช้อะไรครับ
ผมใช้ boilsoft กับ ultra video splitter




(https://i.ibb.co/PDWYZbs/Pics-Art-11-21-09-51-31.jpg) (https://ibb.co/hYdMRnx)



(https://i.ibb.co/GvsQC3j/1637462951885.jpg) (https://ibb.co/ynhFgBJ)



(https://i.ibb.co/MM2CppF/1637462936994.jpg) (https://ibb.co/symVQQ8)

ใช้ ffmpeg อยู่ เพราะมันไวดี เเล้วก็สามารถนั่งดูหนังไปด้วยเเล้วก็ตัดตรงนั้นเลย  มันต้องจำข้อความนิดๆหน่อยๆเเต่ก็ใช้ง่ายดี  เราก็อบเขาจากในเน็ทเเล้วเซฟรูปเเบบคำสั่งไว้ เช่น

 ffmpeg -ss  0:19:26 -to 2:1:45 -i      <บอกว่า จะให้ตัดตั้งเเต่ 0 ชั่วโมง  19 นาที 26วินาที ไปถึง ...>
 F:\hdd600.mp4 <ใส่รายละเอียดไฟล์ลงไปว่า ไฟล์นี้คืออะไร อยูที่drive f

 -c copy

 E:\Tadai_Mahiro\stars-118\star-118.mp4  <ใส่ว่าจะให้ไฟล์ชื่ออะไร ไปอยู่ที่  e   >

พอรวมๆกันก็จะได้ กดไปก็จบ
ffmpeg -ss  0:19:26 -to 2:1:45 -i      F:\hdd600.mp4  -c copy  E:\Tadai_Mahiro\stars-118\star-118.mp4

 จริงๆลักษณะนี่ มีคนไปทำเป็นโปรเเกรมที่ใช้ติดตั้งเเล้วกดตัดกดตัดเหมือนกัน ไม่ต้องใส่คำสั่งคือโปรเเกรม losslesscut  เคยใช้อยู่พักนึง เเต่มันคุ้นเคยกับการกรอกตัวเลขมันไวกว่าเเล้วก็ดูหนังไปด้วยมากกว่า กินพื้นที่หน้าจอน้อยกว่าคือบันทัดเดียว 555

ใช่เลยครับ ท่าน play... เข้าใจผมลึกซึ้งมากเลยครับ ลดความเสี่ยงโดยกระจายเก็บหลายๆที่ เป็นการ backup หลายๆทาง ถ้าไฟล์ไหนชอบมากเก็บใน HDD 3 ลูกก็มีครับ 555

ท่าน play... นี้เป็นผู้ให้คำปรึกษาและสอนผมเรื่อง AV มาตั้งแต่ เม.ย.63 ก็จะ 2 ปีแล้ว
และท่านก็สายบางกรอบ ชอบสูงเพรียวเหมือนกันกับผม ผมขอหนังของ Ameri Ichinose ที่ผมหาเก็บไม่ได้จากเว็บทั่วไปหรือเก็บได้แต่ความละเอียดต่ำอยู่หลายเรื่องเลย

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับน้ำใจที่แบ่งปันให้ครับ

สไตล์คุณ kkunurat อาจเข้าวงการสะสมช้าไปบ้างครับ ที่ผมเคยพูดให้ฟังบ่อยๆ แต่ก็ยังไม่สายเกินไปครับ
เรื่องหนังผมไม่ค่อยกังวลเรื่องหาย   ที่ให้ไปก็ถือว่าได้สำรองไปในตัว  กระทู้นี้ก็ดีครับได้เรียนรู้จากท่านอื่นไปด้วย
ผมคงให้คำแนะนำได้ไม่หมด

losslesscut ที่ท่านmaloadเคยใช้ คือตัวไหนครับ เพราะ avidemux มันก็ตัดง่ายๆ กรอกตัวเลขเวลาที่ต้องการได้เลย ไม่ต้องมานั่งพิมพ์คำสั่งยาวๆ เวลาที่ระบุได้ก็ระดับ x.xxx วินาทีเลยทีเดีบว

ไม่ก็คลิกลากไปจุดที่ต้องการแล้วกดSet makerA  ลากไปจุดสุดท้ายที่ต้องการ แล้วกดSet makerB แล้วกดเซฟ ก็ได้ไฟล์ที่ต้องการแล้ว สะดวกดี แต่ถ้าเคยลองใช้แล้วไม่ถนัด ก็ขออภัยด้วยครับ อาจจะแล้วแต่คนถนัด

(https://i.postimg.cc/HsvCYS29/Yui.jpg)
https://i.postimg.cc/HsvCYS29/Yui.jpg

ลึกซึ้งมากๆครับ

ผมยังหัวช้าอยู่ ขอถามเพิ่มครับ

ffmpeg คือคำสั่ง dos ใช่ไหมครับ

https://github.com/mifi/lossless-cut   เคยใช้อยู่พักหนึ่งรู้สึกมันใหญ่ไป เราชอบดูหนังไปตัดไป เลยต้องการอะไรที่มันเล็กๆตัดไปดูไปเรื่อย มันโปรเเกรมในวินโดนี่เเหละ เเต่มันอาศัยเขียนคำสั่งเอาไม่มีให้กดปุ่มให้ลากเม้า เเต่ข้อดีคือมันเล็ก มันตัดของมันไปเรือยๆ เราก็ดูหนังต่อไปได้  เราชอบเเบบนั้น https://www.youtube.com/watch?v=r1AtmY-RMyQ

มาเสริมท่าน Hiryo เล็กน้อยตรงที่ Internal HDD สามารถเก็บแบบ External ได้นะครับโดยการซื้อ NAS หรือ HDD Docking มาใส่ ค่าใช้จ่ายก็มีตามสมควร หรือพวกห้องเช่าถ้าพื้นที่มันไม่ได้น้อยเกินไปก็ซื้อคอมประกอบมาวางได้ หรือถ้าอะไรที่มันกินพื้นที่ห้องมากเกินไปก็อาจจะต้องซื้อของที่มีขนาดเล็กลงเพื่อให้มีพื้นที่พอ แต่ก็นั่นล่ะครับทุกอย่างมันคือเงินก็ต้องวางแผนใช้จ่ายให้ดี ไม่ลำบากตัวเองจนเกินไปเป็นดีที่สุดครับ

ส่วนตัวผมตอนนี้ใช้ MEGA ส่วนบุคคล 16TB อยู่ ว่าจะซื้อแบบ Internal HDD เก็บแต่เงินก็ไม่เคยพอซักที เคยอยากลอง MEGA Business แต่เข้าใจว่ามันเก็บค่าใช้จ่ายตามพื้นที่ที่เราเก็บไว้ แพงกว่าส่วนตัวแน่ๆถ้าใช้คนเดียว แต่ปัญหาของ MEGA มันก็มีคือดู online video นอกจาก mp4 กับ mov แทบไม่ได้เลย ส่วน Google Workspace (อดีต Gsuite) แบบ Enterprise ที่มีพื้นที่ไม่จำกัดเข้าใจว่ามันต้องทำธุรกิจหรือเปิดบริษัทจริงๆ ค่าใช้จ่ายก็คงตามที่ตกลงกับทาง Google กลัวอย่างเดียวว่าถ้าเราเก็บอะไรที่มันไม่ค่อยเกี่ยวกับบริษัทที่เราขอสมัครไว้มากๆแล้วโดนจับได้ มันจะหายยก drive ไหม

MEGA ส่วนบุคคล ค่าเช่าเดือนละเท่าไรครับ

https://mega.nz/pro ก็ตามนี้ครับ แต่ผมเคยมีปัญหาที่ช่วงนึงมันจ่ายแบบตัดบัตรไม่ได้ เลยย้ายมาจ่ายผ่าน app ในมือถือแทน ก็จ่ายได้เหมือนกันครับ ราคาก็ต่างจากนี้หน่อยนึง

เห็นทู้หลายววันละ ว่าจะตอบ ลืมตอบ

ผมใช้วิธีฝาก mega ครับ
mega แบบ business ตกเดือนละราว 1000 บาท
ใช้ได้ 3 user
แต่ เพื่อนผมจ่าย ผมเลยใช้ฟรีร่วมกับเพื่อนด้วย

ก๊อปปี้เพิ่มขึ้น gdrive ซื้อมาแบบ อันลิมิท
เข้าใจว่าเสี่ยงต่อการโดนปิด
แนะนำให้ซื้อสำรองเผื่อไว้อีก 2-3 ไดรฟ์ ถ้าหาได้ในราคาถูก

จะมีคำถามต่อมาว่า ก๊อปผ่านไดร์ฟยังไงใช่ไหมครับ

ผมเคยเห็นสิ่งที่เรียกว่า rclone
จะเป็นการ copy จาก gdrive ไปยัง gdrive อื่น
โดยใช้ความเร็วระดับเซิฟเวอร์ และไม่ผ่านเครื่องของเราครับ
ทั้งนี้ผมยังไม่ได้ลองใช้นะครับแค่เคยศึกษาไว้

ทั้งหมดที่แชร์ก็มีเท่านี้ครับ
..
ส่วน mega ของผม ก็ 8.77 TB แล้วครับ
ไม่ได้เก็บแค่หนัง A
แต่รวมถึง รูปถ่าย หนังทั่วไป นู่นนี่นั่นทั้งหมดครับ

ศัพท์ใหม่ rclone นี่ก็น่าสนใจครับ

ย้ายไฟล์ข้ามยี่ห้อได้ใช่ไหมครับ

ขอบคุณครับ

rclone การย้ายข้ามยี่ห้อนี่ไม่ชัวร์จริงๆครับ
เคยพยายามจะก๊อปจาก mega ไป gdrive แต่เหมือนจะไม่ได้ยังไงไม่รู้
เทคนิค rclone เห็นว่าเป็นของพวกเว็บหนัง(เถื่อน)ใช้กันน่ะครับ

Google Drive 18 TB เยอะมากเลยครับ ต้องจ่ายเงินไหมครับ
ถ้ามีวิธีแฮกรบกวนแนะนำด้วยครับ ถ้าต้องเก็บให้รู้แค่ในกลุ่มก็จะไม่บอกต่อคนข้างนอกครับ

ผมใช้ Account สมัยเรียนมหาวิทยาลัยลัยครับ ล่าสุด 20TB แล้วครับ  ;D ;D

ผมใช้ google workspace Enterprise รายปีครับ ตกเดือนละ 600บาท พื้นที่ไม่จำกัด  เช่าโดเมนเองครับ ตอนนี้ใช้ไปร่วมๆ 65TBละ เหมือนหลังปรับมาเป็นworkspace แทนg suiteจะไม่ต้องมีขั้นต่ำ5คนแล้ว 1คนก็ไม่จำกัดได้ แต่แพงขึ้น
ไม่ค่อยกล้าใช้พวกตลอดชีพจะปลิวตอนไหน ลุ้นเกินไป

ผมใช้ google workspace Enterprise รายปีครับ ตกเดือนละ 600บาท พื้นที่ไม่จำกัด  เช่าโดเมนเองครับ ตอนนี้ใช้ไปร่วมๆ 65TBละ เหมือนหลังปรับมาเป็นworkspace แทนg suiteจะไม่ต้องมีขั้นต่ำ5คนแล้ว 1คนก็ไม่จำกัดได้ แต่แพงขึ้น
ไม่ค่อยกล้าใช้พวกตลอดชีพจะปลิวตอนไหน ลุ้นเกินไป

จริงๆ ตัว USD $12 /user/month ของ workspace ก็ได้่ไม่จำกัดแล้วนะครับ
ผมใช้อยู่ (https://workspace.google.com/pricing.html)
ขอแค่สามารถสร้าง shared drive ได้ก็พอ
เพราะ shared drive จะได้ พท ไม่จำกัดอยู่แล้ว

จริงๆ ตัว USD $12 /user/month ของ workspace ก็ได้่ไม่จำกัดแล้วนะครับ
ผมใช้อยู่ (https://workspace.google.com/pricing.html)
ขอแค่สามารถสร้าง shared drive ได้ก็พอ
เพราะ shared drive จะได้ พท ไม่จำกัดอยู่แล้ว

ทำไงหรอครับสร้าง Shared drive ไม่ให้เสียพื้นที่เก็บ ผมได้ 30Gb เอง องกร