AVC

AV Fans Talk => All About AV => ข้อความที่เริ่มโดย: pokydoge ที่ เมษายน 07, 2010, 11:06:42 PM



หัวข้อ: พิพิภัณฑ์เซ็กส์ อนาคตอันห่างไกลของประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: pokydoge ที่ เมษายน 07, 2010, 11:06:42 PM
 ;Dเป็นข้อเขียนของบล็อคเกอร์และสื่อมวลชนท่านหนึ่ง ลองอ่านดูครับน่าสนใจดี :-*


                                                  พิพิธภัณฑ์เซ็กส์
                                          มองความเสียวให้เป็นอาร์ท



                  ในเอกสารประวัติศาสตร์เลสเบี้ยน  ที่บันทึกโดยกลุ่มเลสเบี้ยนในนิวยอร์คนั้น มีบทความหนึ่งที่เรียกร้องให้สังคมชายหญิงมองพวกเขาเป็น "สิ่งปรกติ" ในโลกไม่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตทั่วๆ ไป


                  นัยหนึ่งของความคิดนี้ก็คือ โลกทางเพศไม่ควรตกอยู่ในสังคมวาทกรรมหรือสังคมที่วัดประเมินหรือมองอะไรตามเพศที่ติดตัวมา เช่น ผู้ชายไม่ควรเย็บผ้า ต้องชกมวยและซ่อมรถ, ผู้หญิงต้องเข้าครัว ห้ามเล่นกีฬาหนักเหมือนผู้ชาย
 


                ความคิดนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้นในศตวรรษที่ 21  เมื่อมองจากการเปลี่ยนแปลงทางโลกตะวันตกซึ่งมีอาการสอดรับการแนวคิดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ (ดังจะเห็นว่ามีกลุ่มเพศทางเลือกเกิดขึ้นมากมายและสร้างพื้นที่ให้กับตัวเองได้มากขึ้น)
 

                ถ้าเป็นแบนนี้, กรณีที่เคยมีการวิจารณ์เรื่องความเหมาะสมเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของ พิพิธภัณฑ์เซ็กส์ ในนิวยอร์คก็น่าจะมองข้ามไป หรือไม่ใช่ประเด็นที่ต้องวิตกกังวลมากมาย
                 การเกิดขึ้นของพิพิธภัณฑ์เซ็กส์ในมหานครอย่างนิวยอร์คนั้น สร้างความคิดที่ว่าชาติต่างๆ ควรจะมีสถานที่แบบนี้หรือเปล่า
 

                ความจริง, พิพิธภัณฑ์เซ็กส์นั้น เมื่อเกิดขึ้นมาผลดีของมันอย่างหนึ่งก็คือ มันช่วยเขย่าและสร้างปฏิกิริยาระหว่างคนสอง generation ระหว่างอนุรักษ์นิยมกับพวกหัวใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติทางสังคม มันคล้ายๆ เรื่องการสิทธิในการฆ่าตัวตายหรือสิทธิในการทำแท้ง ที่ยังไม่มีคำตอบ
 

                พิพิธภัณฑ์เซ็กซ์เปิดทำการเป็นครั้งแรกในนครนิวยอร์กพร้อมกับนิทรรศการ NYC Sex : How New York City Transformed Sex in America หรือที่แปลว่า "เซ็กซ์ในนครนิวยอร์ก : วิธีที่นครนิวยอร์กเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเซ็กซ์ในอเมริกา"
 ในพิพิธภัณฑ์นี้นำเสนอเรื่องเซ็กซ์ทั้งในแง่มุมของประวัติศาสตร์, การศึกษา, ความบันเทิง และความเร้าใจ โดยนำเสนอเรื่องเซ็กซ์ตั้งแต่ช่วงกลางคริสต์ศวรรษที่ 19 เป็นต้นมา


                ซึ่งสิ่งที่นำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นี้ รวมถึงภาพถ่ายโปสเตอร์, งานศิลป์, วัตถุ, เอกสาร, ภาพยนตร์ และการ์ตูน โดยมีตั้งแต่สิ่งที่ดูเรียบร้อยไปจนถึงสิ่งที่โจ่งแจ้ง
 แดเนียล กลุค ผู้อำนวยการบริหารของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เคยบอกไว้ว่า เขาไม่ได้มีความฝันมาตลอดชีวิตที่จะเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งเซ็กซ์

                 แต่อยู่ดีๆ ก็ได้ไอเดียนี้ขึ้นมาเอง กลุคคิดว่าคิดว่าถ้าหากสังคมมีพิพิธภัณฑ์โมเดิร์น อาร์ท แล้วทำไมนิวยอร์คจะมีพิพิธภัณฑ์เซ็กส์ไม่ได้ (ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องจ่ายค่าเข้าชม 17 ดอลลาร์ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะปิดทำการเวลา 21.00 น.  ส่วนเวบไซต์ของพิพิธภัณฑ์นี้อยู่ที่ http://nycsex/museumofsex.com)
 

                  ผู้บรรยายประจำพิพิธภัณฑ์นี้คือ แกร์ดี เทอร์เนอร์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการของสมาคมประวัติศาสตร์นิวยอร์ก โดยหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของเขาในอดีต คือการจัดนิทรรศการ Without Sanctuary Lynching Photography in America (ปราศจากที่หลบภัย ภาพถ่ายการสังหารคนด้วยศาลเตี้ยในอเมริกา) ที่มีจำนวนผู้เข้าชมสูงมาก
 

                 คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านประวัติศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์เซ็กซ์ มีจำนวนสมาชิก 14 คน โดยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการในมหาวิทยาลัย
 ประเด็นที่น่าสนใจกึ่งๆ ประหลาดใจก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เซ็กซ์ขึ้นอย่างจริงจังในสหรัฐ บางคนบอกว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าอเมริกายังคงเป็นชาติที่หัวโบราณในเรื่องเซ็กซ์


               ว่ากันตามตรงก็น่าจะจริงในชาติอื่นๆ มีพิพิธภัณฑ์เซ็กซ์อยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ฮัมบูร์ก (เยอรมนี), โคเปนเฮเกน(เดนมาร์ค), ปารีส(ฝรั่งเศส), อัมสเตอร์ดัม(ฮอลแลนด์), ญี่ปุ่น และกระทั่งเซี่ยงไฮ้" ซึ่งเป็นชาติที่น่าจะไม่มีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
 ก็เหมือนเดิมเพราะมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เซ็กส์ขึ้นมา สิ่งที่ถูกสะท้อนออกมาในทางหนึ่งก็คือ การต่อต้านที่จะให้มีสถาบันหรือสถานที่แบบนี้ในชาติอื่นๆ ทั้งที่ความจริงยังไม่ได้เงี่ยหูฟังหรือเบิ่งตาดูเลยว่า เนื้อหา(content)ของพิพิธภัณฑ์นั้น มีอะไรและเป็นอย่างไรบ้าง


               เนื้อหาหลายส่วนของสถานที่แบบนี้ สะท้อนให้เห็นถึง "ความนิยมในเซ็กซ์" ที่เฟื่องฟูขึ้นในช่วงหลังสงครามกลางเมือง จนถึงความพยายามของฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการปราบปรามการทำแท้งและเกย์ ในช่วงต้นคริสต์ศวรรษที่ 20
 ฝาผนังแห่งหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ เป็นที่จัดแสดงฟิล์มภาพตั้งแต่ก่อนปี 1920 ซึ่งเป็นภาพที่แสดงให้เห็นกิจกรรมทางเพศ และภาพเปลือยเต็มตัว ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นการจัดแสดง Tijuana Bibles ซึ่งเป็นหนังสือการ์ตูนที่ล้อเลียนดาราภาพยนตร์ และคนดังโดยแสดงภาพของคนเหล่านี้ ขณะประกอบกิจกรรมที่หยาบโลน
 

                งานแสดงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนก "เนื้อหนังและเรื่องสัปดน" โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังประกอบด้วยแผนก "พิสดาร", "อุปกรณ์ประกอบ", "การแปลงเพศ", "ผู้ชายนุ่งน้อยห่มน้อย", "ผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อย", "ทอม/ดี้", "โฮโมอีโรติก" และ "Marketing King"
 

              แดเนียล กลุค เคยได้ปริญญาด้านศิลปะและปริญญาด้านธุรกิจจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และเขากล่าวว่า งานแสดงจากประวัติศาสตร์บางชิ้น เป็นสิ่งที่เรียบร้อยมาก แต่ทศวรรษ 1960 และ 1970 ถือเป็นยุคทองของภาพโป๊ โดยเราไม่ได้พยายามจะเร้าใจผู้ชม แต่เราจะจัดแสดงบางส่วนจากหนังเรื่อง Deep Throat ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของแฟชั่นหนังโป๊และถือเป็นหนึ่งในหนังที่ขายดีที่สุดตลอดกาล
 

             จะเห็นได้ว่าเมื่อมองจากเนื้อหา ตัวพิพิธภัณฑ์ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อขายหรือกระตุ้นความเสียวให้กับมหานคร หากแต่เป้าหมายของพิพิธภัณฑ์ คือการให้การศึกษา และความบันเทิงไปพร้อมๆ กัน
 

                ความคิดเห็นของกลุคนั้น มองอย่างกลางๆ ก็ต้องบอกว่า เขาต้องการให้สังคมมองเซ็กส์เป็นเรื่องของวัฒนธรรม เรื่องของศิลปะที่นำเสนอผ่านเรื่องราวและท่าทางรวมไปถึงความนิยมของมนุษย์ที่มีเซ็กส์นั่นเอง


               เซ็กส์ก็เหมือน cultute ตัวหนึ่งไม่ต่างจากภาพยนตร์ดนตรีหรือภาพวาด คือสิ่งซึ่งสังคมต้องการเสพและเรียนรู้ ดูเหมือนว่าตะวันตกเองก็มีสายตาที่มองเรื่องราวเหล่านี้เป็นศิลปะ ขณะที่เอเชียหรืออีกหลายชาติในแถบๆ นี้จะมองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องสัปดน(ที่ตัวเองและมนุษยชาติก็ไม่เคยปฏิเสธ)
 

              มีข้อมูลที่น่าสนในเมื่อเขาบอกว่าจะมีแผนกอินเทอร์แอคทีพ ในพิพิธภัณฑ์ด้วย โดยหนึ่งในประเด็นที่จะได้รับการนำเสนอในแผนกนี้คือ เรื่องที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมเกย์ในโรงอาบน้ำในปี 1903 ซึ่งมีภาพตำรวจนอกเครื่องแบบในโรงอาบน้ำ เป็นคนที่ชี้ตัวให้ตำรวจในเครื่องแบบดูว่า ใครบ้างที่ประกอบกิจกรรมทางเพศ
 

             บันทึกคำให้การของตำรวจนอกเครื่องแบบในเหตุการณ์นั้นกลายเป็นเรื่องที่น่าขันมากในสายตาของผู้อ่านในยุคปัจจุบัน โดยมีผู้มาชมพิพิธภัณฑ์ จะได้อ่านบันทึกเหล่านี้และสามารถอ่านออกเสียงดังๆ ได้ด้วย


                 สำหรับกรุงเทพนั้น ต้องรอให้ความคิดแบบ “วิคตอเรียน” หมดไปก่อน ซึ่งก็คงประมาณต้องล้างโลกกันใหม่ คือให้โลกแตกก่อน ประมาณนั้นทีเดียว

                  แหมก็ครั้งหนึ่ง ไปสอนหนังสือที่จุฬาฯคณะหนึ่ง  นักศึกษาคนหนึ่งเดินในโรงอาหาร ใส่ประโปรงเหนือหัวเข่า “เล็กน้อย” ยังโดยอาจารย์แก่คนหนึ่ง เรียกมาด่ากลางโรงอาหาร และบอกว่ามันคือเป็นความผิด


                 เรื่องพิพิธภัณฑ์นี่ จึงยังไม่ต้องถามถึง
                 เอาแค่แนวคิดแบบ “เจ๊เบียบ” ให้เจือจางในสังคมไทยหน่อย ก็น่าพอแล้ว
(แต่ก็ไม่ต้อง เอ็กซ์ตรีมหรือเวียส ขนาดทาทา ยัง หรอกนะครับ)
 ;D


หัวข้อ: Re: พิพิภัณฑ์เซ็กส์ อนาคตอันห่างไกลของประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Newborn™AVC ที่ เมษายน 08, 2010, 01:52:49 PM
อ่านจบจนได้

แฮะๆ


หัวข้อ: Re: พิพิภัณฑ์เซ็กส์ อนาคตอันห่างไกลของประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: e001 ที่ เมษายน 09, 2010, 06:35:12 PM
อ่านไม่ไหวคับ [ไข้]


หัวข้อ: Re: พิพิภัณฑ์เซ็กส์ อนาคตอันห่างไกลของประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: pokydoge ที่ เมษายน 10, 2010, 10:32:07 AM
 ขอโต๊ดที่ทรมานสายตาคนอ่านทุกท่าน หุหุ [หวาเว่]
;Dลงไว้เพื่อประดับความรู้เรื่องเซ็กส์ฮับ  [หึ]















AV Community Since 2009 : AVCollectors.com - Advertising please contact [email protected]