ถ้าสนใจพวกที่ยังไม่แบ่งแยกประเภทเพลงกันจนฟูมฟาย ก็ลองเพลงยุด 60-80 ดู จุดจบมันอยู่ตรงดิสโก้นั่นแหละ จากนั้นร็อคที่เน้นเมโลดี้ ก็กลายเป็นเน้นความดิบเถื่อน ขายภาพลักษณ์ ขายคำจำกัดความขายแนวเพลง จนวิวัฒน์กันสุดกู่
ทุกวันนี้ ผมยังแยกไม่ออกเลยว่าเพลงแนวเฮ้าส์ แนวชิลล์เอ้าท์อะไรนั่น แตกต่างจากเพลงตลาดๆ ยังไง
มันเหมือนคนแต่งเพลงไม่มีพื้นฐานทางดนตรีที่แน่นพอ แล้วมาทำงานเพลง ผลก็คือวนไปวนมา
ถ้าลองเทียบง่ายๆ อย่าง beatles กับ oasis จะเห็นได้ชัด ขณะที่คนเขียนเพลงที่เก่งๆ จะปรับตัวเติบโตไปกับแฟนเพลง พัฒนาเพิ่มทักษะตัวเพลงและ Educate ผู้ฟังไปด้วย ก็จะเป็นแบบ Beatles จาก Pop ไปสู่ Rock ไปจน Progressive
แต่บางคนเลือกที่ย้ำรอยความสำเร็จเดิม ผลก็คือ 10 ปีผ่านไป เคยแต่งเพลงแบบไหน เดี๋ยวนี้ก็ยังทำได้แต่อบบซ้ำๆ ยังงั้นๆ อยู่
ลองไปถาม เสก ปราสาทหินพิมายดูว่าทำไมถึงได้หากินแต่กับเพลงเก่าๆ แกก็จะบอกว่า ไม่เป็นโน๊ต เรียบเรียงเสียงประสานไม่ได้ เป็นศิลปินหย่ายแล้วนี่.... อย่าง Oasis นี่ ผมยังเสียดายค่าตั๋วดูคอนเสิร์ตมันเลย เลียมแม่มเมาเละบนเวที กีตาร์ก็เพี้ยน ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย ดูถูกคนฟังมาก แต่ยังดีที่ศิลปิดวงเปิด เล่นได้ดีมาก ออดี้ครับ ผมว่าดีที่สุดเลยนะนั่น
Oasis คิดแต่ว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้ว จะเขี่ยอะไรออกมาก็ขายได้หมด ผลก็อย่างที่รู้ๆ กัน
การไม่เป็นโน๊ตแล้วเป็นเซียนได้นี่ มีไม่กี่ท่านเอง ลองไปดูน้าแคลปตัน บีบีคิงส์ คิตาโร่ เวงเกลิส แต่นั่นเค้าสั่งสมประสบการณ์มากันเป็นหมื่นๆ ชั่วโมง ไม่ใช่อายุ 20 ต้นแล้วประสบความสำเร็จ ก็คิดว่าไม่ต้องพัฒนาต่อ ผลก็คือแป้ก
อย่างบ้านเราก็มีกลุ่มเพลงที่น่าสนใจหลายกลุ่ม ถ้าชอบไทยแท้ก็ตามฟองน้ำ ของ อ.บรูซ ได้เลย หรือจะขยับมาทางประยุกต์ก็ยิ่งมีหลากหลายอย่างสาย อ.สุพจน์ โตสง่า หรือถ้าออกแนวสากลก็กลุ่มภาคีวัดอรุณเดิมที่คง concept ว่าเป็น progressive รุ่นแรกๆ ของไทย ที่มีหัวหอกเป็นโปรดิ๊วเซอร์ค่ายดังครบทุกค่าย หรือแนวปุ้ม พงศ์พรหม วงตาวัน อดีตวงป็อบบ้านๆ อย่าง McIntosh แต่พวกนี้ไม่มีงานใหม่ออกมานานแล้ว คงต้องไปตามงานเก่าๆ ยุค 20 กว่าปีก่อน
ถามแบบนี้ ต้องถามตัวเองก่อนนะครับว่า เพลงเก่าน่ะ แนวไหน ไทย สากล คลาสสิก หรืออะไร จะได้ชี้เป้าได้ถูก ถ้าเพลงหรั่ง เชิญที่ Demanoid.me และที่ Thepiratebay.org
เห็นด้วยเลยครับ