วันนี้มีเพลงประกอบภาพยนตร์มาฝากกันครับ เป็นผลงานการแสดงหนังเรื่องแรกของ
น้องกุ้ยหลุนเหม่ย ขวัญใจของผมและคุณ
NomoKeN นั่นแหล่ะครับ 55

ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในปี 2002 ตอนแสดงเรื่องนี้เธอพึ่งอายุ 18-19 ปีเท่านั้นเองยังดูเด็กๆมาก แถมเล่นเป็นทอมซะด้วย หน้าตาเลยดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็น่ารักนะ


ผมหมายถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ
Blue Gate Crossing หรือในชื่อไทยว่า
สาวหน้าใสกับนายไบค์ซิเคิล ในชื่อภาษาจีนมีชื่อว่า
蓝色大门(หลันเซ่อต้าเหมิน) แปลว่า
ประตูใหญ่สีฟ้า ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้ใช้ชื่อนี้ใครรู้ช่วยอธิบายให้ผมฟังด้วยนะครับ

Blue Gate Crossing เป็นเรื่องราวความรักสามเส้าแบบใสๆของเด็กนักเรียนมัธยมปลาย
หลิน เยว่เจิน และ
เมิ่ง เค่อโหรว (ซึ่งนำแสดงโดย
น้องกุ้ย หลุนเหม่ย) สองสาวเพื่อนซี้ ที่แทบจะไม่เคยอยู่ห่างกันเลย วันนึงหลิน เยว่เจินได้เล่าถึงความฝันในอนาคตของเธอให้กับเมิ่งเค่อโหรวฟัง และได้บอกความลับอย่างนึงให้กับเพื่อนสนิทของเธอฟังว่า เธอได้แอบชอบ
จางซื่อหาว หนุ่มหล่อซึ่งมีสาวๆหลายคนหมายปองอยู่ แต่เนื่องจากเธอเป็นคนขี้อายจึงได้แต่แอบมองไม่เคยกล้าที่จะเข้าไปพูดคุยหรือทำความรู้จักมาก่อน
หลิน เยว่เจินได้ขอร้องให้เมิ่งเค่อโหรว ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงที่มีบุคลิกห้าวๆและมีความกล้า ให้ช่วยนำจดหมายรักของเธอไปมอบให้กับจางซื่อหาว แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบได้(อาจเพราะความขี้อายมากๆของเธอก็เป็นได้) เธอไม่กล้าลงชื่อของตัวเองเอาไว้ในท้ายจดหมาย แต่ได้ลงชื่อของ เมิ่งเค่อโหรว เอาไว้แทน โดยที่ตัวของเมิ่งเค่อโหรวเองนั้นไม่รู้
หลังจากที่ได้รับจดหมาย จางซื่อหาว รู้สึกสนใจเมิ่งเค่อโหรวขึ้นมาทันที และได้ตามมาตอแย(จีบ)เธอ โดยเข้าใจว่าตัวเมิ่งเค่อโหรวเองนั่นแหละที่แอบชอบเค้าอยู่ แต่ทำเป็นแอบอ้างชื่อ หลินเยว่เจิน ขึ้นมาบังหน้าเพื่อแก้เขินที่ตัวเองต้องเป็นฝ่ายมาจีบเค้าก่อน (เพราะเมิ่งเค่อโหรวบอกกับเขาว่าจดหมายฉบับนั้นเพื่อนของเธอคือ หลินเยว่เจิน เป็นคนเขียนขึ้น แต่ดันไม่รู้ว่าท้ายจดหมายลงชื่อของตัวเองเอาไว้)
ในภายหลัง เมื่อเมิ่งเค่อโหรวรู้ความจริงแล้วว่า หลินเยว่เจิน แอบอ้างชื่อเธอไว้ในจดหมายรักฉบับนั้น จึงได้ตกลงคบหากับจางซื่อหาว (ด้วยความโกรธและอาจทำเพื่อประชดหลินเยว่เจินนั่นเอง)
หลังจากที่เมิ่งเค่อโหรวและจางซื่อหาวคบหากันได้ไม่นาน เธอได้บอกความลับในใจของเธออย่างนึงให้กับเด็กหนุ่มฟังว่า จริงๆแล้วเธอไม่ได้ชอบผู้ชาย(คือเธอเป็นทอมนั่นแหละ) และได้แอบชอบเพื่อนสนิทของเธอ หลินเยว่เจิน อยู่นานแล้ว ซึ่งนั่นถือเป็นการบอกเลิกราความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเด็กหนุ่มไปด้วย
เรื่องราวจะลงเอยอย่างไรล่ะทีนี้
เพราะตัวเด็กหนุ่มเองนั้นก็ได้หลงรักเธอเข้าไปแล้วจนเต็มหัวใจ...... มาฟังเพลงประกอบกันครับซึ่งผมเลือกที่ชอบมาแค่ 2 เพลง เป็นเพลงบรรเลงครับ ซึ่งจริงๆก็เป็นเพลงทำนองเดียวกันนั่นแหละ แต่แตกต่างกันตรงที่วิธีการบรรเลงแค่นั้นเอง
เพลงแรกอยู่ในฉากตอนต้นๆของหนังเลย คือหลังจากที่ หลินเยว่เจินได้เล่าให้เมิ่งเค่อโหรว(น้องกุ้ยหลุนเหม่ย) ฟังแล้วว่าได้แอบชอบจางซื่อหาวอยู่ ตัวเมิ่งเค่อโหรวเองก็คงจะรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคู่แข่งทางด้านความรักของเธอหรืออย่างไรไม่ทราบได้ จึงได้ขี่จักรยานตามเด็กหนุ่มคนนี้มาในตอนเย็นของวันนั้น อาจเพื่อจะได้มองหน้าคู่แข่งของเธอให้ชัดๆว่ารูปร่างหน้าตาของเขาเป็นอย่างไร แต่ด้วยความรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคู่แข่งของเธอนั่นเอง เมื่อรถไปติดอยู่ตรงไฟแดงแห่งหนึ่ง เธอจึงได้ขี่จักรยานเข้าไปเทียบอยู่ทางด้านข้างของเขาและพยามที่จะดันรถของเธอให้แซงหน้ารถของเขาอยู่ตลอด ซึ่งนั่นกลับทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกปิ๊งเธอขึ้นมาทันที ลองมาดูฉากที่ว่านี้กันพร้อมกับฟังเพลงประกอบไปด้วยเลยครับ(ก็ตัดมาจากในหนังนั่นแหละ) เป็นเพลงบรรเลงด้วยเปียโนครับ
蓝色大门 - 蓝色意识 序曲 http://www.youtube.com/watch?v=nmQwJ6QATBMใครอยากฟังแบบไม่ดูภาพก็เข้าไปฟังได้ตาม link ด้านล่างนี้ครับ
http://www.xiami.com/song/play?ids=/song/playlist/id/1769375106/object_name/default/object_id/0 มาถึงเพลงที่ 2 กันครับ อยู่ในตอนจบของหนังเลย ซึ่งเป็นบทสรุปของหนังเรื่องนี้นั่นเอง ฉากนี้ทั้งคู่ได้ขี่จักรยานมาถึงตรงจุดที่รถติดไฟแดงเหมือนกับในตอนต้นของหนัง และได้แข่งกันดันรถของตัวเองให้แซงหน้ารถของอีกฝ่ายเช่นเดิม แต่ทีนี้เป็นไปด้วยอารมณ์สนุก แล้วจางซื่อหาวก็ได้เอ่ยปากพูดกับเมิ่งเค่อโหรวขึ้นมาว่า
"วันนั้นน่ะที่โทรไป ชั้นกะจะบอกว่า บางทีซักวันนึง 1 ปีจากนี้หรืออาจซัก 3 ปี ถ้าเธอเริ่มชอบผู้ชายเมื่อไหร่ล่ะก็ เธอต้องบอกชั้นก่อนเป็นคนแรกนะ" โอ้โฮ เค้าช่างรักทอมเป็นชีวิตจิตใจจริงๆ น่านับถือ น่านับถือ 55

สุดท้ายก็มาถึงตอนจบของหนัง ทั้งคู่ได้ขี่จักรยานเคียงคู่กันไป เสียงดนตรีเริ่มบรรเลงขึ้นมา และตัวเมิ่งเค่อโหรวมองจางซื่อหาวมาจากทางด้านหลังแล้วก็คิดขึ้นในใจว่า
"จางซื่อหาว พอชั้นเห็นเสื้อของเธอปลิวลมทีไร ชั้นคิดเสมอว่าจะ 1 ปี 3 ปี หรือ 5 ปี จากนี้ไป เราจะเป็นยังไง เธอคงแสนดี เป็นคนร่าเริงและหล่อยิ่งกว่านี้ ชั้นนึกภาพออก หลายปีจากนี้ไป เธอจะยืนอยู่หน้าประตูสีฟ้า พระอาทิตย์ตอนบ่าย 3 เธอจะยังมีสิวนิดๆ เธอส่งยิ้มแล้วชั้นก็วิ่งไปทักทายเธอ เธอจะพยักหน้ารับ...
3 หรือ 5 ปีต่อจากนี้ไป หรืออาจจะมากกว่านั้นไปอีกหลายๆปี เราจะเป็นอะไรเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นครูพละหรือว่าเป็นแม่คน ถึงชั้นจะมองตัวเองไม่เห็น ถึงแม้นัยน์ตาชั้นจะหลับ แต่ชั้นก็จะเห็นเธอเสมอ...." โอ้ความจริงเธอก็มีใจให้กับเค้าเหมือนกันนะนี่

มาฟังเพลงนี้พร้อมกับชมภาพไปด้วยดีกว่า น่าจะเวิร์คกว่าอ่านบรรยายนะ 55 (เป็นภาพตัดมาจากในหนังอีกเหมือนเดิม)
蓝色大门 - 蓝色意识 尾曲 http://www.youtube.com/watch?v=TWPIgFlHk6Yอยากฟังแบบไม่ดูภาพก็เข้าไปฟังได้ตาม link ด้านล่างนี้ครับ คุณภาพเสียงน่าจะดีกว่า
http://www.xiami.com/song/play?ids=/song/playlist/id/1769375112/object_name/default/object_id/0 วันนี้โม้ซะเยอะเลยแต่จัดแค่ 2 เพลงเอง 555

ปล.พอดีผมไปนั่งคิดมา ผมรู้แล้วล่ะว่าทำไมเค้าถึงได้ตั้งชื่อหนังเรื่องนี้ในภาษาจีนว่า
ประตูใหญ่สีฟ้า คิดว่าสีฟ้าน่าจะเป็นสีแทนกลุ่มพวกรักร่วมเพศแบบทอม-ดี้นั่นเอง เหมือนกับสีม่วงใช้แทนเกย์นั่นแหละ เพราะในตอนจบของหนังตอนที่นางเอกคิดในใจมีอยู่ประโยคนึงที่บอกว่า "หลายปีจากนี้ไป เธอจะยืนอยู่
หน้าประตูสีฟ้า พระอาทิตย์ตอนบ่าย 3 เธอจะยังมีสิวนิดๆ เธอส่งยิ้มแล้วชั้นก็วิ่งไปทักทายเธอ เธอจะพยักหน้ารับ..." แสดงว่านางเอกก็มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนตัวเองจากทอมเป็นผู้หญิงอยู่เหมือนกัน(คือเดินออกมาจากประตูสีฟ้านั่นเอง) ไม่รู้ว่าผมเข้าใจผิดหรือเปล่านี่ผมเดาเอานะ