รู้สึกว่าสังคมไทย สาวไทยได้เปรียบกว่าสาวญี่ปุ่นมาก เพราะบ้านเรามีเสี่ยๆเงินหนาพร้อมจะรับเลี้ยง ผูกปิ่นโตกับเด็กๆหน้าตาดีมากมาย ทำไม่นานก็ซื้อบ้าน ซื้อรถ เปิดธุรกิจของตัวเอง ไม่ต้องมีบาดแผลเป็นหนังเอวีกลับมาตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นได้
แต่บ้านเค้าการแข่งขันสูง สังคมส่วนใหญ่ก็ชนชั้นกลาง มนุษย์เงินเดือน ไม่มีเสี่ยมาคอยเลี้ยง
แต่ในอีกมุมมองเป็นดาราเอวีก็งานสุจริต ไม่ได้ขอใครกิน หาด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
ครับ ประเทศกูมี ประเทศญี่ปุ่นไม่มีเสี่ยมาผูกปิ่นโต
บรรยายซะอยากเป็นเด็กเสี่ยเลย ความเป็นจริงคงไม่ได้ดีกว่าสาว AV หรอกครับ
เด็กที่หาเสี่ยเลี้ยง จะอยู่ในวัยมหาลัย 18-25 ไม่เกินไปกว่านี้
ที่ทำได้จริงๆ คือ ที่บ้านพ่อแม่ไม่มีเงินส่งให้เรียน ก็จะได้เงินจากเสี่ยเดือนละ 2-5 หมื่น
ขึ้นอยู่กับหน้าตา เรียนไป ส่งไป ถึงเวลาแก่ เสี่ยก็เปลี่ยนครับ ต้องทำใจไว้เลย
ซึ่งถ้าเด็กคนไหน ตั้งใจเรียน เรียนจบหลักสูตรที่ดี อายุ 22 หรือ จบป.โท อายุ 25 เสี่ยไม่เอาแล้ว
ก็มีหนทางในการดิ้นรนชีวิตต่อไป มันได้แค่นั้น
จากประสบการณ์ตรงผมนะครับ มีเด็กมาจะให้เลี้ยง ก็ต้องคุยตกลงกันเรื่อง ค่าเทอม
เด็กสอบได้ที่ มหาลัยไหน หลักสูตรอะไร หวังในตำแหน่ง การงานอะไร
คนอุปการะ ก็ไปหา อาทิตย์ละ 1 วัน เป็นต้น
ถ้าไม่มีใครรู้ จับได้ แบบนี้ไม่ค่อยเปลืองตัวเท่าไหร่
ถ้าจะรวยจะซื้อบ้าน ซื้อรถ คือ ทำนวด หรือ ขายตัว ขึ้นไปครับ
รับแขกวันละ 5 คน วันนึงได้เป็นหมื่น เดือนหนึ่งได้เป็นหลายแสน แบบนั้นซื้อบ้าน รถได้ครับ
ถ้าระดับเสี่ยซื้อบ้าน รถให้ นี่ต้องระดับนางแบบที่ยังไม่ดัง หรือ ดาราตัวประกอบแล้วครับ
ซึ่งเขาก็มีทางเลือกที่จะรวยแบบอื่นได้เหมือนกัน อาจจะเหนือยหน่อย เสี่ยงหน่อย
มีคนมาเสนอให้ 2 ล้าน ก็อาจจะเอาไว้ก่อ่น
ทั้ง 2 กรณี ไม่ว่าจะหาคนอุปการะค่าเล่าเรียน หรือ ดาราตกอับ
มันก็คือ ไปเป็นเมียน้อยเขานะครับ มีกรณีเมียหลวงตามมาตบเยอะแยะไป
เป็นปัญหาให้ครอบครัวอื่นแตกแยกเลยนะครับ หารายได้แบบนี้
โดยรวมแล้วผมว่า ไทยหรือ ญี่ปุ่น ไม่ได้ดีไปกว่ากันหรอกครับ