เอาเพลงประกอบภาพยนตร์มาฝากครับ เป็นภาพยนตร์เกาหลีมีชื่อเรื่องว่า
Late Autumn (ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า ปลายฤดูใบไม้ร่วง)
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ดาราสาวสวยชาวจีนแผ่นดินใหญ่อย่าง
ทังเหวย มาแสดงนำ แถมร้องเพลงประกอบเองซะด้วยสิ
Late Autumn เป็นเรื่องราวของ
แอนนา หญิงสาวชาวจีนอพยพที่อาศัยอยู่ในอเมริกา เธอต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 7 ปีเนื่องจากฆ่าสามี เพราะป้องกันตัวเองจากการถูกสามีทำร้าย เธอมีบุคลิกเงียบขรึม อาจเป็นเพราะมีเรื่องราวมากมายที่เก็บไว้ในใจ และไม่อาจจะพูดบอกกับใครได้(ซึ่งน่าจะเกิดจากเรื่องราวแย่ๆในอดึตที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ)
ต่อมาระหว่างที่เธอถูกจำคุกอยู่ เธอได้รับอนุญาตให้ออกจากคุกชั่วคราวเป็นเวลา 3 วัน เพื่อไปร่วมงานศพของมารดาที่เพิ่งเสียชีวิต ระหว่างทางเธอได้พบกับ
ฮุน หนุ่มเกาหลีที่มีอาชีพเป็นชายขายบริการ (ซึ่งตัวเค้าย้ำนักหนาว่า งานของเค้าคือการทำทุกอย่างให้ผู้หญิงพอใจ ไม่ใช่แต่เรื่องอย่างว่าอย่างเดียว แต่รวมถึงการพูดคุยสนทนาหรือการพาผู้หญิงไปเที่ยวเหมือนกับการออกเดทกันด้วย ) ซึ่งฮุนดูจะสนใจเธอเป็นพิเศษ อาจเพราะเธอดูเป็นผู้หญิงที่ลึกลับ เงียบขรึม และดูเฉยชาต่อทุกเรื่องราว(บางทีเค้าอาจจะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูท้าทายความสามารถของเขาก็เป็นได้ เนื่องจากปกติอาชีพของเขาก็คือการทำให้ผู้หญิงมีความสุขอยู่แล้ว)
ฮุนใช้เวลา 3 วันอยู่กับเธอโดยตลอด พาเธอไปเที่ยว เป็นเพื่อนคุย รวมถึง เข้าร่วมงานศพมารดาของเธอด้วย
ด้วยบุคลิกที่น่ารักขี้เล่นและเอาใจเก่งของฮุน ได้ทำให้หัวใจที่ด้านชาและกำลังจะปิดตายต่อทุกสิ่ง(รวมถึงความรักด้วย)ของแอนนา ได้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง
ถ้าให้ผมตีความชื่อหนังเรื่องนี้ว่าทำไมต้อง
Late Autumn ด้วย ผมว่ามันเป็นสัญลักษณ์แทนจิตใจของนางเอกที่เปรียบเหมือนกับช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังย่ำแย่และกำลังจะตายสนิท คือถ้าเข้าหน้าหนาวเมื่อไหร่แล้วก็หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้ตายสนิทแล้วนั่นเอง แต่จิตใจของนางเอกคือยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาวก็คือยังพอมีหวังที่จะฟื้นคืนกลับมาได้อยู่(ไม่รู้อ่านแล้วงงไหมครับ)
หนังเรื่องนี้มีฉากที่ผมชอบมากๆอยู่ฉากนึง เป็นตอนที่พระเอกพานางเอกไปเดินเที่ยวตลาดตอนกลางคืน ซึ่งไม่มีคนอยู่เลย(ในตอนกลางคืน)และมีเสียงร่ำลือกันว่าเป็นตลาดผีสิง พระเอกได้บอกให้นางเอกช่วยสอนภาษจีนให้หน่อย(ปกติแล้วทั้งคู่จะสนทนากันด้วยภาษาอังกฤษ) นางเอกได้สอนให้ 2 คำคือคำว่า
ห่าว ซึ่งแปลว่า
ดี กับคำว่า
ฮ่วย ซึ่งแปลได้ว่า
ไม่ดี(ซึ่งคนไทยจะคุ้นเคยกับคำนี้กันดีในภาษาจีนแต้จิ๋วก็คือคำว่าห่วยนั่นเอง) หลังจากที่นางเอกสอนให้แล้วพระเอกก็นำมาใช้ในทันที ซึ่งในตอนนั้นนางเอกถือโอกาสเล่าเรื่องราวของเธอออกมา(ซึ่งมันคงอัดอั้นภายในใจของเธออยู่นานแล้ว)ให้พระเอกฟัง คงเป็นสิ่งที่เธออยากจะระบายให้ใครสักคนได้ฟัง คือเธอแค่อยากจะพูดออกมาเท่านั้น แต่ไม่ได้อยากจะให้พระเอกฟังแล้วเข้าใจจริงๆจึงพูดออกมาเป็นภาษาจีน แต่ที่น่าตลกก็คือพระเอกดันแกล้งทำเป็นฟังรู้เรื่องด้วย พอถึงตอนที่เธอพูดถึงเรื่องดีๆนายคนนี้พูดตอบรับมาว่า ฮ่วย แต่พอนางเอกพูดถึงเรื่องแย่ๆนายคนนี้ดันตอบรับมาว่า ห่าว ซึ่งมันทำให้นางเอกที่ปกติหน้าตาจะเรียบเฉยตลอด อดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ (รวมถึงตัวผมเองด้วย ฮา....

)
เอาล่ะโม้เรื่องหนังมาพอแล้ว มาพูดถึงเพลงประกอบกันมั่ง ผมว่าทังเหวยเธอร้องเพลงนี้ได้เพราะเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเสียงของเธอจะฟังดูใหญ่ๆแหบๆไปหน่อย ความจริงแล้วผมก็ไม่ได้ไม่ชอบอะไรเสียงแบบนี้หรอกครับ แต่อาจเพราะผมดันไปคาดหวังว่าเธอน่าจะมีเสียงหวานๆสวยๆเหมือนกับใบหน้าของเธอนั่นแหละ ก็เลยทำให้ผิดหวังนิดหน่อยอิอิ.. ส่วนดนตรีผมชอบเสียงกีตาร์คลาสสิคในเพลงนี้มาก ให้อารมณ์เหงาๆเหมาะกับเนื้อหาของเพลงดี
ผมถือโอกาสแปลเนื้อเพลงนี้มาให้อ่านด้วยเลย แต่บ่องตงว่าแปลยากมาก มีบางประโยคผมแปลไม่ได้ด้วย และที่แปลๆมานี่ก็ใช่ว่าจะแน่ใจว่าถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะครับ ดังนั้นถ้ามีใครได้เข้ามาอ่านและรู้ภาษาจีนดีกว่าผม ถ้าเห็นข้อผิดพลาดอะไรก็แนะนำได้เลยนะครับจะเป็นพระคุณอย่างสูง
เอาล่ะมาฟังเพลงนี้กันครับชื่อเพลงชื่อเดียวกับชื่อหนังเลย
晚秋(หวั่นชิวแปลว่าปลายฤดูใบไม้ร่วง)汤唯 - 晚秋http://www.youtube.com/watch?v=Giz-Tw0IQmsเนื้อร้องและคำแปลครับ
汤唯 - 晚秋Tāngwéi - wǎnqiū
ทังเหวย - ปลายฤดูใบไม้ร่วง过去的阴影紧随我流浪
Guòqù de yīnyǐng jǐn suí wǒ liúlàng
เงามืดในอดีตคอยตามติดตัวฉัน眼前的世界麻木得坦荡
Yǎnqián de shìjiè mámù de tǎndàng
จนรู้สึกด้านชาต่อโลกที่อยู่เบื้องหน้า不失望
Bù shīwàng
ไม่สิ้นหวัง也避免 期望
Yě bìmiǎn qīwàng
ทั้งไม่คาดหวังอะไร爱情足够让两个人难忘
Àiqíng zúgòu ràng liǎng gèrén nánwàng
ความรักเพียงพอที่จะทำให้คนสองคนยากจะลืม孤独却只有我一个承担
Gūdú què zhǐyǒu wǒ yīgè chéngdān
โดดเดี่ยวเดียวดายมีเพียงฉันคนเดียวที่แบกรับไว้谢谢你
Xièxiè nǐ
ขอบคุณเธอนะ走过我身 旁
Zǒuguò wǒ shēn pang
ที่เดินอยู่ข้างกายฉัน陌生的你像熟悉的阳光
Mòshēng de nǐ xiàng shúxī de yángguāng
เธอที่แปลกหน้าเป็นดั่งแสงอาทิตย์ที่คุ้นเคย提醒我身处在地球游荡
Tíxǐng wǒ shēn chǔ zài dìqiú yóudàng
ช่วยเตือนฉันว่ากำลังเดินอยู่บนโลกนี้原来
Yuánlái
ที่แท้我还会看你看到慌乱
Wǒ hái huì kàn nǐ kàn dào huāngluàn
ฉันยังมองเห็นเธอมองเห็นความสับสนวุ่นวาย爱不是不任性就能反抗
Ài bùshì bù rènxìng jiù néng fǎnkàng
รักเป็นสิ่งที่ไม่อาจต้านทาน风来时浪花也只能狂放
Fēng lái shí lànghuā yě zhǐ néng kuángfàng
เมื่อพายุมาคลื่นลมก็อาจบ้าคลั่งได้不这样
Bù zhèyàng
ไม่ใช่อย่างนี้又怎样
Yòu zěnyàng
แล้วจะยังไง不问你什么是真正喜欢
Bù wèn nǐ shénme shì zhēnzhèng xǐhuan
ไม่ถามเธอว่าที่แท้ชอบอะไร不去想永远是如何短暂
Bù qù xiǎng yǒngyuǎn shì rúhé duǎnzàn
ประโยคนี้ผมแปลไม่ได้ครับ

只要
Zhǐyào
เพียงแค่我还会期望你在身旁
Wǒ hái huì qí wàng nǐ zài shēn pang
ให้ฉันยังได้หวังว่ามีเธออยู่ข้างกาย爱不是一个人所能抵抗
Ài bùshì yīgè rén suǒ néng dǐkàng
รักไม่ใช่สิ่งที่คนๆนึงจะต้านทานได้错误有你和我一起补偿
Cuòwù yǒu nǐ hé wǒ yīqǐ bǔcháng
ความพลั้งพลาดจะมีเธอกับฉันร่วมกันชดเชย等什么
Děng shénme
จะรออะไรอีกล่ะ又怎样
Yòu zěnyàng
แล้วจะยังไง晚秋 不晚
Wǎnqiū bù wǎn
ปลายฤดูใบไม้ร่วง ยังไม่สาย又 何妨
Yòu héfáng
ไม่เป็นไรหรอกน่ะไม่รู้มีใครได้ยินเสียงถอนหายใจก่อนที่เธอจะร้องประโยคสุดท้ายหรือเปล่า มันเหมือนกับเป็นการตัดสินใจว่า
เอาวะลองรักอีกสักครั้งคงไม่เป็นไรหรอกน่า อะไรประมาณนั้นน่ะครับ มันฟังเซ็กซี่ดีจังอิอิ....

วันนี้โม้เยอะจริงๆ พอดีหยุดยาวมีเวลาพิมพ์น่ะครับ 555...
