พฤษภาคม 10, 2025, 10:28:40 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: AVC เปิดเฟสและโซเชี่ยลใหม่ เพื่อนๆช่วยกดไลค์ติดตามด้วย
เวบเข้าสู่ปีที่ 16 แล้ว ท่านสามารถช่วยเหลือเวบได้โดยสมัคร VIP (ตลอดชีพ) อ่านคอมเมนท์จากผู้ใช้งานจริง ที่นี่
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 91 92 [93] 94 95 ... 119 พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: MUSIC IS MY LIFE มาแชร์เพลงที่ท่านชอบกันครับ  (อ่าน 602046 ครั้ง)
Vice President AVC
ผู้บัญชาการเอวีสูงสุด
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2480



« ตอบ #920 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2014, 08:01:28 PM »

ดีครับ ห้องจะได้คึกคื้น ไม่เงียบเหงาจนเกินไป
บันทึกการเข้า
messidona
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #921 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2014, 12:59:43 AM »

     วันนี้เอาเพลงประกอบภาพยนตร์มาฝากกันครับ เป็นภาพยนตร์ที่ผมเพิ่งดูไปเมื่อคืนนี้เอง ภาพยนตร์เรื่องนี้เคยออกฉายเมื่อปี 1992 ครับ 1492 Conquest of Paradise

 
  
     เป็นเรื่องราวของดินแดนในทวีปยุโรปสมัยเมื่อประมาณ 500 กว่าปีก่อน ซึ่งในตอนนั้นคนในยุโรปยังมีความเชื่อว่าโลกของเรานั้นแบนไม่ได้มีรูปร่างกลมอย่างที่พวกเรารับรู้กันอยู่ในทุกวันนี้ และไม่มีใครกล้าที่จะเดินเรือไปทางทิศตะวันตกในระยะทางไกลๆ เพราะเชื่อกันว่าเมื่อแล่นเรือไปทางทิศตะวันตกมากๆเข้าแล้วจะตกขอบโลก ซึ่งก็มีความเชื่อกันอีกด้วยว่าที่นั่นมีปีศาจร้ายคอยดักรออยู่ แต่ก็มีชายหนุ่มชาวอิตาลีผู้หนึ่งผู้มีนามว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส หาญกล้าที่จะท้าทายกับความเชื่อนั้น

     เขาได้อาสาที่จะเดินเรือไปสำรวจทางตะวันตกเอง โดยเค้ามีความเชื่อว่าโลกเรานั้นมีรูปทรงกลม ถ้าหากเดินเรือไปทางทิศตะวันตกเรื่อยๆแล้วก็จะไปถึงทวีปเอเชีย ไปถึงอินเดีย รวมถึงจีนดินแดนอันมั่งคั่งที่มาโคโปโลพ่อค้าชาวอิตาลีเคยเอ่ยถึง เค้าพยายามเกลี้ยกล่อมพระราชินีแห่งสเปนในขณะนั้นให้ยอมสนับสนุนเค้า โดยชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับหากว่าสิ่งที่เค้าเชื่อนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพวกเครื่องเทศจากอินเดีย รวมถึงทองคำจากเมืองจีน ซึ่งเค้าอ้างจากคำพูดของมาโคโปโลว่า ที่เมืองจีนนั้นแม้แต่ชาวบ้านธรรมดาหลังคาบ้านยังสร้างมาจากทองคำ ซึ่งสุดท้ายพระราชินีแห่งสเปนก็ยอมสนับสนุนเค้าโดยจัดคนและเรือให้กับเค้าไป 3 ลำ

     ในที่สุดเค้าได้เดินทางไปจนถึงดินแดนที่อยู่ทางทิศตะวันตกได้สำเร็จ ซึ่งเค้าเชื่อว่าเป็นทวีปเอเชีย และได้พบกับชนพื้นเมืองของที่นั่น เค้าได้เรียกชนพื้นเมืองของที่นั่นว่า อินเดี้ยน เดาเอาว่าเค้าคงเข้าใจว่าชาวพื้นเมืองที่เค้าได้พบเจอนั้นเป็นคนอินเดีย(ซึ่งน่าจะเป็นที่มาที่ทำให้ชาวยุโรปในเวลาต่อมาเรียกชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกาว่า Red Indian หรือว่า อินเดียนแดง นั่นเอง)

     เค้าได้ผูกมิตรกับชนพื้นเมืองของที่นั่นได้สำเร็จ และได้เดินทางกลับไปประเทศสเปน เค้าได้เล่าถึงเรื่องราวของการเดินทางรวมถึงสิ่งที่เค้าได้พบเจอในดินแดนที่เค้าได้เดินทางไปถึงนั้นให้กับพระราชินีแห่งสเปนฟัง จนสุดท้ายเค้าก็ได้เดินทางกลับไปที่ดินแดนแห่งนั้นอีกครั้งไปกับกองเรือใหญ่ซึ่งคราวนี้มีทหารเดินทางไปด้วย คราวนี้เรียกว่ากะจะไปค้นหาทองคำกันแบบเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว

     แต่สุดท้ายเค้าก็ได้พบว่าดินแดนแห่งนี้ไม่ได้มีทองคำมากมายอะไรอย่างที่ได้คาดหวังไว้ จนตอนหลังเค้าก็ได้เกิดเรื่องขัดแย้งกับชาวสเปนที่เดินทางไปด้วยกันจนถึงขั้นเข่นฆ่ากันเอง เรื่องนี้ไปถึงหูพระราชินีแห่งสเปนเข้า พระนางจึงได้ส่งข้าหลวงคนใหม่ไปแทนเค้าและเรียกตัวเค้ากลับมารับโทษติดคุกที่สเปน

     ซึ่งข้าหลวงคนใหม่ที่เดินทางไปรับตำแหน่งแทนโคลัมบัสนั้น ได้เดินทางไปพร้อมกับนักสำรวจและนักเดินเรือชาวอิตาลีผู้หนึ่งซึ่งมีนามว่า อเมริโก เวสปุชชี ซึ่งเค้าคนนี้เป็นคนแรกที่เดินทางสำรวจไปจนถึงแผ่นดินใหญ่ได้สำเร็จ ซึ่งต่อมาชื่อของเค้าก็ได้ถูกนำไปตั้งเป็นชื่อของดินแดนแห่งนั้นว่า อเมริกา(จริงๆแล้วโคลัมบัสเองยังเดินทางไปไม่ถึงแผ่นดินใหญ่ เข้าใจว่าเค้าเดินทางไปถึงแค่หมู่เกาะในแถบอเมริกากลางนะครับ)

     ในท้ายที่สุดเมื่อโคลัมบัสพ้นโทษออกจากคุกแล้ว เค้าได้เดินทางกลับไปที่ดินแดนแห่งนั้นอีกครั้งพร้อมกับบุตรชายคนหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้เป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายในชีวิตของเค้า

      เอาล่ะมาฟังเพลงกันดีกว่าครับหลังจากที่โม้ไปซะเยอะ เพลงประกอบของภาพยนตร์เรื่องนี้ประพันธ์โดยนักประพันธ์เพลงชาวกรีก Evangelos Odysseas หรือชื่อในงานเพลงของเค้าก็คือ Vangelis มีเพลงประกอบที่น่าสนใจมากๆอยู่เพลงนึงครับ ชื่อเพลงชื่อเดียวกับชื่อหนัง Conquest of Paradise เป็นเพลงที่ประกอบอยู่ในฉากที่โคลัมบัสกำลังเริ่มต้นออกเดินทางสำรวจไปทางทิศตะวันตกในครั้งแรก

      เป็นเพลงที่มีการร้องในแบบประสานเสียงหรือคอรัสที่เพราะและทรงพลังมากๆ ช่วยให้รู้สึกถึงพลังของความกล้าหาญฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิมครับ ส่วนดนตรีนั้นเน้นหนักไปที่ดนตรีในแนวอีเลคโทรนิค ซึ่งน่าจะเป็นสไตล์ที่ถนัดของผู้ประพันธ์เพลงคนนี้อยู่แล้ว ลองฟังเพลงนี้กันดูครับ

Vangelis - Conquest of Paradise

http://www.youtube.com/watch?v=94dY-QxjDiE
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 13, 2015, 01:40:34 PM โดย messidona » บันทึกการเข้า
messidona
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #922 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2014, 12:08:07 AM »

      ได้เวลาดันกระทู้กันอีกแล้วครับ Wink

      พอดีวันนี้ได้ไปฟังงานเพลงชุดใหม่ของศิลปินชาวเกาหลีคนนึงมา เค้าคนนี้ผมเคยนำเสนองานเพลงจากอัลบั้มชุดแรกของเค้าลงในกระทู้นี้ไปแล้วเมื่อปีก่อน เค้าคือหนุ่มหล่อผู้มีนามว่า Roy Kim นั่นเอง ซึ่งงานเพลงชุดนี้เป็นอัลบั้มชุดที่่ 2 ของเค้าแล้ว

      อัลบั้มชุดนี้พึ่งออกมาเมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เองครับ ชื่ออัลบั้มว่า Home



      เพลงในอัลบั้มก็ยังคงมาแนวทางเดิมเหมือนกับอัลบั้มชุดก่อนคือเป็นเพลงในแนวโฟล์คป๊อบเป็นหลัก แต่อัลบั้มชุดนี้ดูจะหนักกว่าอัลบั้มชุดก่อนมากขึ้นหน่อยคือจะมีความเป็นร็อคมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งอัลบั้มชุดก่อนนั้นจะเป็นโฟล์คใสๆซะมากกว่า

      มาฟังเพลงกันครับ ผมเลือกเพลงจากอัลบั้มชุดนี้ที่ผมชอบที่สุดมาให้ฟังกัน 2 เพลงครับ

      เพลงแรกเป็นเพลงที่ฟังดูหนักที่สุดในอัลบั้มแล้ว เพลงนี้ Roy Kim โชว์พลังเสียงในการร้องเพลงออกมาได้อย่างเต็มที่จริงๆ โดยเฉพาะช่วงท้ายๆของเพลง ลองฟังกันดูครับ

Roy Kim (로이킴) - 영원한 건 없지만 (Nothing Lasts Forever)

http://www.youtube.com/watch?v=EUm_voqXniM


       เพลงที่ 2 นี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเพลงโปรโมทของเค้าเลย เป็นเพลงโฟล์คใสๆ น่าฟังครับ

Roy Kim (로이킴) - 가을에 (When Autumn Comes)

http://www.youtube.com/watch?v=5hSJrQLuq-8


        ฟังเพลง When Autumn Comes ของนายรอยคิมแล้วทำให้นึกถึงเพลงของศิลปินเพื่อชีวิตชื่อดังคนนึงของไทยเราขึ้นมา เค้าคือ พี่ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ครับ เป็นเพลงจากอัลบั้ม ถึงเพื่อน อัลบั้มชุดแรกในชีวิตของแกที่ออกมาเมื่อปี 1987(พ.ศ.2530)



        เลือกเพลงที่ผมชอบที่สุด 2 เพลงจากอัลบั้มชุดนี้ของพี่ปูมาให้ฟังกัน เป็นเพลงในแนวโฟล์คทั้ง 2 เพลงครับ

        เพลงแรกสืบเนื่องมาจากเพลงของนายรอยคิมที่ผมฟังแล้วทำให้นึกถึงนั่นแหละ ส่วนอะไรที่ทำให้ผมนึกถึงก็ลองฟังดูกันเอาเองละกันครับ เนื้อหาของเพลงพูดถึงความต้องการอิสระเสรีของคน โดยนำไปเปรียบเทียบกับนกที่ถูกขังอยู่ในกรงที่รอวันจะถูกปลดปล่อยออกมาสู่โลกกว้าง

คำภีร์ - นกเสรี

http://www.youtube.com/watch?v=MPHSjJSJcW0


         เพลงที่ 2 เป็นเพลงเพราะที่สุดจากอัลบั้มชุดนี้ครับ จะว่าไปแล้วเพลงนี้ผมว่าเป็นเพลงที่เพราะที่สุดและผมชอบที่สุดของพี่ปูเลยก็ว่าได้ ความจริงแกเคยเอาเพลงนี้มาเล่นและร้องบันทึกเสียงใหม่ด้วย แต่ผมชอบเวอร์ชั่นต้นฉบับจากอัลบั้มชุดนี้มากกว่า ผมว่าแกแต่งเพลงนี้และร้องเพลงนี้ออกมาได้เพราะและได้อารมณ์สุดๆจริงๆ บางทีเนื้อหาของเพลงอาจจะตรงกับช่วงชีวิตในตอนนั้นของแก(หรือเปล่า)ก็เป็นได้ ลองฟังเพลงนี้กันดูครับ

คำภีร์ - พเนจร

http://www.youtube.com/watch?v=OEz2NNK5iPo

         ความจริงยังมีเพลงที่ผมชอบมากๆจากอัลบั้มชุดนี้อยู่อีกเพลงนึง แต่ผมชอบเวอร์ชั่นที่พี่ปูแกเอามาร้องใหม่ในอัลบั้ม บันทึกการเดินทาง มากกว่า เพลงที่ว่านี้คือเพลง ถึงเพื่อน เพลงชื่อเดียวกันกับชื่ออัลบั้มนั่นล่ะครับ


ปล.ถ้าใครอยากลองฟังงานเพลงจากอัลบั้มชุดแรกของนายรอยคิมย้อนกลับไปได้ที่หน้านี้ครับ เป็นเพลงโฟล์คใสๆฟังสบายๆ

http://www.avcollectors.com/board/index.php?topic=134998.715
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2014, 02:13:59 PM โดย messidona » บันทึกการเข้า
messidona
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #923 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2014, 11:21:58 PM »

     วันนี้เอาซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดของวงอินดี้คู่ดูโอ She & Him มาฝากกันครับ  Wink

     สำหรับวงคู่ดูโอวงนี้ผมเคยนำเสนอเพลงของพวกเค้าไปแล้วครั้งนึงในกระทู้นี้ เป็นผลงานจากอัลบั้ม Volume Two ที่ออกมาเมื่อปี 2010



     สำหรับในวันนี้มาฟังเพลงใหม่ของพวกเค้ากัน เป็นเพลงอินดี้แบบย้อนยุคฟังสบายๆ ในสไตล์ของเพลงจากยุค 50,60 ครับ

She & Him - Stay Awhile

http://www.youtube.com/watch?v=6DiQ9qQkEU0


     ถ้าใครอยากลองฟังงานเก่าๆของพวกเค้าที่ผมเคยนำเสนอไปแล้วสามารถย้อนกลับไปฟังได้ที่หน้านี้ครับ เป็นอัลบั้มที่มีเพลงเพราะน่าฟังอยู่หลายเพลงเลยเชียว

http://www.avcollectors.com/board/index.php?topic=134998.680
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 01, 2014, 11:08:56 PM โดย messidona » บันทึกการเข้า
messidona
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #924 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2014, 11:13:04 PM »

     มาดันกระทู้หน่อยครับวันนี้ อิอิ.. Wink  ห่างหายไปหลายวันเลยแต่ช่วงนี้กระทู้ไม่ค่อยตกนะ ดีจัง



     เห็นภาพด้านบนนี้แล้วอย่าหลงเข้าใจผิดคิดว่าผมจะมารีวิวหนังเอวีเลยนะครับ 555... Grin  ผมจะมารีวิวเพลงจริงๆ เรื่องของเรื่องเลยก็คือภาพด้านบนนี้เป็นภาพปกหนังของดาราเอวีขวัญใจของผมคนนึง เธอคือ miyuki hourai ครับ เธออำลาวงการไปหลายปีแล้วล่ะ และหนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องสุดท้ายในวงการเอวีของเธอมีชื่อเรื่องว่า Love Song ครับ 

     ผมไม่เคยดูหนังเรื่องนี้หรอกครับ แต่ไม่กี่วันมานี้เองผมบังเอิญได้ไปเจอเข้ากับเพลงที่เธอได้ร้องเอาไว้อยู่ในหนังเรื่องนี้ซึ่งมีอยู่ 2 เพลงด้วยกัน เลยอยากจะพูดถึงสักหน่อย
    
     ความจริงผมเคยดูหนังเอวีที่มีนางเอกของเรื่องร้องเพลงเอาไว้ในหนังอยู่อีกเรื่องนึงเมื่อนานมาแล้ว เป็นหนังเก่าๆของดาราเอวีคนนึงที่มีชื่อว่า miho ariga ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าเธอจะร้องเพลงเอาไว้ในหนังทำไม หรือจริงๆแล้วเธออยากเป็นนักร้องก็ไม่ทราบเหมือนกัน ซึ่งผมเข้าใจว่าหนังที่มีนางเอกร้องเพลงอยู่ในหนังแบบนี้น่าจะมีอีกนะครับ ถ้าใครเคยดูหรือทราบก็มาร่วมแชร์หรือเล่าให้ฟังกันได้นะครับ  Smiley

     เอาล่ะมาฟังเพลงที่น้อง miyuki ของผมร้องกันดีกว่า

     เพลงแรกเป็นเพลงช้าๆ ขอบอกว่าหากความใฝ่ฝันของเธอคือการเป็นนักร้องแล้วล่ะก็คงต้องพยายามกันอีกเยอะมากๆจริงๆ เพราะเสียงร้องของเธอในเพลงนี้ ไม่ดีต่อสุขภาพหูเป็นอย่างยิ่ง เพราะเธอร้องได้เพี้ยนเอามากๆ แต่ไม่เป็นไรน่าคนร้องน่ารักยังไงก็ให้อภัยได้ล่ะ อิอิ.. Grin

宝来みゆき - 永遠に

https://www.youtube.com/watch?v=HbMM1P9EOAk


     เพลงที่ 2 เป็นเพลงร็อคมันส์ๆ เพลงนี้เธอร้องเพี้ยนน้อยลงเยอะเลย อาจเป็นเพราะว่าเพลงเร็วนั้นร้องได้ง่ายกว่าเพลงช้าก็เป็นได้

宝来みゆき - 明日へ

https://www.youtube.com/watch?v=zejNc-wHg-o


     หลังจากที่ได้ฟัง 2 เพลงข้างบนนี้ที่ผมได้จัดไปหลายๆท่านอาจเริ่มบ่น(หากได้หลงเข้าไปฟัง)ว่า " นี่มันหลอกให้ตรูเข้าไปฟังเพลงอะไรกันวะเนี่ย " 555... Grin Grin Grin  เอาล่ะยังไงผมขอแถมให้ฟังกันอีกซักเพลงละกันครับ ทีนี้เป็นผลงานของนักร้องมืออาชีพบ้าง แต่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับดาราเอวีอีกเหมือนกัน

     เพลงนี้เป็นผลงานของนักร้องหนุ่มใหญ่ชาวญี่ปุ่นครับ Keisuke Kuwata(桑田佳祐) เป็นซิงเกิ้ลของเค้าที่ออกมาเมื่อปี 2007



     และที่บอกว่าเพลงนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับดาราเอวี ก็เพราะว่าเพลงนี้ได้อดีตดาราเอวีขวัญใจของผมอีกคนนึงมาเป็นนางเอกเอ็มวีให้นั่นเอง เธอคือสาวสวยทรงโตผู้มีนามว่า nana natsume ครับ  Wink

ภาพของ Nana Natsume ที่ผมพูดถึงเผื่อมีคนไม่รู้จัก


     ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมต้องให้ nana natsume มาเป็นนางเอกเอ็มวี ตอนจบของเอ็มวีมีเฉลยครับ เพราะจริงๆแล้วทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันเป็นเพียงแค่ฝันไปเท่านั้นเองน่ะครับ อิอิ..  Grin

     เพลงนี้เป็นเพลงป็อบที่มีกลิ่นของเพลงจากศิลปินผิวสีเก่าๆในยุค 70 (ซึ่งเพลงไทยในยุคนี้ก็มีหลายเพลงอยู่เหมือนกันที่ทำเพลงออกมาในแนวทางนี้ซึ่งแต่ก่อนจะไม่ค่อยมี) ที่ชอบที่สุดของเพลงนี้ก็คือ เสียงเครื่องเป่าตรงช่วงอินโทรเพลงครับเพราะมากๆ ลองฟังเพลงนี้กันดู

桑田佳祐 - ダーリン darling

http://vlog.xuite.net/play/Q20yQ3JiLTEwODE1ODcxLmZsdg==/%E6%A1%91%E7%94%B0%E4%BD


     ความจริงนักร้องหนุ่มใหญ่ท่านนี้ ผมเคยพูดถึงเพลงของเค้าลงในกระทู้นี้ไปแล้วครั้งนึง เป็นเพลงที่ใช้ประกอบโฆษณาของญี่ปุ่นชิ้นนึงครับ  หากใครสนใจอยากลองฟังก็ย้อนกลับไปฟังได้ที่หน้านี้ครับ เป็นเพลงป็อบที่เพราะมากๆเพลงนึงเลยทีเดียว

http://www.avcollectors.com/board/index.php?topic=134998.410
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 20, 2015, 12:10:29 PM โดย messidona » บันทึกการเข้า
messidona
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #925 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2014, 12:51:59 AM »

     พอดีวันนี้มีโอกาสได้ไปลองฟังงานเพลงของศิลปินไทยรุ่นใหม่คนนึงเข้า ศิลปินคนนี้เป็นชายหนุ่มครับ มีดีกรีคำว่า เดอะวอยซ์ ต่อท้ายชื่อเหมือนกันกับว่าเป็นนามสกุลด้วย งานของเค้าคนนี้มีเอกลักษณ์พิเศษอย่างนึงก็คือมีการใส่ความเป็นไทยเข้าไปในเพลงด้วย เช่น การเอื้อนแบบไทยเดิม หรือการขับเสภา คือเอาเทคนิคการร้องแบบไทยเดิมบางอย่างเข้ามาผสมกับดนตรีสากลนั่นแหละ

     ไม่รู้ว่าผมอธิบายอย่างนี้แล้วมีใครพอรู้บ้างหรือยังครับว่าเค้าคนนี้คือใคร เฉลยครับเค้าคนนี้คือ เก่ง ธชย หรือ เก่ง เดอะวอยซ์ นั่นเอง เรื่องของเรื่องเลยคือผมอยากจะบอกว่า หลังจากที่ผมได้ลองฟังงานเพลงของเค้าบางเพลงดูแล้ว ไม่รู้จะเป็นเพราะว่าผมเริ่มแก่ไปแล้วหรือเปล่าหรือจะอย่างไรไม่ทราบ บางทีเด็กรุ่นใหม่ๆที่ได้ฟังอาจจะรู้สึกว่าเพลงของเค้ามันสร้างสรรค์มันเจ๋งมันคูลมันโคตรแนวหรืออะไรก็แล้วแต่ผมไม่ทราบ แต่ผมอยากบอกว่าสำหรับผมแล้วนั้นเพลงของเค้ามันขาดสิ่งนึงไปครับ ซึ่งสิ่งนี้จะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสิ่งนึงเลยสำหรับคำว่าเพลงก็ว่าได้ นั่นก็คือ ความไพเราะ ครับ

     เสร็จแล้วผมก็เลยลองนึกไปว่ามีเพลงไทยเก่าๆเพลงไหนมั่งหรือเปล่าที่มีการนำเอาความเป็นไทยเข้ามาผสานกับสากลที่ทำออกมาแล้วมันเจ๋งและที่สำคัญที่สุดเลยก็คือฟังเพราะด้วยบ้าง  ตอนนี้ผมนึกออกอยู่เพลงนึงครับ

     เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มที่ออกมาเมื่อปี 1993(พศ.2536) ของศิลปินหนุ่มร็อคมาดเท่ห์ ธเนศ วรานุเคราะห์



     เพลงๆนี้ได้นำเอาทำนองของเพลงไทยพื้นบ้านอย่าง ลาวกระทบไม้ เข้ามาผสมผสานกับดนตรีในแนวอีเลคโทรนิคบวกกับความเป็นร็อคเข้าไป จนสุดท้ายก็ได้กลายมาเป็นเพลงโปรเกรสสิฟร็อคเจ๋งๆเพลงนึง ชื่อเพลงชื่อเดียวกันกับชื่ออัลบั้มเลยครับ ร็อคกระทบไม้

ธเนศ วรากุลนุเคราะห์  - ร็อคกระทบไม้

http://www.youtube.com/watch?v=PXPhBQPMTeg

     จริงๆแล้วอัลบั้มชุดนี้ก็ยังมีเพลงเพราะๆดีๆอยู่อีก เท่าที่ผมนึกออกเลยตอนนี้ก็มีอย่างเช่น เพลงอีกหน่อยเธอคงเข้าใจ เป็นเพลงช้าเพราะๆความหมายดีครับ ถ้าใครสนใจก็ไปหาลองฟังกันดูได้ Wink

     แต่วันนี้ผมอยากพูดถึงอีกเพลงนึงต่อครับ พอดีหลังจากที่ได้ฟังเพลงร็อคกระทบไม้ไปแล้ว ผมนึกถึงเพลงอีกเพลงนึงขึ้นมา เหตุผลอาจเพราะว่าเพลงมันฟังดูขลังๆอลังการๆเหมือนกันก็เป็นได้

     เพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม 13(ชื่ออัลบั้ม) อัลบั้มที่ออกมาเมื่อปี 1999 ของวงอัลเทอร์เนทีฟร็อคชื่อดังจากอังกฤษครับ Blur



     เพลงนี้เป็นเพลงเจ๋งที่สุดจากอัลบั้มชุดนี้เลย เป็นเพลงร็อคที่ผสมกับการร้องประสานเสียงในแบบของ กอสเปล เลยทำให้เพลงนี้ฟังดูเพราะแบบขลังๆครับ ลองฟังกันดู

Blur - Tender

http://www.youtube.com/watch?v=DNumVU9uBgo

     ปล.พอดีในตอนต้นได้พูดถึงเดอะวอยซ์ไป เลยอยากจะแสดงความคิดเห็นสักหน่อย ผมเห็นว่าเดี๋ยวนี้มีรายการประเภทประกวดร้องเพลงเพื่อสรรหานักร้องหน้าใหม่ๆอยู่เยอะมากมายหลายรายการเลย เช่น เดอะสตาร์ ,KPN ,อะคาเดมี่แฟนตาเชีย ,เดอะวอยซ์ และอื่นๆ แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้เดอะวอยซ์จะมาแรงที่สุด ผมเลยลองมาคิดดูเล่นๆว่าทำไมเราไม่จัดแข่งขันรายการอย่าง The Composer ดูบ้างล่ะครับ เป็นรายการที่สรรหานักแต่งเพลงที่แต่งเพลงได้เพราะที่สุด เผื่อเราจะได้มีนักแต่งเพลงเก่งๆเพิ่มขึ้นมาแต่งเพลงเพราะๆให้เราได้ฟังกันอีกบ้างยังไงล่ะครับ ถ้าเกิดว่ามีรายการนี้ขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะก็ ผมคนนึงล่ะครับที่จะไปสมัคร ถ้าเค้าไม่จำกัดอายุนะ อิอิ... Grin Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 18, 2014, 01:01:33 PM โดย messidona » บันทึกการเข้า
Vice President AVC
ผู้บัญชาการเอวีสูงสุด
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2480



« ตอบ #926 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2014, 09:13:19 PM »

แวะเข้ามาครับ อิอิ แวํบ แว๊บ อิอิอิ
บันทึกการเข้า
messidona
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #927 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2014, 02:35:51 PM »

     ขอบคุณ คุณเสี่ยวจู ที่มาช่วยดันกระทู้นะครับ Grin

     อันตัวผมนั้นห่างหายกันไปหลายวันเลยสำหรับกระทู้นี้ วันนี้ผมกลับมาดันกระทู้แล้วครับ พอดีเมื่อคืนได้ดูหนังเรื่องนึงจากบิ๊กซีนีม่าทางช่อง 7 ก็เลยอยากพูดถึงสักหน่อย ความจริงหนังเรื่องนี้ผมเคยได้ดูจากแผ่นดีวีดีที่ผมซื้อมาเมื่อหลายปีก่อนแล้ว แต่เมื่อคืนทางช่อง 7 ได้เอามาฉายผมเลยได้ดูอีกครั้ง จริงๆเพราะผมประทับใจกับหนังเรื่องนี้อยู่พอสมควร

     จากที่ผมได้ดูไปอีกรอบเมื่อคืน ทำให้ผมได้รู้ว่าผมพลาดอะไรไปบางอย่างซะแล้ว เพราะหนังเรื่องนี้มีเพลงประกอบที่เพราะใช้ได้เลยทีเดียว เป็นเพลงที่อยู่ในตอนที่เครดิตของหนังตอนท้ายเรื่องขึ้นมาน่ะครับ อาจเป็นไปได้ว่าตอนที่ผมดูจากแผ่นดีวีดีนั้นผมดูไปไม่ถึงตอนที่เครดิตท้ายหนังขึ้นมาก็เป็นได้ เลยทำให้พลาดไป อิอิ.. Grin

     ภาพยนตร์ที่ผมพูดถึงนี้เป็นภาพยนตร์จีนที่ออกฉายเมื่อปี 2010 ครับ Aftershock หรือชื่อในภาษาจีนคือ 唐山大地震(ถังซานต้าตี้เจิ้น แปลว่า แผ่นดินไหวใหญ่ถังซาน) 
 


     เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศจีนเมื่อปี 1976 ซึ่งเกิดขึ้นที่เมืองถังซาน(เมืองนี้อยู่ในมณฑลเหอเป่ยซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่รอบๆเมืองเป่ยจิงหรือปักกิ่งนั่นเอง ถ้าดูจากแผนที่เมืองนี้จะอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองปักกิ่งครับ) ความแรงของแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนี้วัดได้ถึง 7.8 ริกเตอร์ ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 242,769 คน

     ภาพยนตร์พูดถึงครอบครัวๆนึงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้(เข้าใจว่าเป็นเรื่องแต่งนะครับ เพราะหนังค่อนข้างจะดราม่าอยู่พอสมควร เรียกว่าทำผมเสียน้ำตาไปได้หลายอยู่เหมือนกัน) มีพ่อแม่และลูกชายลูกสาวอย่างละคน ตัวพ่อนั้นเสียชีวิตในทันทีตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครับ แต่ดราม่าของเรื่องมันอยู่ที่ตัวลูกทั้ง 2 ที่ยังไม่ตายในทันที แต่ติดอยู่ใต้ซากตึกที่พังทับลงมานี่ล่ะครับ เนื่องจากเหตุการณ์บังคับ ทำให้คนแม่ต้องเลือกที่จะช่วยลูกคนใดคนนึงเพียงคนเดียว เพราะถ้าช่วยคนนึงอีกคนก็จะไม่รอด ซึ่งแม่เลือกที่จะช่วยลูกชายครับ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดในใจของเธอมาโดยตลอด จนทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานใจอยู่นานถึง 30 กว่าปี ส่วนตัวลูกสาวที่แม่เลือกที่จะไม่ช่วยนั้น(จริงๆเธอไม่ได้เสียชีวิตและต่อมาได้มีสามีภรรยาคู่หนึ่งรับเธอไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม)ก็แน่นอนล่ะครับว่า เธอจะต้องรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดเป็นอย่างมากจนเกิดเป็นบาดแผลฝังใจมาตลอด เพราะเธอถูกปฏิเสธจากคนที่เธอรักมากที่สุดก็คือแม่ของเธอนั่นเอง

     เหตุการณ์ดำเนินต่อไปจนอีก 32 ปีต่อมา พี่น้องคู่นี้ก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญ ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ซื่อชวนหรือเสฉวนเมื่อปี 2008 ซึ่งทั้งคู่ได้อาสาเข้าไปเป็นผู้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนั้น จนสุดท้ายแม่และลูกสาวก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งและได้ระบายสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจตลอด 32 ปีนั้นให้แก่กันฟัง ซึ่งเป็นฉากที่เรียกน้ำตาจากผมไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว  Embarrassed Embarrassed Embarrassed

     เอาล่ะมาฟังเพลงกันดีกว่าครับ เป็นเพลงที่อยู่ในช่วงเครดิตของหนังตอนท้ายเรื่องอย่างที่ผมได้เกริ่นเอาไว้ในตอนต้นนั่นล่ะ เพลงนี้ประพันธ์โดย 王黎光(หวังหลีกวง) ผู้ประพันธ์เพลงชาวจีน(แผ่นดินใหญ่)ครับ เป็นเพลงบรรเลงในแบบคลาสสิคที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกเศร้าแต่ก็ไพเราะเพราะพริ้งดีเลยทีเดียว ลองฟังกันดูนะ Wink

唐山大地震電影原聲帶

https://www.youtube.com/watch?v=UFiIcWzVoyQ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 11, 2014, 10:13:24 AM โดย messidona » บันทึกการเข้า
messidona
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #928 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2014, 10:52:11 PM »

     วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลงจากกลุ่มศิลปินบอยแบนด์กันบ้างครับ หลังจากที่กระทู้เงียบกันไปหลายวันเลย

     ศิลปินกลุ่มแรกที่อยากจะนำเสนอนั้นจะเรียกว่าบอยแบนด์ดีหรือเปล่าหว่า คือหน้าตาพวกเค้าอาจจะไม่หล่อเข้าขั้นเหมือนกับศิลปินบอยแบนด์ในยุคนี้ แต่ก็เป็นวงที่มีสมาชิกเป็นชายล้วน(ในยุคหลังๆรู้สึกว่าจะมีสมาชิกเป็นผู้หญิงด้วย) เป็นกลุ่มศิลปินพี่น้องตระกูล Osmonds คือสมาชิกในวงเป็นพี่น้องกันทั้งหมด(น่าจะคล้ายๆกับคณะ The Jackson 5 ของ ไมเคิล แจ็กสัน นั่นล่ะครับ) ส่วนชื่อวงก็เป็นชื่อเดียวกันกับชื่อสกุลของพวกเค้าเลยครับ The Osmonds

     พวกเค้าเป็นวงจากสหรัฐอเมริกาครับมีชื่อเสียงอยู่ในยุค 70-80 สำหรับวันนี้ขอนำเสนอผลงานเพลงที่เพราะที่สุดเพลงนึงของพวกเค้า เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม Love Me For A Reason ที่ออกมาเมื่อปี 1974 ครับ



     เป็นเพลงป๊อบเพราะๆที่มีชื่อเดียวกันกับชื่ออัลบั้มครับ

The Osmonds - Love Me For A Reason

https://www.youtube.com/watch?v=mb2COiQcAWE


     ในอีก 20 ปีต่อมาก็ได้มีกลุ่มศิลปินบอยแบนด์ชื่อดังจากไอร์แลนด์ได้นำเอาเพลงนี้มาคัฟเวอร์ใหม่ ที่จริงแล้วผมรู้จักและได้ยินได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกก็จากศิลปินกลุ่มนี้นั่นแหละครับ เพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม Said and Done ของพวกเค้าที่ออกมาเมื่อปี 1995 ครับ



     สำหรับเวอร์ชั่นนี้ของพวกเค้าทำออกมาได้ดีและไพเราะไม่แพ้กับต้นฉบับเลย แต่สังเกตได้อย่างนึงว่าจังหวะของเพลงค่อนข้างที่จะเร็วกว่าต้นฉบับอยู่สักหน่อย ซึ่งตรงนี้ผมได้ตั้งเป็นข้อสังเกตอยู่อย่างนึงว่าบางทีคนในยุคใหม่ๆอาจมีรสนิยมในการฟังเพลงที่มีจังหวะที่เร็วกว่าคนในยุคก่อนๆก็เป็นได้ ลองฟังเวอร์ชั่นนี้ของวง Boyzone กันดูครับ

Boyzone - Love Me For A Reason

https://www.youtube.com/watch?v=gkm-FqdSQ6o
บันทึกการเข้า
messidona
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #929 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2014, 12:48:23 AM »

     หายเงียบไปหลายวันเลย ได้เวลากลับมาดันกระทู้แล้วครับ  Wink ช่วงนี้งานผมค่อนข้างยุ่งบวกกับความขี้เกียจด้วยเลยทำให้ไม่ได้มาโพสเพลงซะหลายวัน

     สำหรับในวันนี้เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของวันคริสต์มาสต์ที่กำลังจะมาถึง เลยขอจัดเพลงในแบบคริสต์มาสต์ๆมาให้ฟังละกัน วันนี้ผมนึกถึงเพลงๆนึงขึ้นมาครับเป็นเพลงที่ผมจะได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว(ส่วนมากก็จะเป็นแม่ผมร้องให้ฟังนี่แหละครับก็คือม่ั่วเนื้อไปตามประสาคนเห่อเทศกาลฝรั่งนั่นล่ะ) ซึ่งก็คิดว่าทุกๆคนก็น่าจะเคยได้ฟังมาบ้างแล้วเหมือนกัน  ตอนได้ฟังก็จะแอบนึกฝันนึกจินตนาการไปว่าในตอนกลางคืนจะมีลุงซานตาคลอสใจดีแอบเอาของขวัญมาให้ ซึ่งมันก็เป็นความสุขอย่างนึงตามประสาเด็กๆน่ะนะครับ

     สำหรับเพลงที่ผมอยากจะนำเสนอให้ฟังนั้นเนื้อร้องในแบบต้นฉบับก็จะร้องว่า จิงเกิลเบล จิงเกิลเบล จิงเกิลออลเดอะเวย์ เพลงนี้ล่ะครับ แต่ที่ผมจะจัดมาให้ฟังกันนั้นจะเป็นเวอร์ชั่นที่นำเอาทำนองเพลงนี้มาใช้ ซึ่งเท่าที่ผมเคยได้ยินได้ฟังมาและนึกออกในตอนนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 เวอร์ชั่นครับ

     เวอร์ชั่นแรกเป็นเพลงของนักร้องลูกทุ่งไทยในอดีต เจ้าของฉายา "เทพบุตรหน้าผี" คุณ สังข์ทอง สีใส ครับ



     เพลงนี้ในส่วนของดนตรีเป็นเพลงที่บรรเลงแบบแจ๊สในจังหวะกัวราช่า(เข้าใจว่าเพลงไทยในสมัยก่อนนั้นส่วนมากดนตรีจะบรรเลงในแบบแจ๊สทั้งนั้นทั้งลูกทุ่งและลูกกรุงนะครับ) ส่วนเนื้อหาของเพลงก็เป็นเพลงที่มีเนื้อหาตลกขบขันซึ่งก็เข้ากันกับตัวคนร้องได้เป็นอย่างดี ลองฟังกันดูครับ

สังข์ทอง สีใส  - ลูกสาวยายต๋ำ

https://www.youtube.com/watch?v=qwwoMqIThZw


     อีกเวอร์ชั่นเป็นเพลงของราชินีเพลงจีนผู้ล่วงลับ เติ้งลี่จวิน ครับ เพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม 心疼的小宝宝 ของเธอที่ออกมาเมื่อปี 1967



     เป็นเพลงสวิงแจ๊สที่มีจังหวะสนุกๆชวนโยกตามครับ

鄧麗君 - 聖誕鈴聲 (Jingle Bells)

https://www.youtube.com/watch?v=e0DwlDrok9s
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2015, 12:59:30 AM โดย messidona » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 91 92 [93] 94 95 ... 119 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  














AV Community Since 2009 : AVCollectors.com - Advertising please contact [email protected]