--เกริ่นนำตามระเบียบ ก็ไม่มีไรครับแค่จะบอก อาจจะแปลน้อยลงแล้ว เพราะที่กลับมาแปลเห็นว่า บอร์ดเงียบจนท่านประธานต้อง
เอาคอนเทนมาลงเอง3-4วันติด เลยเอาบทสัมมาลง แต่พอเห็นว่าคนอื่นก็ช่วยรันบอร์ดละ
ผมก็เลยว่าจะกลับไปอยู่เงียบๆเหมือนดีกว่า ยังไงถ้าชอบใครหรือมีบทสัมดีๆก็จะมาแปลให้อ่านกันนะครับ ขอบคุณ มา ณ.ที่นี้
เอาละมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้มาคอนเซบ
"Akari Mitani x Dance!" อาคาริจัง ผู้เชี่ยวชาญการเต้นและห้องเรียนวิเศษ
บอกเราเกี่ยวกับประวัติการเต้นของคุณฉันเรียนตั้งแต่อายุ 3 จนถึงอายุ 16 ปี นั่นคือทั้งหมดที่ฉันเรียนมา ฉันจำไม่ได้จริงๆว่ามันเริ่มต้นอย่างไร
แต่เห็นได้ชัดว่าพ่อแม่ของฉันต้องการให้ฉันเรียนบัลเล่ต์ในตอนแรก
ตอนแรกพวกเขาพาฉันไปเรียนบัลเล่ต์ แต่ดูเหมือนฉันจะไม่ชอบมัน (หัวเราะ)
จากนั้นพวกเขาก็พาฉันไปโรงเรียนสอนเต้นฮิปฮอป และที่นั้นมันทำให้ฉันแสดงความสนใจ ในขณะนั้น "Morning Musume"
กำลังดัง และเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ Morning Musume กันเต็มไปหมด และสาวๆ ทุกคนก็ร้อง "วอเอ๊ะๆๆ"
(เดี๋ยวๆนี้ไม่ใช่แล้วมั้ง)
ฉันก็เลยเต้นที่บ้านเหมือนกัน นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ฉันเริ่มเต้น (หัวเราะ)
แล้วคุณมาเต้นได้ยังไง?ครั้งแรกที่ฉันเข้าร่วมโรงเรียนสอนเต้นรุ่นเยาว์ที่สปอร์ตคลับ ชั้นเรียนถูกแบ่งตามอายุ
ฉันเดาว่าฉันคงไปชั้นเรียนประเภทเด็กวัยหัดเดินที่นั่น
หนึ่งในโค้ชที่ยอดเยี่ยมที่นั่นสอนอยู่ที่นั้นเช่นกัน และเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันอยู่ด้วยที่โรงเรียนชวนฉันให้เข้าร่วมกับเธอ
โดยพูดว่า "เรามาทำอะไรที่จริงจังกว่านี้ที่นี่ดีไหม" ฉันก็เลยเริ่มไปที่นั่นเหมือนกัน ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ชอบเต้น
ฉันไม่เคยต้องการที่จะพักจากการเต้นเพียงเพราะฉันอยากไปเที่ยวกับเพื่อนหรือทำอย่างอื่นที่สนุก
ฉันคิดว่าฉันมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะไปเรียนรู้การเต้นเพิ่มเติมมากกว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่น
ฉันมีเพื่อนเต้นมากกว่าที่โรงเรียนซะอีก และเนื่องจากเราอยู่ในทีมเดียวกันและเราจึงออกแบบท่าเต้นแบบเดียวกัน
มันเลยมีความสามัคคีมากกว่าเล็กน้อย เด็กที่อายุน้อยกว่าที่นั่นก็ชื่นชอบฉันเช่นกัน
ฉันเป็นลูกคนเดียวด้วย ฉันจึงมีความสุขที่ได้คุยกับกับคนที่อายุน้อยกว่า
ฉันมีความสุขที่ได้คุยเล่นกับเด็กๆ ทำมันให้ฉันมีความสุขเช่นกัน
ฉันเรียนรู้ท่าต่างๆ มากมายจากครูที่นั่น สิ่งที่เจ๋งที่สุดที่เขาสอนคือการเต้น Lock Dance*
และการเต้นรำที่เรียกว่าพังค์ พังค์คือการเต้นที่แกว่งแขนเหมือนแส้
แต่มันค่อนข้างเจ็บปวด (หัวเราะ) เป็นการเต้นรำที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังหายใจไม่ออกหลังจากเพลงหนึ่งเพลง แต่มันเท่ซะจริงๆ
**Lock Dance: คือการเต้นสไตล์สตรีทแดนซ์ที่มีต้นกำเนิดในปี 1970 โดยนักเต้นจะหยุดชั่วคราว
หลังจากเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นเปรียบเหมือนกับ "การล็อกประตู"**
ถ้าคุณตั้งใจฝึกขนาดนั้น คุณต้องพัฒนาขึ้นมากแล้วสิถูกไหมคงเพราะฉันสูงดังนั้นฉันอาจจะดูเต้นเก่ง แต่จริงๆมีนักเต้นที่ดีกว่ารอบๆ ตัวฉัน ดังนั้นฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักเต้นที่เก่งเลยจริงๆ
นอกจากนี้ ฉันไม่เคยมีความอดทนเลย ทั้งการฝึกซ้อมที่บ้าน สมัยเรียนจะต้องตั้งใจทำงาน
แต่เอาจริงๆฉันคิดว่าตัวเองสนใจ "เต้นสนุกๆ กับคนอื่นมากกว่า พออยู่ชั้นประถมก็คิดว่าคงทำงานอื่นไม่ได้แล้ว"
เมื่อเริ่มเต้นและเมื่อถูกถามถึง "ความฝันในอนาคต" ของฉัน ฉันก็พูดว่า "อยากเป็นครูสอนเต้น"
แต่พอได้เข้าไป ก็พบว่ามีเด็กหลายคนที่เก่งกว่าฉัน พวกเขาจะดีกว่าฉัน และฉันจะไม่มีวันดีเท่าพวกเขา (หัวเราะ)
ฉันรู้เลยว่าบุคลิกของฉันไม่มีคำนิยามที่ว่า "ฉันอยากจะทำงานหนักและทำมันให้ดี แม้ว่ามันจะยากก็ตาม
คุณเคยได้เข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่?มีการแข่งขันกันครั้งใหญ่ในหมู่สปอร์ตคลับ และเราเข้าร่วมเป็นทีม
เป็นการแข่งขันเต้นที่สนุกมากกว่าการแข่งขันการฝึกซ้อมแบบมืออาชีพ แต่เราได้ที่ 2 ในการแข่งขันญี่ปุ่นตะวันออก
ในเวลานั้น เรามีแรงบันดาลใจที่จะทำอย่างดีที่สุดเพื่อชนะการแข่งขันด้วยกัน
เนื่องจากเป็นการแข่งขันภายใน เราจึงรู้ถึงความแข็งแกร่งของทีม และเราก็เป็นพวก "เราจะไม่แพ้ทีมนั้น! ฉันจะไม่แพ้ทีมนั้นเด็ดขาด!"
ก่อนการแข่งขัน เด็กๆจะได้รวมตัวและฝึกซ้อมด้วยตัวเองที่มุมโรงยิมของเทศบาล
ในขณะที่เรามีบรรยากาศที่น่าหลงใหลแบบนั้น การได้ขี่จักรยานด้วยกันและพูดคุยกันแบบสบายๆ ในช่วงพักก็เป็นเรื่องสนุกเช่นกัน
ฉันเดาว่าฉันชอบเวลาที่ฉันทำงานหนักร่วมกับคนอื่น ฉันเป็นคนประเภทที่ทำงานหนักคนเดียวไม่ได้ (หัวเราะ)
มันเป็นช่วงเวลาของเด็กอย่างแท้จริง
ดีจังเลยนะ ความสัมพันธ์ของคุณกับการเต้นเป็นอย่างไรบ้างหลังจากนั้น?ฉันเลิกเต้นเมื่อตอนที่ฉันอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพราะฉันอยากทำงานพาร์ทไทม์
แต่หลังจากนั้น ฉันยังชอบดูการเต้นเคป๊อป ร่างกายของฉันจำการเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นฉันจะเลียนแบบและเต้นมัน
ดังนั้นเมื่อฉันเริ่มทำงานให้กับผู้ผลิตโดยเฉพาะและมีเวลาเหลือเฟือ
ฉันคิดว่านี่จะเป็นโอกาสที่ดีและเริ่มเรียนรู้อีกครั้ง แต่...ไม่นานก็กลายเป็นช่วงเวลาของการอยู่บ้านของฉันไปเฉยเลย
การเต้นขณะสวมหน้ากากนั้นทรมาน ฉันมีเรียนสัปดาห์ละครั้ง แต่บางครั้งฉันต้องทำงาน และถ้าฉันไม่ไปเรียนสักครั้ง
ท่าเต้นก็จะก้าวหน้าเร็วมากจนฉันตามไม่ทัน นั่นคือเหตุผลที่ฉันหยุดพักตั้งแต่ตอนนี้
ใจจริงๆฉันอยากกลับไปอีกครั้งเพราะเป็นชั้นเรียนที่สนุกที่แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถเข้าร่วมได้
การเต้นช่วยคุณในงานปัจจุบันของคุณบ้างไหม?สิ่งที่ฉันเรียนรู้จากการเต้นช่วยฉันได้มากในเรื่องลามก วิธีที่ฉันใช้ร่างกายของฉัน เช่น ในท่าคาวเกิร์ล ฉันดีใจที่ได้เต้นไปด้วย (หัวเราะ)
สิ่งเดียวที่ฉันทุ่มเทให้นอกจากการเต้นคือการแสดงหนังโป๊ (หัวเราะ)
ฉันคิดว่ามันช่วยในการโพสท่า ฉันมักจะถูกบอกว่าเวลาสำหรับการถ่ายทำนั้นสั้นเกินไป
ฉันมองดูตัวเองในกระจกขณะเต้นเป็นเวลานาน ฉันเดาว่าความรู้สึกในการวางตัวของฉันคงฝังแน่นอยู่ในตัวฉัน
ฉันคิดว่าฉันมีความรู้สึกที่ฝังแน่นในการโพสท่า เช่น "เวลาฉันโพสท่านี้ มุมของใบหน้าฉันควรจะเป็นแบบนี้ ต้องเป็นแบบนี้นะ
ใช่แล้ว มีหนังโป๊ที่ฉํนเต้นด้วย ในเรื่องนั้น ฉันเล่นเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ตื่นเต้นเมื่อได้ฟังเพลงหมอลำดังขึ้นมาก (หัวเราะ)
นี่คือปกเรื่องนั้น

คุณกำลังเต้นไปกับเพลงประกอบระหว่างการถ่ายทำวันนั้นใช่ไหมเอ๊ะ. อันที่จริง ฉันเริ่มชอบ BTS เมื่อสองสามปีก่อน บางคนเป็นนักเต้นที่ดีจริงๆ ฉันดูวิดีโอการเต้นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
และฉันเห็นนักเต้นเก่งๆ หลายคน แต่อันนี้ดีที่สุดแล้ว ฉันคิดว่า "ถ้าทีมมีคนในระดับนี้ พวกเขาต้องเก่งจริงๆ"
และฉันก็เริ่มดูพวกเขา ฉันไม่เคยสนใจไอดอลชายหรือนักแสดงที่หน้าตาดีมาก่อน
เขามีพลังในการแสดงออกที่ยอดเยี่ยม การเคลื่อนไหวของนักเต้นที่ดีนั้นเหมือนกัน
แต่การแสดงออกทางสีหน้าและภาษากายของเขาในระหว่างการเต้นฟรีแดนซ์ก็น่าทึ่งเช่นกัน มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ฉันยังสนุกกับการเลียนแบบท่าเต้นของ BTS (หัวเราะ) และฉันก็ชอบ TWICE และ Girls' Generation ดังนั้นฉันจึงเป็นแฟน
K-pop ตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันกำลังสนุกกับการร้อง วอเอ๊ะๆ เพลงบ้าไม่รู้เอาออกจากหัวยากฉิบหาย 555
ว่าแต่ คุณออกกำลังกายอย่างอื่นนอกจากเต้นไหม?งานของฉันทำให้ฉันต้องรักษารูปร่างและความฟิต ดังนั้นฉันจึงไปยิมหลายแห่ง แต่พอไปวิ่งก็รู้ว่าพอเถอะ (หัวเราะ)
ในฤดูหนาว มือของฉันเจ็บจากความหนาวเย็น และในเวลากลางวัน แดดก็แรง แต่เมื่อถึงจุดๆนึง ฉันวิ่งห้าครั้งต่อสัปดาห์
คุณรู้หรือเปล่าว่า? การวิ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเปลี่ยนรูปร่างของคุณ
อันที่จริง ฉันไปร้านเสริมสวยเพื่อลดน้ำหนักที่พวกเขาสอนวิธีลดน้ำหนักอย่างมีเหตุมีผล
และฉันสงสัยว่ามันจะได้ผลจริงหรอ ฉันไปที่นั่นด้วยใจที่สงสัยว่ามันจะได้ผลจริงหรือ
เมื่อฉันวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อภายในของฉัน ฉันพบว่าฉันอยู่ในวัย 60 หรือ 70! ขุ่นพระ
ฉันมีนิสัยชอบก้มสะโพกไปข้างหลัง เพราะฉันโก่งหลังเสมอ เมื่อเดินเหมือนเดิม ท้องจะตกลงมา
และจะไม่สามารถใช้กล้ามเนื้อภายในได้ มันเป็นเรื่องแปลกไหมที่ฉันสามารถเต้นในสภาพเช่นนี้ได้
แต่ฉันก็อาจจะชดเชยมันด้วยกล้ามเนื้อส่วนอื่น และเห็นได้ชัดว่าฉันเก่งเรื่องบางอย่าง เช่น การเหยียบขาเทพๆมาแทน
กล้ามเนื้อของคุณอายุ 70 มันฟังดูแย่ ดังนั้นคุณออกกำลังกายอีกครั้งจากที่นั่น?ใช่ฉันทำ. ฉันใช้ความรู้ที่เรียนมาจากร้านเสริมสวยมาคิดวิธีการวิ่งแบบใหม่! ฉันไม่มีกล้ามเนื้อเหมือนในตอนเริ่มต้น
ดังนั้นมันจึงยากสำหรับฉันที่จะวิ่ง ในตอนแรก กล้ามเนื้อของฉันปวดมากจนส่งผลต่อการถ่ายงาน
แต่เมื่อฉันทำมันต่อ ตำแหน่งเอวของฉันก็เริ่มดีขึ้น นอกจากนี้ยังรักษาส่วนโค้งของฉัน
ฉันอยากแนะนำให้ทุกคนที่มีหลังบิดเบี้ยวจงทำมัน!
ตอนนี้เมื่อฉันเดิน ฉันเดินโดยมีอาการปวดหลังส่วนล่าง นี่ก็ค่อนข้างแย่เช่นกัน แต่มันทำให้รูปร่างของฉันดีขึ้นด้วย
และฉันยังคงพยายามอย่างต่อเนื่อง นี่อาจเป็นพื้นที่หนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้ที่จะทำงานหนักมากกว่าตอนที่ฉันเรียนเต้น (หัวเราะ)
ฉันอยากจะทำมันต่อไปในการเต้นในแบบของฉันเอง และฉันก็เต้นเพลง TWICE หนึ่งเพลงและเพลง BTS หนึ่งเพลง
ในการประชุมออฟไลน์ครั้งล่าสุด ไม่ใช่ว่าฉันมีเคล็ดลับอะไรหรอกนะ แต่ฉันคิดว่าการแสดงแบบนั้นทำให้แฟนๆ มีความสุข
ฉันจึงอยากจะแสดงทักษะของฉันให้พวกเขาเห็นต่อไป

-------------------
ตอนต่อไป จะเป็นห้องเรียนพิศวงของ อาคาริจัง ข้างล่างต่อจากโพสนี้