ก่อนอื่นต้องรู้จักกฎหมาย AV ใหม่ก่อนครับ เอาหัวข้อสำคัญมาเสนอครับ
ฝ่ายนักแสดง
มาตราที่ 3 นักแสดงต้องไม่ถูกการบังคับให้แสดงทางเพศ
มาตราที่ 7 การถ่ายทำจะต้องเกิดขึ้นหลังจากเซ็นสัญญา 1 เดือนขึ้นไป
มาตราที่ 9 ผลงานที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว จะสามารถเผยแพร่หลังจากเซ็นสัญญา 4 เดือนขึ้นไป หลังจากถ่ายทำจำเป็นต้องให้นักแสดงสามารถตรวจสอบภาพที่ถ่ายทำ
มาตราที่ 13 นักแสดงไม่ว่าจะอายุเท่าใด หรือเพศใด หลังจากภาพถูกเผยแพร่แล้ว 1 ปี สามารถยกเลิกสัญญาโดยไม่มีเงื่อนไข หรือเสียเงินค่าผิดสัญญาใดๆ
ฝ่ายผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย
มาตราที่ 4-6 ผู้ผลิตและผู้เผยแพร่ มีหน้าที่ทำสัญญาที่ระบุเนื้อหาการแสดงทางเพศ ไว้ในสัญญา และอธิบายให้กับผู้แสดงให้ทราบ
มาตราที่ 16 กรณีที่มีการยกเลิกสัญญา ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายมีหน้าที่เรียกเก็บสินค้า
ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆก็คือ
1. การถ่ายทำทุกครั้ง ต้องมีช่วงเวลาผู้แสดงสามารถตัดสินใจยกเลิกได้ทุกเมื่อจนกว่าจะทำถ่ายทำ หมายความว่าเกิดกรณีที่นักแสดงตัดสินใจไม่แสดงแล้ว ไม่ว่าเหตุผลการเปลี่ยนใจ หรือปัญหาสุขภาพ การถ่ายทำเรื่องนั้นจะไม่สามารถถ่ายทำได้ทันที เพราะทุกอย่างถูกกำหนดไว้ในสัญญาเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว หนังจำพวกซีรีส์ตู้กระจก หรือที่ใช้นักแสดงพาร์ทไทม์ หรือนักแสดงฉุกเฉินกรณีนักแสดงที่กำหนดไว้แสดงไมได้นั้น ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป
2. ทำให้นักแสดง รวมถึงทีมงาน ตากล้อง ช่างแต่งหน้า เป็นต้น ที่มีคิวถ่ายทำในเดือนกรกฎาคมนี้ ถูกแคนเซิลทั้งหมด เพื่อทำตามกฎหมายใหม่นี้ ซึ่งกฎหมายนี้ เป็นเคสที่หาได้ยาก เพราะใช้เวลาในการผ่านกฎหมายไม่กี่เดือน และมีผลทันที
3. กฎหมายที่ออกมาเพื่อปกป้องนักแสดง กลับทำให้นักแสดงมีอุปสรรคในการประกอบอาชีพ จึงทำให้มีการรณรงค์ดังกล่าวครับ
ที่จริงผมว่าในฐานะผู้ดู ก็ควรจะสนใจในกฎหมายนี้ด้วยนะครับ เพราะหนังใหม่ที่ควรถูกถ่ายทำในเดือนนี้ จะไม่มีเลยนะ การทำสัญญาใหม่ก็ต้องใช้เวลา 1 เดือน บวก 4 เดือน เพื่อรอการจัดจำหน่าย
หมายความว่า หนังใหม่จะถูกถ่ายทำในเดือนสิงหาคม และกว่าจะได้ดู (ถ้าไม่มีการยกเลิกสัญญา) ก็ประมาณเดือนธันวาคม ครับ
ปล. ไหนจะมีการลดรูปแบบการแสดงลง การแสดงแบบดูเหมือนบังคับจะถูกห้ามด้วยครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
กระจ่างเกี่ยวกับกฏหมายใหม่เลยครับ
ได้ข่าวแบบผิวเผินหรือข้อมูลไม่ตรงมาระยะนึง
เช่น จะไม่มีการทำหนังหลักแล้ว จะเป็นสมัครเล่นเท่านั้น, กฏหมายยังไม่ผ่าน และไม่น่าผ่าน
ถ้าข้อมูลตามนี้ผมว่าก็ยังโอเคในระดับนึงคือ JAV ถูกจำกัดลงบ้าง
- เรื่องสัญญาจะทำให้ระยะเวลาหนังออกจะยืดในช่วงแรกนี้ไปออกเดือน ธ.ค. เลย แต่หลังจากนั้นก็จะต่อเนื่องตามปกติ ถ้าไม่สะดุดอะไรก็ไปต่อได้สบาย
- เรื่องสัญญานี้ไม่แน่ใจว่าจะกระทบต่อการตัดสินใจเล่นหนัง หรือผลิตหนัง ต่อขนาดไหน
ถ้ามีแค่เรื่องให้โอกาสนักแสดงยกเลิกได้เมื่อคิดว่าถูกเอาเปรียบ มองว่าเป็นอำนาจต่อรองของดาราที่เพิ่มขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับศิลปะในการดีลของทั้ง 2 ฝ่าย
- ถ้าไม่ให้ถ่ายทำหนังแนวบังคับ ก็กระทบด้านแนวหนังที่จะมีน้อยลง แต่ยัง gangbang ได้ ถ้าเป็นแนวเต็มใจใช่ไหมครับ, แนวผู้หญิงรุกถือว่าผู้ชายถูกบังคับไหม, จะทำ body sashimi ออกมาให้เป็นแนวเต็มใจได้ไหม (แต่จริงๆก็เสียดาย เพราะแนวบังคับนี้ก็ให้อารมณ์ที่แตกต่าง ได้จินตนาการดีครับ)
ปล. ขอคำชี้แนะอีกนิด ผมเข้าใจว่า ntr กับแนวบังคับ คือคนละแนวกัน เป็นความเข้าใจที่ถูกหรือผิดครับ
NTR แปลตามความหมายคือ รสนิยมทางเพศที่ชอบให้คนรักหรือภรรยาของตนมีความสัมพันธ์ทางเพศกับชายอื่น
ซึ่ง NTR ไม่ได้มีความหมายในเชิงบังคับก็ได้ เช่น ผู้หญิงอาจไม่ได้ถูกบังคับ ตัวอย่างการหาชายเดี่ยวโดยคู่หญิงชายในกลุ่มสวิงกิ้ง ก็มีให้เห็นครับ
คำว่าห้ามบังคับ ผมกลับมองว่า ถ้ามันเป็นการแสดงที่มีการระบุในสัญญาอย่างชัดเจน ว่าต้องแสดงเป็นการโดนบังคับ ก็อาจจะเซฟ ก็ได้ครับ เพราะตัวกฎหมายไม่ได้ห้าม แค่บอกว่า ห้ามบังคับนักแสดง แต่การระบุว่าจะมีการแสดงที่ทำเป็นการบังคับ โดยนักแสดงตกลง ผมก็ว่าน่าจะได้แหล่ะครับ
แต่แน่นอนว่า แบบมัดมือชกคงหมดไป เพราะผู้แสดงที่เซ็นสัญญายาวๆ และต้องแสดงทุกบท อาจจะไม่มีอีกแล้ว
ขอบคุณที่อธิบาย ntr ครับ
และผมคงเข้าใจผิดว่ากฏหมายห้ามแสดงแบบบทหรือเนื้อหาที่ถูกบังคับขมขืน แต่จริงๆแล้ว หมายถึงห้ามบังคับดาราแสดง จะบทอะไรก็ช่าง บทผู้หญิงรุก ถ้าไม่อยากแสดงก็ห้ามบังคับดารา
อ้างถึงเฉพาะข้อความนี้ "แบบมัดมือชกคงหมดไป เพราะผู้แสดงที่เซ็นสัญญายาวๆ และต้องแสดงทุกบท อาจจะไม่มีอีกแล้ว"
ผมมี 2 ความรู้สึก
1. ดีใจที่ดาราจะได้สัญญาที่เป็นธรรม ไม่ใช่สัญญาทาสกดขี่แล้ว
2. จะมีดาราใจถึงแสดงบทหนักๆ ให้ได้ดูกันอีกไหม (อาจจะมีเป็นครั้งคราว ถ้าเงินถึง 555)
ปล. พูดถึงเรื่องเงิน ผมเคยสงสัยว่าที่ดาราสมัยนึงตัดสินใจเล่น uncen เพราะได้เงินเยอะกว่า cen ไหมครับ
หรือแค่ใกล้จะรีไทร์เป็นขาลงแล้วถึงเปลี่ยนมาเล่น uncen เช่น Maria Ozawa, Kotone Amamiya, Miku Ohashi

