พฤษภาคม 09, 2025, 09:05:48 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: AVC เปิดเฟสและโซเชี่ยลใหม่ เพื่อนๆช่วยกดไลค์ติดตามด้วย
เวบเข้าสู่ปีที่ 16 แล้ว ท่านสามารถช่วยเหลือเวบได้โดยสมัคร VIP (ตลอดชีพ) อ่านคอมเมนท์จากผู้ใช้งานจริง ที่นี่
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเสียว] ราคะซ่อนเร้นของผมกับเมีย ตอนที่ 3  (อ่าน 150 ครั้ง)
airflyline
เหลือบไร
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2025, 06:02:31 AM »

ชีวิตแต่งงานปีแรกของผมกับมุกราบรื่นดี มุกเฉลยให้ผมฟังภายหลังว่าตอนทำงานเป็นพริตตี้ ประสบการณ์สอนให้เธอรู้จักการเอาตัวรอดจากบรรดาผู้ชายขาหื่นจนมีลูกล่อลูกชนและความเชี่ยวชาญในการรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง มีผู้ชายหลายคนพยายามเคลมเธอแต่ก็ไม่สำเร็จ ผมฟังแล้วก็ได้แต่อมยิ้มเหมือนเป็นผู้ชนะสิบทิศยังไงยังงั้น

เมื่อผมเป็นคนแรกและคนเดียวของเธอ ผมก็รู้สึกดุจดังพระผู้เป็นเจ้าเลยทีเดียว เพราะได้มีโอกาสสอนลีลาการร่วมรักให้มุกอย่างเต็มที่ซึ่งเธอตามใจผมทุกอย่าง จนเวลาผ่านไปไม่ถึงปี ลีลารักของเธอก็เร้าใจขึ้นเรื่อย ๆ จนบางครั้งทำเอาผมเกือบหัวใจวายตายได้เหมือนกัน

ชีวิตคู่ของเราดำเนินไปอย่างราบรื่น เราร่วมรักกันบ่อยครั้งในช่วงแรกซึ่งก็คงเหมือนคู่แต่งงานอื่น ๆ ที่อยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน ผมยอมรับว่ายิ่งได้นอนกับเธอก็ยิ่งประทับใจ เรียกว่ายิ่งกินก็ยิ่งหิวเลยก็ว่าได้ ทำยังไงก็ไม่อิ่มกับเรือนร่างอันสุดเพอร์เฟคของเธอสักที

แต่พอเข้าปีที่สองหลังจากการแต่งงาน เงินทองเริ่มไม่คล่องมือ บริษัทที่ผมทำงานอยู่ประสบภาวะขาดทุน ทำให้มีการปรับลดเงินเดือนพนักงาน ผมคิดในแง่ดีว่าก็ยังดีกว่าถูกเลย์ออฟล่ะวะ แต่การผ่อนคอนโดกับผ่อนรถก็ทำให้เกิดความเครียดสะสมขึ้นมาทีละน้อย สวนทางกับเงินเก็บที่ถูกนำมาใช้บ้างจนร่อยหรอลงไปทุกขณะ

ความเครียดไม่เพียงทำให้สุขภาพกายย่ำแย่ แต่ยังส่งผลไปถึงสุขภาพจิตและเรื่องบนเตียงด้วย เสน่ห์ดึงดูดทางเพศของมุกยังคงล้นเหลือเช่นเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไปเพราะเธอมีความช่ำชองมากขึ้น ผมเองก็มีอารมณ์ แต่นกเขากลับไม่ขันคุกคูอย่างที่เคยเป็น

เมื่อเงินขาดมือ ทำให้ผมต้องหารายได้เพิ่มเติม แต่ผมก็เหมือนกับคนที่เป็นพนักงานประจำมานานหลายปีที่มักจะอับจนหนทางในการหารายได้ทางอื่น ครั้นจะให้ไปลงทุนต่าง ๆ ผมก็ไม่มีทุนมากพอและกลัวจะหมดตัว

กระทั่งวันหนึ่ง มุกบอกว่าเธอจะกลับไปหางานพริตตี้ทำ

“ดีมั้ย...มุกจะได้ช่วยหาเงินเข้าบ้านเพิ่ม” มุกเปรย “มุกมีเพื่อนสมัยมหาลัย ตอนนี้ยังทำอยู่เหมือนกันนะ น่าจะติดต่อได้ไม่ยาก”

“มุกไหวเหรอ งานประจำก็ต้องทำนะ” ผมพูด

มุกมีงานประจำทำอยู่แล้ว แต่เธอเพิ่งเรียนจบจึงเป็นแค่พนักงานระดับจูเนียร์ เงินเดือนไม่สูงมากนัก และด้วยความที่ผมถูกลดเงินเดือน ทำให้รายได้รวมของเราสองคนแต่ละเดือนก็เหลือไม่เท่าไหร่ เมื่อหักภาระแล้วก็เรียกว่าชักหน้าไม่ถึงหลัง

แต่เมื่อมุกยืนยันว่าไหวอยู่ สามารถทำงานพริตตี้ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมก็ไม่สามารถห้ามอะไรได้ เมียคนสวยของผมบอกว่ายุคสมัยนี้เราเท่าเทียมกันแล้ว เธออยากช่วยหาเงินเข้าบ้านเพิ่มเติมด้วยเหมือนกัน

ไม่กี่วันหลังจากนั้น มุกก็มาบอกผมว่าจะต้องไปแคสติ้งเพื่อทำงานพริตตี้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ผมตกใจเล็กน้อยที่เธอดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเหลือเกิน บ่งบอกถึงความตั้งใจ ผมจึงเต็มใจขับรถไปส่งเธอเข้าแคสงานที่บริษัทเอเจนซี่ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งที่ดูแลด้านสื่อสารการตลาดให้แก่บริษัทรถยนต์

ผมไม่แปลกใจเลย หลังจากแคสติ้งไม่กี่วันก็มีการประกาศว่ามุกได้งานพริตตี้ทำเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอเรียนจบและแต่งงานกับผม แต่ทีมงานมาร์เกตติ้งให้เธอทดลองทำในบูธเล็ก ๆ ตามห้างสรรพสินค้าก่อน หากสอบผ่านก็จะได้ยืนในงานแสดงรถยนต์ประจำปีที่มีรายได้ดีกว่ามาก แต่นั่นหมายถึงเธอต้องลางานหลายวัน...เอาเป็นว่าถ้าได้ทำก่อนค่อยว่ากันอีกที

ทีมงานให้ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับรถยนต์มาให้เธอท่องจำสำหรับการนำเสนอ แต่ที่ผมสนใจมากกว่าก็คือชุดพริตตี้ซึ่งเป็นชุดเดรสแขนกุดทำจากหนังสีดำ เปิดช่วงอกให้เห็นร่องอกวับ ๆ แวม ๆ ส่วนชายกระโปรงก็ค่อนข้างสั้น แถมยังรัดรูปอีกต่างหาก สีชุดกับสีผิวของเธอตัดคอนแทรสต์กันจนผมนั่งเหม่อเลยทีเดียว

“สวยมั้ยอะ คับไปมั้ย” มุกถามเมื่อเธอสวมชุดพริตตี้ที่ทีมงานให้เธอกลับมาลองใส่ที่บ้าน

“อืม...กำลังดีเลย...สวย” ผมตอบแล้วกวาดตามองเธอทั้งตัว

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” มุกถามแล้วอมยิ้มแบบรู้ทัน

“พี่ชักไม่อยากให้ไปทำพริตตี้แล้ว คนมองกันเต็มแน่เลย โดยเฉพาะพวกผู้ชายหื่นน่ะ” ผมพูด

“หื่นแบบพี่เอกใช่มั้ยล่ะ”

มุกพูดแล้วหัวเราะคิกคักแล้วหมุนตัวอยู่หน้ากระจก เห็นสะโพกอิ่มหนั่นแน่นของเธอใต้ชุดหนังแล้วทำเอาผมอยากจะปล้ำเมียคนสวยซะเดี๋ยวนั้นเลยแต่ก็กลัวชุดพริตตี้ของเขาจะพังเสียหายไปก่อน เอาไว้หลังจบงานที่ต้องทำช่วงสุดสัปดาห์นี้ให้ผ่านไปก่อนเถอะ ผมจัดหนักแน่นอน

เมื่อถึงวันงาน ผมขับรถไปส่งเธอที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ มุกได้ยืนบูธพริตตี้คู่กับสาวผิวสีแทนอีกคนหนึ่งซึ่งทีมงานน่าจะเลือกมาให้เข้าคู่กับเธอ หน้าสวยและโดดเด่นไปคนละแบบเมื่อเทียบกับมุก

“พี่เอกกลับไปรอที่ห้องก่อนก็ได้นะ กว่าจะเสร็จก็เย็นเลย” มุกบอก

“พี่ก็เดินเล่นแถวนี้ไปเรื่อยแหละ เอาไว้ตอนพักจะมาหา” ผมพูด

ทีมงานมาส่งสัญญาณให้มุกเตรียมพร้อมประจำที่ เมื่อถึงเวลา มุกก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม เธอพูดถึงผลิตภัณฑ์อย่างไม่ติดขัด บ่งบอกว่ามีประสบการณ์มาบ้างแล้ว น้ำเสียงของเธอน่าฟังและรื่นหู

ผมถอยออกมายืนมองห่าง ๆ มุกกับเพื่อนพริตตี้ผลัดกันรับส่งข้อมูล พร้อมกับปล่อยมุขตลกเป็นระยะเพื่อเรียกให้คนมาดูอีกด้วย ซึ่งก็ได้ผล แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่ต้องการสัมผัสตัวรถและยังลอบมองพริตตี้เป็นระยะอีกด้วย

มุกกับเพื่อนพริตตี้อีกคนทำงานเสร็จช่วงแรกหลังเที่ยงวันเล็กน้อย มีเวลาพัก ผมก็เลยพาเธอไปนั่งกินข้าวในห้าง มุกสวมเสื้อคลุมโดยไม่ได้เปลี่ยนชุด แต่งหน้าเข้มกว่าปกติ เมื่อมาเดินในห้างทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนมองตามเธอเป็นตาเดียว

หากเป็นแต่ก่อน ผมคงรู้สึกรำคาญสายตาชาวบ้าน แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ผมถึงเกิดความภูมิใจที่มีเมียสวย มองได้มองไปเลย เพราะทำอะไรไม่ได้ มีแต่ผมคนเดียวเท่านั้นที่ได้ครอบครองเธอ เรากินกันเสร็จ เธอก็ไปสแตนด์บาย พร้อมทำงานช่วงบ่ายต่อ

วันแรกของการทำพริตตี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มุกดูจะเหนื่อยพอสมควรผมก็เลยไม่รบกวนเธอ ปล่อยให้พักผ่อน เตรียมพร้อมสำหรับการทำงานวันสุดท้ายพรุ่งนี้

รุ่งขึ้น ผมไปส่งมุกที่ห้างแต่เช้าเหมือนเดิม เมื่อเธอต้องสแตนด์บาย ผมก็ปลีกตัวไปเดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งเริ่มเมื่อย ผมก็กลับมาที่บูธรถยนต์ คนมุงกันอยู่เยอะพอสมควร บางส่วนยืนดูรถ อีกหลายคนยืนฟังพริตตี้พูด ผมไปยืนแฝงตัวอยู่ด้วย

ขณะกำลังฟังมุกพรีเซนท์โปรดักต์เพลิน ๆ ก็ได้ยินเสียงพูดดังขึ้นจากด้านหลัง

“น้องตัวขาว ๆ นั่นสวยเอ็กซ์ดีว่ะ” เสียงผู้ชายคนแรกพูด ผมไม่กล้าหันไป

“เออ นมโคตรใหญ่ ทำมาเปล่าวะ” อีกคนสำทับ

ผมยืนฟังนิ่งเฉย แต่หัวใจเต้นแรงขึ้นชอบกลเมื่อได้ยินเสียงวิจารณ์รูปร่างมุกแบบซึ่งหน้า อยากจะหันไปบอกว่าของแท้ครับ ไม่ได้ผ่านมีดหมอ แต่คิดว่าควรนิ่งเฉยไว้ดีกว่า ตอนแรกนึกว่าทั้งคู่จะเดินไปแล้ว แต่ผมก็ได้ยินอีก

“มึงว่าพริตตี้แบบนี้รับงานมั้ยวะ...น้องผิวแทนนั่นด้วย” คนแรกเปรยถามเพื่อน

“รับอยู่แล้ว พวกพริตตี้ส่วนใหญ่รับไซด์ไลน์ทั้งนั้นแหละ ทำงานพริตตี้อย่างเดียวพอกินที่ไหนล่ะ” อีกคนพูดอวดรู้ พร้อมกับสาธยายถึงพริตตี้ที่เขาเคยขยี้มาแล้วหลายคน

คราวนี้ผมอยากจะหันไปมองหน้าจริง ๆ แต่น่าแปลก แทนที่ผมจะโกรธ แต่กลับยังอยากยืนฟังเสียงวิจารณ์ แม้มันจะเพิ่งกล่าวหาว่าเมียผมเป็นเด็กไซด์ไลน์ พูดง่าย ๆ ก็โสเภณีหรือกระหรี่นั่นเอง

“น้องผิวแทนนั่นน่าจะสัก 5 พัน แต่น้องตัวขาวนี่ทีเด็ดเลย น่าจะเป็นหมื่นล่ะมั้ง” ไอ้ผู้ชายคนแรกฟันธงราคาค่าตัวมุกเสร็จสรรพ

ผมกลืนน้ำลายเอื้อก รู้สึกคำพูดของไอ้สองคนนี้มันแทงฉึกเข้าไปในหัวอกอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นกระหน่ำ หน้าชาเหมือนถูกตบหน้าด้วยถ้อยคำของไอ้คนพูด ผมมองมุก เธอโปรยยิ้มหวานจ๋อยให้คนมาเยี่ยมชมบูธ อืม เมียผมก็สวยจริง ๆ นั่นแหละ แถมหุ่นยังเด็ดขาดจริง ๆ ผมเห็นสายตาผู้ชายบางคนจ้องมองหน้าอกเธอเขม็งเลย

แล้วจู่ ๆ ท่อนเนื้อใต้กางเกงของผมก็เหมือนทำท่าจะตื่นขึ้นมา ผมรู้สึกคอแห้ง หันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งยกมือถือขึ้นถ่าย เขาซูมไปที่ตัวมุก บันทึกภาพร่องอกและขาขาวนวลเนียนกลมกลึงของเธอหลายช็อต ผมหายใจแรง ไฟราคะลุกโชนขึ้นโดยไม่รู้ตัว

........................................

ใครชอบแนว NTR ไม่ควรพลาด ติดตามอ่านเรื่องเต็มได้ที่นี่นะค้า ขอบคุณมากนะคะ

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6ODoiMTA0MDgzNjQiO3M6NzoiYm9va19pZCI7czo2OiIzMDIxMDAiO30

https://pintobook.com/ebooks/66596639b3313af998ca07bf

https://www.tunwalai.com/ebook/58568/info

หรืออ่านเป็นตอน ๆ ได้ที่

https://www.tunwalai.com/story/789347

https://fictionlog.co/b/663b5a52bf41d2001caf8824

https://www.readawrite.com/a/7da316c72b8ad420af236450d5f79f6e

พูดคุยกันทาง X ได้นะค้าา @AirWriterReader

หรือ facebook.com/airflyline

ขอบพระคุณค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  














AV Community Since 2009 : AVCollectors.com - Advertising please contact [email protected]