หน่วยแรกที่รู้จักกันดีว่าเป็นสุดยอดของรบพิเศษเนื่องจากมีหลักสูตรที่โหดที่สุด จนเป็นต้นแบบของหน่วยรบพิเศษของประเทศอื่นๆในค่ายเสรีนิยมนั้น ก็ต้องยกให้ US Navy SEALs ของกองทัพเรือสหรัฐฯครับ โดยชื่อของหน่วยนั้นย่อมาจาก Sea, Air, and Land หรือ น้ำ, ฟ้า, ฝั่ง ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงขอบเขตการปฏิบัติภาระกิจการรบของหน่วยว่าจะต้องทำงานได้ไม่ว่าจะเป็นใต้น้ำ, บนบก หรือการส่งกำลังทางอากาศ เมื่อรวมกันเป็นคำว่า SEALs แล้วก็จะไปพ้องกับคำว่าแมวน้ำในภาษาอังกฤษพอดี จะเห็นได้ว่าในอาร์มของซีลบางหน่วยนั้นจะมีรูปแมวน้ำอยู่เป็นสัญลักษณ์ด้วย โดยภาระกิจของหน่วยซีลสหรัฐฯนั้นครอบคลุมงานตั้งแต่ การสอดแนม, การรบนอกแบบ, ต่อต้านการก่อการร้าย ไปจนถึงภาระกิจลับเพื่อความมั่นคงของสหรัฐฯทั่วโลก

หน่วย SEALs ของสหรัฐฯนั้นเป็นหน่วยที่พัฒนาต่อยอดมาจากหน่วย UDT หรือ Underwater Demolition Teams (UDT) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อไทยว่านักทำลายใต้น้ำจู่โจมของสหรัฐฯ ที่สร้างชื่ออย่างมากในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นหน่วยนักดำน้ำที่ขึ้นไปสอดแนม ทำลายสิ่งกีดขวาง ทุ่นระเบิดใต้น้ำ และเคลียร์หัวหาดอำนวยความสะดวกให้เรือยกพลขึ้นบกสามารถเคลื่อนที่ได้สะดวกก่อนที่ ทหารหน่วยหลักของสหรัฐฯจะบุกยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดีในวัน d-day ที่เป็นการยกพลขึ้นบกครั้งใหญ่ขึ้นฝั่งยุโรปของกองทัพสหรัฐฯ จนมีผลให้ฝ่ายอักษะแพ้สงครามไปในที่สุด รวมถึงเป็นหน่วยแรกๆที่เข้าไปสอดแนมตามเกาะต่างๆในแปซิฟิกที่กองทัพญี่ปุ่นยึดครองอยู่ โดยมีเพียงหน้ากากดำน้ำ และมีดดำน้ำติดตัวไปเพื่อที่จะนำรายละเอียด กลับมาใช้ในการวางแผนรบ ซึ่ง UDT ก็ปฏิบัติการต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพมาจนถึงช่วงสงครามเกาหลี
จนมาในยุคที่สหรัฐฯก้าวเข้าสู่สงครามเวียดนามอย่างเต็มตัว John F. Kennedy หรือ JFK ประธานาธิบดีของสหรัฐฯในยุคนั้น ได้เห็นว่าการรบในเวียดนามนั้นแตกต่างจากการรบในสงครามที่สหรัฐฯเคยเข้าร่วมก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง โดยการรบแบบนอกแบบ หรือสงครามแบบกองโจร จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะตัดสินผลการรบในเวียดนาม ต่างจากในสงครามโลกครั้งที่ 2ที่จะเน้นใช้กองทัพหลักประจันหน้ากัน และตัดสินการรบด้วยแสงยานุภาพจากกองเรือรบ และฝูงบิน แต่การรบในเวียดนามนั้นจะเป็นการรบในป่าลึก และสู้กันแบบกองโจรกันเป็นหลัก จึงได้ให้เหล่าทัพต่างๆไปตั้งหน่วยรบประสิทธิภาพสูงทำงานเป็นทีมขนาดเล็ก ที่สามารถทำงานได้แม้อยู่หลังแนวข้าศึก ซึ่งขณะที่กองทัพบกสหรัฐฯมีหน่วย Special Force หรือ Green Beret ที่เป็นลูกรักของ JFK อยู่แล้ว กองทัพเรือสหรัฐฯจึงได้มีมติให้ก่อตั้งหน่วยรบพิเศษที่สามารถทำการรบนอกแบบ รบแบบสงครามกองโจรกับเวียดกงได้ แบบเกลือจิ้มเกลือ โดยมีความสามารถในการเข้าทำการรบทั้งจากใต้น้ำ, บนฟ้า และฝั่ง จึงเป็นที่มาของ SEALs ซึ่งในช่วงแรกนั้นก็มีการนำทหารประจำการจาก UDT ที่เป็นหน่วยที่มีประสิทธิภาพสูงของกองทัพเรือ มาเรียนรู้ยุทธวิธีการรบในป่า และส่งกำลังทางอากาศ เพื่อเพิ่มความสามารถ จนในที่สุดเมือ SEALs เข้าร่วมสงครามเวียดนามก็สร้างผลงานไว้มาก รวมถึงเป็นหน่วยที่มีการสูญเสียกำลังพลน้อยมาก เมื่อเทียบกับหน่วยอื่นๆ ในยุคนั้นนอกจากการปฏิบัติการทั่วไปแล้ว SEALs บางส่วนยังถูก CIA ยืมตัวออกไปปฏิบัติการลับทั้งในเวียดนาม ลาว และกัมพูชา โดยหลังจากสงครามเวียดนามแล้ว SEALs ก็ยังถูกใช้งานมาตลอดในทุกสมรภูมิที่สหรัฐฯเข้าร่วมทั่วโลกรวมถึงทั้งในอีรัก และอัฟกานิสถาน
การฝึกของหน่วย SEALs นั้นผู้ที่เข้าคัดเลือกจากกองทัพเรือจะต้องผ่านหลักเกณฑ์อย่างน้อย
ว่ายน้ำ 500เมตร ภายใน 12.30นาที
วิดพื้น 42ครั้งภายใน 2นาที
ซิทอัพ 50ครั้งใน 2นาที
ดึงข้อ 6 ครั้ง ขึ้นสุดลงสุดไม่จำกัดเวลาBasic Underwater Demolition/SEAL (BUD/S)
วิ่ง 1.5 ไมล์ภายใน 11.30นาที
จากนั้นก็เข้าสู่การฝึกที่จะเริ่มจาก Pre-BUD/s ที่จะเป็นการปรับสภาพร่างกายให้แข็งแกร่งก่อนที่จะเข้าฝึกในขั้น BUD/s(Basic Underwater Demolition/SEAL) ที่ตลอดการฝึกจะเน้นไปที่การทดสอบจิตใจ และร่างกายให้ใช้จนถึงขีดสูงสุดที่มากกว่ามนุษย์ทั่วไปจะทำได้ จึงทำให้มีผู้ผ่านการฝึกน้อยมากในแต่ละรุ่น อาจจะมีเพียง 20เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ผ่านการฝึกได้ รวมถึงช่วงการฝึกสัปดาห์นรก ที่เป็นเอกลักษณ์ของการฝึกของหน่วยที่ผู้เข้าฝึกแทบจะไม่ได้นอน และได้รับน้ำอาหารน้อยมากตลอดระยะเวลา 1สัปดาห์ ถือเป็นด่านหินที่สุดในการฝึก ในช่วงนี้จะมีผู้เข้าฝึกลาออกจากการฝึกมากที่สุด และผู้ที่ผ่านสัปดาห์นรกไปแล้วมีจำนวนน้อยมากที่จะลาออกจากการฝึกหลังจากนั้น ในช่วงสงครามเวียดนาม SEALs ต้องการบุคคลากรจำนวนมาก จึงมีการตัดช่วงสัปดาห์นรกออกไปจากการฝึก ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเป็นผลลบกับหน่วยมากกว่า ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นการฝึกหลักสูตรการรบต่างๆตามทีมที่จะต้องเข้าไปประจำการ โดยศูนย์ฝึกของ SEALs ในฝั่งตะวันตกจะอยู่ที่ หาดโคโรนาโด้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วน ฝั่งตะวันออกจะอยู่ที่เวอร์จิเนียบีช รัฐเวอร์จิเนีย


SEALs จะแบ่งเป็นทีมต่างๆคือ ทีม 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, และ 10 โดยทีม 1,3,5,7 จะประจำการที่โคโรนาโด้บีช รับผิดชอบงานฝั่งแปซิฟิก ส่วน 2,4,8,10 จะประจำที่เวอร์จิเนียบีช รับผิดชอบงานฝั่งแอตแลนติค ส่วนทีม 6 นั้นเป็นทีมที่มีภาระกิจต่อต้านก่อการร้าย แต่ในช่วงหลังใช้ชื่อว่า DEVGRU หรือ United States Naval Special Warfare Development Group หลังจากที่มีข้อมูลหลุดออกมาทางสื่อมวลชน รวมถึงการเปิดเผยจากอดีตหัวหน้าหน่วยที่ออกมาเขียนหนังสือขายเกี่ยวกับ Red Cell การปฏิบัติการทดสอบการรักษาความปลอดภัยของฐานทัพต่างๆโดยการใช้ SEALs ทีม 6 ที่มีความเชี่ยวชาญในการต่อต้านการก่อการร้ายมากที่สุด ทำตัวเป็นผู้ก่อการร้ายหาช่องโหว่เพื่อบุกเข้ายึดโจมตีฐานทัพต่างๆของสหรัฐฯเอง เพื่อที่จะนำผลไปปรับปรุงระบบการรักษาความปลอดภัย