พฤษภาคม 15, 2025, 11:02:30 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: AVC เปิดเฟสและโซเชี่ยลใหม่ เพื่อนๆช่วยกดไลค์ติดตามด้วย
เวบเข้าสู่ปีที่ 16 แล้ว ท่านสามารถช่วยเหลือเวบได้โดยสมัคร VIP (ตลอดชีพ) อ่านคอมเมนท์จากผู้ใช้งานจริง ที่นี่
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: งานวิจัยลงในมติชน เบื้องหลังโลกมืด Fusoku เห็นสนใจกันมาก ตามไปอ่านเลยครับ  (อ่าน 5718 ครั้ง)
sompoat
AV Professor
ผู้บัญชาการเอวีสูงสุด
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1473



« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 09:20:41 AM »



เป็นงานวิจัยของคุณอุกฤษณ์ ปัทมานันท์ ที่ได้ทุนจาก The Nippon Foundation Asian Public Intellectual 2008-2009 โดยลงมือดำเนินการในปี 2009-2010

ข้อมูลสดและใหม่มาก มีอีกหลายมุมมองที่ตอบคำถามที่พวกเราชอบถามกันในนี้ ไม่ว่าเรื่องธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับวงการน้ำกาม อิทธิพลมืด โดยเน้นผ่านทางโสเภณีไทยและเทศที่ไปขายบริการในญี่ปุ่นตามเมืองต่างๆ

เริ่มลงในมติชนสุดสัปดาห์เล่มที่แล้ว (แต่ยังไม่มีอะไรมาก เป็นการอารัมภบทมากกว่า โดยจะบอกแนวทางในการทำงานวิจัย รวทมทั้งที่มาที่ไป) ฉบับนี้เริ่มลงรายละเอียดลึกขึ้น



ว่างๆ ก็ผ่านไปอ่านคอลัมน์ของคุณแขก คำผกา (นักเขียนที่นมสวยมากคนนึง) แรงดี แต่ผมเฉยๆ นะ นอกนั้นก็ฟังหูไว้หูครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย

(อ่านหนังสือแนวนี้ ผมหมดไปเดือนนึงเป้นพันเลยนะนั่น แต่ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนโง่ลงทุกวันๆ สิน่า)

บันทึกการเข้า

sexpistols
คณะปฏิสนธิแห่งชาติ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 940


สวัสดีครับ ผมมาใหม่แนะนำด้วยนะครับ


« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 11:45:42 AM »

ขอ ss นมนักเขียนครับ
บันทึกการเข้า
sompoat
AV Professor
ผู้บัญชาการเอวีสูงสุด
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1473



« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 12:18:04 PM »




บันทึกการเข้า

boyII
AV Dedicator (VIP)
ผู้บัญชาการเอวีสูงสุด
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1103


« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 12:17:09 PM »

รวบกวนขอเนื้อหาที่ลงในมติชนฉบับเต็มได้ไหมครับ อยากอ่านบ้างเหมือนกันครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
บันทึกการเข้า
astrife
AV Dedicator (VIP)
ผู้บัญชาการเอวีสูงสุด
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2352



« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2010, 02:03:00 AM »

น่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะ เจ้าของคอลัมภ์
บันทึกการเข้า
lazarus
AV Dedicator (VIP)
คณะปฏิสนธิแห่งชาติ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 531


« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2010, 10:15:41 PM »

มีให้อ่านไหมครับ
บันทึกการเข้า

What's done is done
effect
ปลิงควาย
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 24



« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2010, 10:29:04 PM »

ผมหาบทความมาให้ครับ

โลกทรรศน์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

เปิดโลกมืดญี่ปุ่น (1)

เมื่อข้าพเจ้าเปิดโลกมืด


งานวิจัยนี้เป็นการผจญภัยทางปัญญามากที่สุดนับตั้งแต่ทำงานวิจัยมากว่า 2 ทศวรรษ ใน 2 ด้านด้วยกันคือ

ด้านที่ 1 เป็นด้านการทำวิจัยข้ามวัฒนธรรม (cross cultural research) ในประเทศที่ผู้วิจัยไม่เคยทำมาก่อนคือ ญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นมีความแตกต่างจากประเทศไทยทั้งทางด้านวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา ประวัติศาสตร์ โครงสร้างสังคมและเศรษฐกิจ นอกจากความแตกต่างดังกล่าวที่เป็นอุปสรรคต่อความเข้าใจและการศึกษาแล้ว ผู้เขียนใช้ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลย ต้องอาศัยล่ามทั้งในการสัมภาษณ์และแปลเอกสารซึ่งทำให้ผู้เขียนเข้าใจสังคม นี้ได้ระดับหนึ่ง

ด้านที่ 2 ผู้เขียนเป็นนักรัฐศาสตร์ดั้งเดิม (Conventional Political Scientist) ซึ่งมีประสบการณ์ในการวิจัยแต่เฉพาะชนชั้นนำทางการเมือง การรัฐประหารและกระบวนการเป็นประชาธิปไตย (Democratization) ในประเทศไทย แต่งานวิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ ความมั่นคงใหม่ (Nontraditional Security-NTS) โดยก้าวเข้าไปยังอีกโลกหนึ่งซึ่งผู้เขียนหรือคนจำนวนมากไม่รู้จักมาก่อน เป็นโลกของอุตสาหกรรมบริการทางเพศ (sex industry) ในญี่ปุ่น เพื่อศึกษาเน้นไปที่ความไม่มั่นคงมนุษย์ (human insecurity) ของคนชั้นล่างสุดของสังคมญี่ปุ่นคือ ผู้หญิงไทยที่ค้าบริการทางเพศ (Thai sex worker) ในญี่ปุ่น

ก่อนที่จะทำเรื่องนี้ ผู้เขียนต้องการทำวิจัยเรื่อง แรงงานไทยย้ายถิ่น (Thai migrant worker) ในญี่ปุ่น แต่พบว่าเรื่องนี้กว้างเกินไป อีกทั้งล้าสมัยและมีงานวิจัยที่เสนอแง่มุมซ้ำกันเป็นส่วนใหญ่ ผู้เขียนลองสำรวจเอกสารแล้วและเริ่มต้นสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่อง ผู้หญิงย้ายถิ่นไปบ้าง พบว่ามักจะพูดแต่เรื่องเดิมๆ แต่เมื่อเจาะเรื่องให้แคบลงโดยต้องการศึกษาเรื่องผู้หญิงขายบริการไทยใน ญี่ปุ่น ความท้าทายก็เริ่มขึ้น ผู้เขียนได้ตระเวนพูดคุยกับนักวิชาการหลายคน มีนักวิชาการท่านหนึ่งบอกกับผู้เขียนว่า

"...เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ดีไม่มีคนเที่ยว ร้านพวกนี้ต้องปิดบริการจำนวนมากหรือไม่ก็ถูกตำรวจกวาดจับ ปัจจุบันไม่มีเรื่องผู้หญิงหากินคนไทยในญี่ปุ่นแล้ว เหลือแต่เรื่องคนฟิลิปปินส์ พวกคนแก่ญี่ปุ่นทะลึ่งก็ไม่ไปเที่ยวอย่างว่าแล้ว..."



เมื่อไปสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนทั้งที่โตเกียวและเกียวโต เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนทั้งสองเมืองบอกว่า

"...เกือบสิบปีมาแล้วไม่มีผู้หญิงไทย คนต่างชาติส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงฟิลิปปินส์และมักมีกรณีใช้ความรุนแรงในครอบ ครัว (domestic violence)..."

ผู้เขียนไม่เชื่อว่าเรื่องการค้าบริการทางเพศของผู้หญิงไทยในญี่ปุ่นได้หมด ไปอย่างไม่ทราบสาเหตุได้ ผู้เขียนจึงลองพยายามอีกครั้งจนกระทั่งได้พบและได้รับความช่วยเหลือจาก คุณพร้อมพล ศรีสด กงสุลไทยประจำนครโอซาก้าในขณะนั้น คุณพร้อมพลได้แนะนำให้ผู้เขียนรู้จักเจ้าของร้านอาหารไทยและคนไทยที่อยู่ที่ ญี่ปุ่นมานานหลายคน

ดังนั้น เมื่อผู้เขียนได้พูดคุยกับคนเหล่านี้ผู้เขียนจึงค่อยๆ มองเห็นโลกมืดและค่อยๆ เปิดมันออกมา ได้พบกับชีวิต เรื่องราวการเอาตัวรอดของผู้หญิงไทย



งานวิจัยนี้ใช้เวลาลง ภาคสนามระหว่างเดือน มกราคม-มิถุนายน 2009 ภาคสนามคือโตเกียว คานากาว่า โยโกฮาม่า อิบารากิ ไซตามะ ชิบะ เกียวโต โอซาก้า โกเบ ฟูกูโอกะ และเบบปุ ในระยะแรกการหาข้อมูลเรื่องการค้าบริการทางเพศของผู้หญิงไทยยากกว่าเรื่อง แรงงานย้ายถิ่นเสียอีก มีเอกสารน้อยมาก เดินทางไปหลายเมืองแต่ไม่รู้จะไปพบผู้หญิงไทยที่ขายบริการทางเพศได้ที่ไหน ไม่มีผู้หญิงไทยอาชีพนี้ที่เขาอยากพูดคุยให้ข้อมูลแน่นอน

แต่ผู้เขียนก็สนุกกับการผจญภัยทางปัญญาและความท้าทาย ผู้เขียนทดลองใช้ระเบียบวิธีการวิจัย (research methodology) ใหม่ แทนที่จะเป็นนักวิจัยท้าวแขน (Arm Chair Researcher) ผู้เขียนเปลี่ยนตัวเองเป็นนักมานุษยวิทยาจำแลงออกภาคสนามสัมภาษณ์ พูดคุยและสังเกตการณ์ แต่ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะมันเป็นข้อมูลในโลกมืดที่ต้องนำมาตีแผ่

ที่ยากที่สุดแต่กลับสนุกที่สุดคือ การออกภาคสนามที่ญี่ปุ่นเพราะเรื่องที่อยู่ในโลกมืด (Dark site) เป็นส่วนที่อยู่ใต้ดิน (underground) และเป็นวัฒนธรรมย่อย (subculture) ของสังคมญี่ปุ่น การสัมภาษณ์ผู้หญิงขายบริการในโลกมืดโดยการให้เธอเล่าเรื่องของตัวเอง (narrative interview) จึงไม่ใช่เรื่องง่าย การพูดกับผู้หญิงไทยค้าบริการทางเพศจำนวน 7 คน ต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน เริ่มต้นอย่างยากลำบาก ผจญภัย เสี่ยงภัยแต่ข้อมูลที่ได้ทรงคุณค่ายิ่ง

งานวิจัยนี้ดำเนินไปได้โดยเริ่มต้นจากความหวาดระแวงและไม่ไว้วางใจแล้วค่อยๆ พัฒนาเปลี่ยนเป็นความไว้ใจสู่ความเป็นเพื่อนและมิตรภาพที่ผู้หญิงเหล่านี้มี ให้ผู้เขียน ผู้เขียนสัมภาษณ์เธอทีละคนๆ คนละไม่ต่ำกว่า 6 ครั้งในเวลาและสถานที่ต่างๆ กัน คุยกับพวกเธอที่ถนนที่เธอยืนคอยแขกเพื่อขายบริการทางเพศในโอซาก้าตอนตี 2 ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงที่หนาวที่สุดของญี่ปุ่น

ตอนแรกหลายคนปฏิเสธที่จะคุยด้วยแต่เมื่ออธิบายว่าจะเขียนหนังสือเรื่องราว ของพวกเธอโดยไม่บันทึกเสียง ไม่ถ่ายรูป ไม่ใช้ชื่อจริงและบอกว่าชีวิต ความยากลำบาก การต่อสู้ และความฝันของพวกเธอน่าสนใจกว่าชีวิตนายพลหลายคนที่เมืองไทยที่ผู้เขียน สัมภาษณ์มาก่อน

บางคนก็ปฏิเสธแต่บางคนก็ตกลงคุยด้วยสั้นๆ และมีจำนวนหนึ่งนัดให้มาคุยด้วยก่อนทำงานคือ 3 ทุ่มแล้วนัดใหม่วันหลังอีก โดยผู้เขียนคุยกับเธอทีละคน มีหลายครั้งที่เธอเลื่อนนัดเพราะลูกค้าใหม่นัดเข้ามาแต่บางคืนเธอคุยด้วยไม่ ได้เพราะตำรวจมาดักจับ

มีครั้งหนึ่งผู้เขียนเองต้องวิ่งหนีตำรวจขณะที่คุยกับเธอริมถนนด้วย



เพื่อ ให้เห็นโลกมืดและส่วนที่อยู่ใต้ดินของสังคมญี่ปุ่น ผู้เขียนต้องไปร้านอาหารไทย ไม่ใช่แค่กินข้าวแต่ไปพูดคุยและสนทนากับคนไทยอาชีพอื่นๆ เข้าไปในบาร์ไม่ใช่เพื่อดื่มหรือพักผ่อนแต่คุยกับเด็กเสิร์ฟบาร์ญี่ปุ่นและ แขกที่มาเที่ยวดื่มกิน ผู้เขียนทำทีเป็นลูกค้าเพื่อเข้าไปสังเกตการณ์ในบาร์ เดโตะ (de-to) ร้านสแน็กบาร์หลายครั้งและหลายเมือง ทำความสนิทสนมกับมาม่าซังเพื่อเข้าใจวิธีการเรียกผู้หญิงไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มองโกเลีย เปรู และไทย มาโชว์ตัวให้ลูกค้าดู การต่อรองราคาและนัดกันออกไปข้างนอกอย่างไร

ด้วยความช่วยเหลือของบรรดาผู้หญิงไทย ผู้เขียนมีโอกาสคุยและรู้จักกับสมาชิกแก๊งยากูซ่าจนพวกเขายินดีพาเข้าไป สำรวจซ่องญี่ปุ่น แล้วช่วยให้ผู้เขียนได้คุยกับผู้หญิงค้าบริการญี่ปุ่น เพื่อให้เห็นโลกมืดรอบด้านมากขึ้น ผู้เขียนขอสัมภาษณ์ตำรวจญี่ปุ่นที่สำนักงานใหญ่ตำรวจโตเกียว เกียวโต และโอซาก้า จึงได้รู้ว่าการสัมภาษณ์ตำรวจญี่ปุ่นยากกว่าสัมภาษณ์ผู้หญิงไทยเสียอีก

แน่นอน ว่าตำรวจญี่ปุ่นไม่อยากเล่าเรื่องโลกมืดของญี่ปุ่นให้กับคนต่างชาติอย่างผู้ เขียนฟังหรอก เรื่องเล่าต่างๆ จากปากผู้หญิงไทยจึงเป็นประโยชน์ช่วยให้ผู้เขียนต่อภาพจิ๊กซอว์อุตสาหกรรม บริการทางเพศในญี่ปุ่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เนื่องจากเรากำลังอยู่ในโลกมืด อยู่ในส่วนใต้ดินและเกี่ยวพันกับองค์กรอาชญากรรม การกระทำผิดกฎหมายต่อต้านการค้าประเวณีซึ่งมีโทษสูงติดคุกสถานเดียว จึงไม่มีใครพูดความจริงทั้งหมด ไม่มีใครปรารถนาจะบอกเล่าความผิดพลาดของตัวเอง ไม่มีใครอยากเปิดเผยเรื่องชีวิตส่วนตัว ความล้มเหลวของตัวเอง ชีวิตครอบครัวแตกแยกให้คนอื่นฟัง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องอ่อนไหว

ระหว่างการสัมภาษณ์ผู้เขียนจะจดคำสัมภาษณ์เมื่อเธอเห็นผู้เขียนเริ่มจดอะไร ลงไปในสมุด เธอจะหวาดระแวง ผู้เขียนต้องหยุดจดทันทีจนเมื่อเธอมีท่าทีผ่อนคลายลงเธอก็พูดต่อและผู้เขียน ฟังเธอด้วยความตั้งใจ บางครั้งนานเกือบชั่วโมง ผู้เขียนต้องขอตัวเข้าห้องน้ำเพื่อจดส่วนที่สำคัญที่สุดเอาไว้กันลืม แล้วกลับมาจดบันทึกใหม่อีกครั้งเมื่อเดินทางกลับที่พักหรือที่ทำงาน

ไม่มีใครพูดความจริงทั้งหมด นับจากการพูดคุยด้วยครั้งแรกจนครั้งสุดท้ายผู้หญิงไทยคนหนึ่งหลุดความจริง ออกมาบางส่วน แต่บางส่วนถูกเผยออกมาจากปากเพื่อนของเธออีกคนหนึ่ง เพราะผู้หญิงแต่ละคนชอบพูดถึงเรื่องคนอื่นมากกว่าพูดถึงตัวเอง เรื่องเล่าของกันและกันกลายเป็นสิ่งดีที่ช่วยคลี่ภาพเกี่ยวกับความจริงต่างๆ ให้เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นการตรวจสอบความถูกต้องไปในตัว ผู้เขียนกลายเป็นคนจดบันทึกและรวบรวมเรื่องราวของแต่ละคนเข้าไว้ด้วยกัน

หลังจากนั้น เมื่อคนแปลกหน้าเปลี่ยนเป็นเพื่อน มิตรภาพระหว่างผู้เขียนกับพวกเธองอกงามขึ้น ผู้เขียนนัดคุยต่อที่ร้านกาแฟ ร้านอาหารระหว่างเธอรอลูกค้าและหลังจากเลิกงาน เธอเริ่มไว้ใจและพูดถึงชีวิตส่วนตัว บางคนเอารูปลูกสาวที่เมืองไทยออกมาอวดและขอคำแนะนำว่าจะให้ลูกเธอเรียน ปริญญาตรีสาขาอะไรดี

บางคนปรึกษาเรื่องอาชีพและอนาคตหลังเลิกอาชีพค้าบริการในญี่ปุ่นรวมทั้งเรื่องการกลับเมืองไทย

บางคนแนะนำให้ผู้เขียนไปคุยกับเพื่อนๆ ของเธอที่ร้านนวดแผนไทย ร้านสแน็กหรือถนนสายอื่นที่เพื่อนของเธอเดินจับลูกค้าอยู่ ผู้เขียนให้เธอโทรศัพท์นัดให้ซึ่งทุกคนช่วยนัดหมายและให้ความร่วมมือดี

ในที่สุด ผู้เขียนได้รับความไว้วางใจขนาดได้รับเชิญไปอพาร์ตเมนต์ที่นัดรวมสังสรรค์ ของพวกเธอ บางคนทำอาหาร เช่น ลาบคอหมูย่าง น้ำยาป่ามาแบ่งให้เพื่อนๆ ทาน ผู้เขียนได้พูดคุย รับรู้ความทุกข์ยากขมขื่นของพวกเธอในระหว่างมื้ออาหารนั้นเอง ผู้เขียนทดลองบอกชื่อหัวเรื่องย่อยของพวกเธอบางคน พวกเธอพอใจแล้วได้เล่าเรื่องราวอื่นๆ ให้ผู้เขียนฟังต่อ

ยิ่งไปกว่านั้นในบางคืน มีผู้หญิงบางคนต้องหลบเข้ามาในอพาร์ตเมนต์นี้เพื่อหนีตำรวจและตำรวจตามมา เคาะประตูห้องทีเดียว ผู้เขียนจึงมีโอกาสสังเกตการเอาตัวรอดของพวกเธอจากเงื้อมือตำรวจไปด้วย



กว่า ผู้เขียนจะเปิดโลกมืดใบนี้ออกมาได้ ผู้เขียนต้องสัมภาษณ์คนทั้งหมด 66 คนแยกเป็น หญิงค้าบริการทางเพศชาวไทย (7 คน) ญี่ปุ่น (2 คน) ไต้หวัน (2 คน) มาม่าซังไทย (1 คน) มาม่าซังไต้หวัน (1 คน) เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองโตเกียว โอซาก้า และเกียวโต (8 คน) เจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองโอซาก้า (3 คน) เจ้าหน้าที่สำนักงานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า (4 คน) เจ้าหน้าที่สำนักงานกงสุลอินโดนีเซียประจำโอซาก้า (4 คน)

เจ้าหน้าที่เอ็นจีโอญี่ปุ่น (6 คน) อาสาสมัครไทย (8 คน) อาจารย์มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น (6 คน) ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น (3 คน) เจ้าของร้านอาหารไทย (4 คน) เจ้าของร้านนวดคนไทย (3 คน) ล่ามไทย (2 คน) สมาชิกแก๊งยากูซ่า (1 คน) ผู้จัดการ Love Hotel ชาวญี่ปุ่น (2 คน)

โลกมืดญี่ปุ่นที่ผู้เขียนเปิดออกมานี้กล่าวได้ว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโลก มืดทั้งหมดเท่านั้น ผู้เขียนมิบังอาจบอกว่านี่คือโลกมืดทั้งหมด เพราะทุกอย่างมืดมิด อยู่ใต้ดิน หลบซ่อนแทรกตัวอยู่ในความสว่างที่เราเห็น เป็นวัฒนธรรมย่อยที่ซ่อนและซ้อนกันอยู่กับวัฒนธรรมย่อยอื่นๆ อีกหลายชั้น

ด้วยสายตา สติปัญญา และมือที่จรดเขียนของคนคนเดียวเช่นผู้เขียน คงเปิดบางส่วนของโลกมืดนี้ไม่ได้ หากไม่ได้ คำให้การของผู้หญิงไทย และเรื่องราวต่างๆ ของผู้หญิงไทย 7 คนที่ช่วยต่อภาพจิ๊กซอว์ของโลกมืดใบนี้ คุณพร้อมพล ศรีสด อดีตกงสุลไทย ณ นครโอซาก้าที่ช่วยแนะนำให้ผู้เขียนรู้จักคนไทยที่อยู่ญี่ปุ่นมานานหลายคน ทั้งเจ้าของร้านอาหารไทย พี่แดงที่พาผู้เขียนเดินทางไปที่ต่างๆ ผู้หญิงไทยที่นำข้าพเจ้าให้รู้จักผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถคุ้มกันผู้เขียนให้ เข้าซ่องญี่ปุ่นได้โดยปลอดภัย

คุณ Kimura Yuji รองเลขาธิการ เครือข่ายสิทธิของผู้อพยพในเขตคันไซ (Rights of Immigrants Network in Kansai-RINK) ที่พูดคุยอธิบายพัฒนาการการค้ามนุษย์ในญี่ปุ่นและความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ที่กำลังเกิดขึ้น

คุณ Izumi Okura บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun ประจำเมืองโอซาก้า ที่ช่วยติดต่อตำรวจโตเกียว เกียวโตและโอซาก้าให้ผู้เขียน

ท่านอาจจะไม่เชื่อตำรวจญี่ปุ่นสัมภาษณ์ยากกว่าจากผู้หญิงไทยเสียอีก ถ้าเธอไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun วางก้ามกับบรรดาตำรวจใหญ่เหล่านั้น พวกเขาจึงไม่ยื้อเวลาและยอมให้ผู้เขียนสัมภาษณ์ในที่สุด

รองศาสตราจารย์ Okamoto Massaki แห่ง Center for Southeast Asian Studies, มหาวิทยาลัย Kyoto รับเป็น host ให้ผู้เขียน โทรศัพท์นัดหมายเพื่อนนักหนังสือพิมพ์ ติดต่อนักวิชาการ ช่วยหาล่าม แนะนำหนังสือและเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ให้

อาจารย์นิภาพร รัชตพัฒนกุล แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งกำลังศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเกียวโตช่วยเป็นล่ามและแปลเอกสารบางส่วน

อาจารย์สุภา ปัทมานันท์ ช่วยแปลเอกสาร อ่านตรวจทานต้นฉบับ ขัดเกลาภาษาและแก้ไขคำในภาษาญี่ปุ่นให้

ต้องขอขอบคุณโครงการ Asian Public Intellectual (API) Fellowship ของThe Nippon Foundation ที่ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยครั้งนี้ และมอบทุน Senior API Fellowship ให้ผู้เขียน

ขอขอบคุณ รองศาสตราจารย์สุริชัย หวั่นแก้ว อาจารย์ผู้จุดประเด็นการวิจัยที่หลายหลาย ท้าทายแก่ผู้เขียนมาอย่างต่อเนื่องและผลักดันให้ผู้เขียนเข้าสู่ "ชุมชนปัญญาชนสาธารณะแห่งเอเชีย"

ผู้เขียนขอขอบคุณ รองศาสตราจารย์ ดร.สุเนตร ชุตินทรานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้เขียนและนักวิจัยของสถาบันฯ ทำงานวิจัยอย่างเต็มที่
บันทึกการเข้า
effect
ปลิงควาย
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 24



« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2010, 10:32:02 PM »

ตอนสองครับ

โลกทรรศน์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

เปิดโลกมืดญี่ปุ่น (2)

อุตสาหกรรมค้าบริการทางเพศ (Sex Industry)


ญี่ปุ่น เป็นประเทศใหญ่ที่สุดในโลกของตลาดการค้าบริการทางเพศของผู้หญิงเอเชีย จำนวนผู้ชายญี่ปุ่นที่เดินทางไปเซ็กซ์ทัวร์ในประเทศต่างๆ ในเอเชียมีเป็นจำนวนมาก

กรณีญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจเพราะยังหาคำตอบไม่ได้หลายเรื่อง ไม่เพียงแต่ญี่ปุ่นเข้าร่วมในการต่อต้านการค้าบริการทางเพศในฐานะประเทศปลาย ทางมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ทุกวันนี้ ญี่ปุ่นเป็นตลาดการค้าบริการทางเพศใหญ่ที่สุดในประเทศพัฒนาแล้ว

มีการประมาณการว่า อุตสาหกรรมการค้าบริการทางเพศมีมูลค่าเท่ากับ 1-3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (Gross National Product-GNP) คือเท่ากับงบประมาณป้องกันประเทศญี่ปุ่น1

เนื่องจากการค้าประเวณีเป็นสิ่งผิดกฎหมายในญี่ปุ่นจึงมีความพยายามหลายๆ อย่างในการเสนอทางเลือกหรือทางเลี่ยงอื่นๆ

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมค้าบริการทางเพศในญี่ปุ่นมีลักษณะเห็นได้ชัด (bold) มีให้เห็นได้ทั่วไปเป็นปกติ (ubiquitous) และมีความหลากหลาย (diverse) อย่างไม่น่าเชื่อ

อุตสาหกรรมค้าบริการทางเพศญี่ปุ่นมีความหลากหลายในเรื่องรูปแบบและกระจัด กระจายอย่างกว้างขวาง เขตท่องราตรี (red light) ในโตเกียวที่ขึ้นชื่อ เช่น คาบูกิโจ (kabukicho) อิเคะบูคูโระ (Ikebukuro) รบปงงิ (Roppongi) ชินจูกุ (Shinjuku) ชิบูย่า (Shibuya) เป็นต้น

โดยเฉพาะรบปงงินั้นให้บริการลูกค้าชาวผิวขาว จึงมีผู้หญิงคอเคเชี่ยนและฟิลิปปินส์เสนอขายบริการทางเพศมากเป็นพิเศษ

เซ็กซ์คลับ (sex club) ต่างๆ ที่เห็นได้ชัดจะตั้งอยู่ใกล้ตัวสถานีรถไฟต่างๆ บนสายยะมะโนะเตะ (Yamanote Line) ซึ่งเป็นสายรถไฟหลักที่วิ่งครอบคลุมเขตธุรกิจใจกลางเมืองโตเกียว เนื่องจากเข้าถึงได้โดยง่ายและสะดวกอย่างยิ่งสำหรับนักธุรกิจ มนุษย์เงินเดือน (Salary man) ซึ่งต้องการใช้บริการต้องการก่อนหรือหลังเลิกงาน

ในญี่ปุ่น คำว่า ฟูโชะขุ (Fuzoku) เป็นคำรวมๆ ที่เกี่ยวกับการให้บริการในเรื่องทางเพศสำหรับผู้ใหญ่ ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่โสเภณีไปจนถึงการเช่าวีดิโอ

คำนี้เข้าไปอยู่ในพจนานุกรมของชาวตะวันตกแล้ว แต่เมื่อกล่าวถึงคำคำนี้ในเชิงธุรกิจจะหมายถึงธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับเพศ โดยตรง มักใช้บรรยายสถานที่ตั้งร้านให้บริการทางเพศที่สนับสนุนอุตสาหกรรมบริการทาง เพศหรือร้านให้บริการทางเพศบริหารโดยองค์กรอาชญากรรม Soap land, Pink Salon, Telephone Club, De-to Club, Health Club และ Delivery Health ฯลฯ และยังมีธุรกิจบริการทางเพศในรูปแบบอื่นๆ อีกมากในญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง



หลากหลายและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อุตสาหกรรม บริการทางเพศในญี่ปุ่นมีความหลากหลายมากและให้ความสำคัญกับความสะดวก ประหยัดทั้งเงินและเวลา พร้อมทั้งมีการปรับตัวให้สอดคล้องต่อความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ญี่ปุ่นตลอดเวลาด้วย

นี่เป็นบางส่วนของอุตสาหกรรมบริการทางเพศญี่ปุ่น

Take-out Bar หรือ De-to Bar

Take-out Bar เป็นคำเรียกภาษาอังกฤษบางครั้งก็ใช้คำว่า Hostest Bar แต่คำภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า De-to Bar จากคำสัมภาษณ์มาม่าซังไทยเธอบอกว่า คำนี้เรียกให้ตรงและรับรู้ในหมู่ผู้หญิงค้าบริการว่า ร้านออกแขก ไม่ใช่บาร์นั่งดื่มทั่วไป2 ในบาร์ ผู้หญิงโฮสเตสซึ่งจะคอยให้บริการแขกผู้ชายซึ่งซื้อเครื่องดื่มให้ดื่ม จ่ายเงินให้ผู้จัดการร้านหรือมาม่าซังเมื่อเลือกผู้หญิง ต่อจากนั้น ผู้หญิงถูกส่งไปห้องพักแขกในโรงแรมหรือไปด้วยกันในโรงแรมใกล้ๆ เพราะว่าการมีเพศสัมพันธ์ทำไม่ได้ที่ในร้าน ฝรั่งจึงเรียกว่า เอาออกไปข้างนอก (take out)

แต่คำว่า เดโต ในภาษาญี่ปุ่นเป็นคำธรรมดาหมายถึงการที่ชายหญิงชักชวนไปเที่ยวกันสองต่อสอง แต่เป็นที่รู้กันของคนทั่วไปเข้าใจว่ารวมถึงไปมีเพศสัมพันธ์ด้วยกัน



เซ็กซ์คลับ (Sex Club)

เซ็กซ์คลับเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วทั้งเปิดเผยและหลบซ่อน

ยกตัวอย่างเช่น คลับฟิลิปปินส์ในจังหวัดชิบะ (Chiba) โฆษณาว่าเป็นภัตตาคารบริการอาหารฟิลิปปินส์ แต่เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิดมีการให้บริการทางเพศชั้นบนของร้าน

โดยแบบแผนทั่วไป ผู้หญิงฟิลิปปินส์มาญี่ปุ่นด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 6 เดือน ใน 3 เดือนแรกพวกเธอทำงาน "ประจำ" ในคลับ หลังจากนั้น ก็เริ่มนัดลูกค้านอกคลับซึ่งภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า เทนไง (tengai)3 และนำลูกค้ากลับเข้ามาในร้านเพื่อมีความสัมพันธ์ทางเพศในร้านซึ่งภาษา ญี่ปุ่นเรียกว่า โดะฮัน (dohan)

โดะฮันนี้ ทำเพื่อเป็นแรงจูงใจลูกค้า วิธีการนี้เป็นทั้งการดึงดูดลูกค้าและผลตอบแทนให้กับผู้หญิงด้วย หากผู้หญิงคนไหนดึงลูกค้าได้น้อยก็จะถูกตัดรายได้ หรือบางทีถึงขั้นให้ออก เพราะเจ้าของร้านอ้างว่ารายได้ทางร้านน้อยไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้

จากการสัมภาษณ์ผู้หญิงไทยค้าบริการที่เมืองอิบารากิ (Ibaragi) เธอบอกว่าผู้หญิงมักถูกแกล้งจากมาม่าซังโดยไม่เชียร์แขกให้กับเธอ ดังนั้น พวกเธอจึงต้องเอาใจและให้เงินบางส่วนตอบแทนมาม่าซังด้วย4

แต่บางรายก็เป็นข้อต่อรองของผู้หญิงซึ่งทำเงินให้ร้านได้มากแต่ทางร้านจ่าย ค่าตอบแทนไม่ดี เลยย้ายร้านไป ข้อมูลนี้ผู้หญิงเปรู 3 คนอายุราว 20 ปี ผิวขาว และเป็นดาราของร้านบาร์ฟิลิปปินส์ที่ย่านกีออง (Gion) เมืองเกียวโตเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า

"...มาม่าซังฟิลิปปินส์ให้น้องสาวฟิลิปปินส์ที่พูดภาษาสเปนได้ติดต่อพวกเธอ ให้มาอยู่ที่ร้าน บอกว่ารายได้ที่ร้านดีมาก แต่ที่ไหนได้ เจ้าของร้านคือสามีญี่ปุ่นหาแขกไม่ได้ มีแขกน้อยมาก เลยดึงพวกเธอให้มาเป็นดาราเรียกแขกประจำร้าน เมื่อทำงานแล้ว ลูกค้าเริ่มเข้าร้านพวกเธอจึงต่อรองขึ้นค่าจ้าง แต่เจ้าของร้านกลับไม่ยอม พวกเธอยอมทำงานร้านนั้นต่อ 1 เดือน น้องสาวมาม่าซังฟิลิปปินส์เกลี้ยกล่อมโดยแนะนำเทคนิคการเอาใจลูกค้าและสอน ภาษาญี่ปุ่นให้ พวกเธอปฏิเสธเพราะพวกเธอมีหน้าตาสวย ขาว และมีคนหนึ่งพูดภาษาญี่ปุ่นใช้ได้อยู่แล้ว"

สถานการณ์ของพวกเธอกับเจ้าของร้านแย่ลง เจ้าของร้านเอาผู้หญิงมองโกเลียมานั่งอีกคน พวกเธอเห็นแล้วน่าสงสารมาก ผู้หญิงมองโกเลียมาอยู่เกียวโต 6 เดือนแล้วยังไม่มีงานทำ เจ้าของร้านเอามานั่งโดยไม่จ่ายเงินเดือนให้เธอเลย ผู้หญิงมองโกเลียยอมไปกับแขกหลังเลิกงานได้ค่าตัวเพียง 8,000 เยน ( 2,800 บาท) ก็ยอมไป

"แต่พวกฉันไม่ยอมหรอกนะ..."

ต่อมายังไม่ทันครบหนึ่งเดือน ผู้หญิงเปรูทั้งสามคนได้ย้ายไปทำงานที่บาร์ในเมืองโกเบซึ่งเป็นเมืองที่มี นักท่องเที่ยวต่างชาติมากและได้เงินตอบแทนมากกว่า6 ผู้เขียนได้คุยกับคนญี่ปุ่นเจ้าของบาร์ฟิลิปปินส์คนดังกล่าว เขาเล่าว่า7

"...ผมกำลังเจรจาขายร้านนี้ไปให้คนอื่นทำต่อ แขกมาเที่ยวที่กิออง เกียวโตน้อยลงมากจนมีบาร์ปิดไปหรือเซ้งให้คนอื่นทำต่อหลายแห่งแล้ว วิธีช่วยพยุงกิจการร้านของผมคือ หาผู้หญิงค้าบริการชาวต่างชาติเข้าร้าน เช่นที่ร้านเคยได้ผู้หญิงเปรูมาดึงลูกค้า หากลูกค้ามาเป็นกลุ่มครบ 4 คนผู้หญิงเปรูจะเต้นระบำเปลื้องผ้าให้ดูตอน 5 ทุ่ม ดังนั้น ค่าตัวผู้หญิงพวกนี้จึงแพง อีกทั้งผู้หญิงค้าบริการชาวต่างชาติเป็นที่ต้องการของบาร์หลายแห่ง บาร์ของผมเป็นบาร์ฟิลิปปินส์มีแต่ผู้หญิงฟิลิปปินส์ ส่วนผู้หญิงมองโกเลียมาของานทำเอง และเธอเป็นภาระกับร้านผมมากกว่า เมื่อเป็นอย่างนี้ ผมไม่มีทางเลือกอื่นคงต้องเซ้งร้านนี้ให้คนอื่นทำต่อ..."

(เป็นงานวิจัยที่ได้รับทุนจาก The Nippon Foundation Asian Public Intellectual 2008-2009)



เชิงอรรถ :

1 Japan : Culture and Crime Promote Commercial Markets of Sexual Exploitation (The Office to Monitor and Combat Trafficking in Persons, U.S. Department of State, 2006 : 113.

2 สัมภาษณ์มาม่าซังไทยที่บาร์นั่งดื่มที่เขตนัมบะ โอซาก้า 16 มกราคม 2009

3 นอกร้าน

4 สัมภาษณ์ผู้หญิงไทยที่ บาร์ เดโต ที่เมืองอิบารากิ 2 กุมภาพันธ์ 2009

5 ผู้หญิงเปรูพูดภาษาสเปน ดังนั้น น้องสาวมาม่าซังฟิลิปปินส์ซึ่งพูดภาษาสเปนไม่ได้ จึงเป็นคนนำพวกเธอเข้ามาทำงานในบาร์ญี่ปุ่น สัมภาษณ์ผู้หญิงฟิลิปปินส์ที่เดโตบาร์ ที่ กิออง เมืองเกียวโต 15 กุมภาพันธ์ 2009

6 สัมภาษณ์ผู้หญิงเปรู 3 คนที่บาร์ฟิลิปปินส์ กิออง เมืองเกียวโต 20 กุมภาพันธ์ 2009

7 สัมภาษณ์คนญี่ปุ่นเจ้าของบาร์ฟิลิปปินส์ ย่านกีออง เกียวโต 25 กุมภาพันธ์ 2009
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  














AV Community Since 2009 : AVCollectors.com - Advertising please contact [email protected]