ในชีวิต ไม่เคยสอบเอ็นทรานซ์ซะด้วยสิ
เรียนสายอาชีพ ปวช. ปวส. แล้วก้อสอบคัดเลือกเฉยๆ ตอนเข้า ป.ตรี
จบมา จนทุกวันนี้ ก้อเป็นอาจารย์พิเศษ ที่มหาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง
เด็กๆ ลูกศิษย์ผม ที่เข้ามาเรียน มันก้อไม่เห็นว่า จะมีปัญญาวิเคราะห์ปัญหาอะไรซักเท่าไหร่นัก
คำถามง่ายๆ ยังนั่งงงกันไปไก่ตาแตก
นี่คงเป็นการยืนยันได้ระดับนึงว่า GAT PAT มันไม่ได้ช่วยเสริมสร้างระบบการคิดได้ดีเท่าที่ควร(หรือเหมาะสมกับงบที่เอามาแดกกัน)
การฝึกการวิเคราะห์ มันต้องเจอของจริง เจองานจริง ปัญหาจริงที่มันเป็นเรื่องหน้าสิ่วหน้าขวานจริงๆ
อดรีนาลีนจะถูกปล่อยออกมา เพื่อกระตุ้นเซลทุกส่วนของร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อ ระบบประสาท และสมอง
ซึ่งจะทำให้ ศักยภาพของเราเพิ่มขึ้น และถูกกดดัน ให้ต้องหาทางแก้ปัญหาให้ได้
และกระบวนการคิดเหล่านี้ จะถูกบันทึกรูปแบบไว้โดยอัตโนมัติ เมื่อใดก้อตามที่เจอปัญหาลักษณะนี้อีก จะมามารถแก้ปัญหาได้ หรือ ปรับเปลี่ยนวิธีการคิดได้ โดยไม่ต้องรอให้ อดรีนาลีนหลั่งออกมากระตุ้น
เหมือนคนที่ฝึกศิลปการต่อสู้จนชำนาญ ร่างกาย และสมาธิ จะตอบสนองได้รวดเร็วกว่าคนที่ไม่ได้ฝึก เมื่อเจอกับสถาณการณ์ที่ต้องต่อสู้ขึ้นมาจริงๆ
ถ้ามัวแต่ไปนั่งคิดวิเคราะห์ตอนนั้น ว่า ศัตรูจะมาทางไหน จะทำร้ายเรายังไง คงได้ไปเล่าให้ยมบาลฟังแทนฮะ

การศึกษาไทยในทุกวันนี้ คนสอน สอนด้วยหน้าที่ คนเรียน ก้อ เรียนเพื่อไปสอบเอาคะแนน
คนสอน ส่วนมาก จะไร้ซึ่ง จิตสำนึกของการเป็น "ผู้ให้ความรู้" ลืมนึกถึงไปว่า ตอนที่เค้าเรียนรู้มา ครูสอนเค้ามายังไง
ก้อด้วยการถูกกลืนกินจิตใจและอุดมการณ์ จากสิ่งล่อใจต่างๆ เช่น ตำแหน่ง ดีกรีทางวิชาการต่างๆ ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้มีตำแหน่ง โดยไม่สนใจวิธีการ
ผมเอง สอนเด็ก ไม่เคยให้เด็กหวังคะแนน(แม้มันจะหวังกันทุกคนก้อเถอะ)
เคยมีเด็กมาถามว่า งานที่ทำออกมา มันไม่ดีไม่สวย คะแนนจะเป็นไงบ้าง(ผมสอนวิชาปฏิบัติงานเชื่อมโลหะ)
ผมเลยตอบไปว่า เมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว ผมเห็นเด็กคนนึง ที่ยังไม่รู้ว่า การเชื่อมคืออะไร ทำยังไงบ้าง และยังเชื่อมเหล็กไม่เป็น
แต่นาทีนี้ ผมเห็นเด็กคนนั้น เชื่อมงานมาส่งผมได้ ผมดีใจแล้ว
เจ้าตัวเค้าจะไม่ดีใจบ้างเลยหรอ ว่าตอนนี้ เค้าเชื่อมเป็นแล้ว เค้ารู้แล้ว ว่าเชื่อมเหล็ก ทำยังไง ต่างจาก สามชั่วโมงที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่ผมอยากให้ลูกศิษย์ ไม่ใช่คะแนน แต่เป็นวิชา เพราะตอนที่ออกไปทำงาน เราใช้วิชาทำงาน ไม่ได้ใช้คะแนน