เพิ่มเติม จากเว็บของปอเต๊กตึ๊ง ระบุชัด คนขับซีวิค อายุ 18 แต่ทำไมพอไปถึงดรงพัก อายุลดลงเหลือ 16 ล่ะ
จาก
http://www.pohtecktung.org/rescue/เก๋งเสยท้ายตู้ กระเด็นตกโทลล์เวย์ ดับสยอง 8 ราย
ธันวาคม 28th, 2010 | Author: admin
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. 53 เจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมอาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิต หลายราย จากทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ และด้านล่างบนถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้า) แขวงลาดยาว เขตจตุจักร เมื่อได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วิภาวดีฯ ในที่เกิดเหตุด้านล่างบนถนนวิภาวดีฯ เจ้าหน้าที่ถึงกับสะเทือนใจเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า พบร่างผู้เสียชีวิตกระจัดกระจายจากแรงเหวี่ยงอย่างรุนแรงจากที่สูง ตกลงกระแทกกับพื้นด้านล่างร่างกายแหลกเหลว กระดูกหักเละไม่มีชิ้นดี 6 ศพ โดยมีศพกระเด็นลงมาค้างสะพานลอยข้ามถนน 1 ศพ อีกศพกระเด็นตกลงไปในคูน้ำข้างทางอีก 1 ศพ ขณะที่พื้นถนนด้านล้างเต็มไปด้วยเศษกระจก เศษเหล็กเต็มไปหมด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รีบปิดการจราจร เพื่อเคลียร์พื้นที่ ส่งผลให้รถที่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯติดยาวเหยียดไปจนถึงรังสิต
ขณะที่บนทางด่วนจุดเกิดเหตุพบรถรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีขาว จอดอยู่กลางถนนสภาพหน้ารถถูกชนอย่างแรงพังยับเยิน จนล้อหน้าฝั่งซ้ายหลุดออกมา โดยมีรถตู้โดยสาร สีขาว วิ่งระหว่าง ม.ธรรมศาสตร์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ พลิกคว่ำสภาพรถพังยับเยิน เนื่องจากถูกรถเก๋งคู่กรณีชนอย่างจัง โดยมีคนเจ็บนอนร้องครวญครางอยู่ในรถทั้ง 2 คัน รวม 7 คน ทั้งนี้จากการสอบถามเบื้องต้นได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่รถตู้โดยสารกำลังวิ่งมุ่งหน้าส่งผู้โดยสาร มาถึงจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นรถเก๋งคู่กรณีที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเกิดพุ่งเข้าชนท้าย ทำให้รถตู้เสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ กระจกแตกผู้โดยสารหลุดกระเด็นร่วงลงมาเสียชีวิตอย่างอนาถดังกล่าว เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 8 ศพ เป็นผู้ชาย 5 คน ผู้หญิง 3 คน ส่วนคนเจ็บทั้งหมด 7 คน เป็นผู้ชาย 4 คนผู้หญิง 3 คน เจ้าหน้าที่ฯ นำตัวส่ง รพ.วิภาวดีรังสิต ช่วยเหลือเป็นการด่วนแล้ว
สำหรับรายชื่อคนเจ็บ ประกอบด้วย 1.นายวรัญญู (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี 2.นายสุนทร (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี 3.นายวิศรุต (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี 4.นายโมฮัมหมัด สัญชาติมัลดีฟส์ อายุ 31 ปี
5.น.ส.อรชร (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี เป็นคนขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค 6.น.ส.กันณภัส ปัญญาประเสริฐ อายุ 23 ปี อาการสาหัส 7.หญิงไม่ทราบชื่อ
ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด 8 ราย ประกอบด้วย 1.นายภิญโญ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนวิภาวดีรังสิต 2.ดร.ศาสตรา (สงวนนามสกุล) อายุ33ปี 3.นายปรัชญา (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี 4.นายอุกฤษฎ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี 5.น.ส.สุดาวดี (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี 6.นางนฤมล (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี 7.นายเกียรติมันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี 8.น.ส.ตรอง (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี
ทาง พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง สวส.สน.จร.วิภาวดี เปิดเผยว่า รถยนต์ได้ขับมาด้วยความเร็ว และพุ่งเข้าชนท้าย รถตู้อย่างจัง จนเสียหลักพลิกคว่ำ ไปชนกับรั้วกำแพงปูน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว และได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรเพิ่มเติมต่อไป.
ปฎิบัติหน้าที่ กู้ภัย407,411,413,421,423/กู้ภัย403,433,451/กู้ภัย481,483,485
อาสาสมัครร่วมปฏิบัติหน้าที่ ศิลปิน8,22,75,76,78,103,236/จุดวิภาวดีฯ,จุดบางเขน,จุดดอนเมือง,จุดทุ่งสองห้อง และใกล้เคียง
ภาพและข่าวโดย กู้ภัย424,นายชัยธวัช จนท.ศูนย์ข่าวประชาสัมพันธ์,คำรพ47,58,157
มูลนิธิฯ ขอสงวนสิทธิ์การนำเสนอ หรือเผยแพร่ข้อมูลบางประการ อันเป็นส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์.
Posted in ข่าวอุบัติเหตุ | Comments Closed
ที่จริงอยากเอารูปที่ปอเต็กตึ๊งมาแปะด้วย แต่สลดใจมากครับ
ข้อสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มีการยืนยันความผิดที่ชัดเจน แต่จากการเงียบหายของคู่กรณีกระแสสังคมเลยกดดันทันที อีกทั้งมีแนวโน้มจะเป็นคดีระหว่างชนชั้น ทำให้กลุ่มที่เริ่มรู้ว่าตัวเองมี "เสียง" พยายามใช้ "จารีต" ประนามคู่กรณี
-
ปกติเวลามีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน ร้อยเวรมักนัดไกล่เกลี่ย แต่ในคดีนี้ ไม่มีการกระทำดังกล่าว- จากความเห็นที่กดดัน สรุปประเด็นได้คือ
- เป็นช่องว่างระหว่างชนชั้น ที่เคยมีตัวอย่างมาแล้วมากมาย ว่าหากเกิดในตระกูลหรือครอบครัวที่มีเงิน มีอิทธิพล หากกระทำผิด ก็มัก ไม่ต้อง "รับผิด" แต่หากเกิดเหตุแบบเดียวกันกับคนทั่วไป จะถูกกฏหมายเล่นงานทันที การรับรู้ในความเหลื่อมล้ำจึงเป็นประเด็นหลัก
- ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ มีจำนวนมาก และเป็นเหตุสะเทือนขวัญ แต่การนำเสนอของสื่อหรือทางเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดความกังวลว่า น่าจะเป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์แก่คู่กรณี เช่น การเบี่ยงประเด็นเรื่องสภาพรถตู้ การเปลี่ยนชื่อคู่กรณี การ "ลด" อายุ หรือการออกมากดดันกระแสสังคมโดยจะดำเนินคดีหมิ่นประมาทของโฆษก สตช. การให้สัมภาษณ์ตำหนิคนขับรถตู้ ของ รอง ผบช.จราจร หรือการที่นักวิชาการอ้างว่าน่าจะมีรถของบุคคลที่ 3 มาเกี่ยวข้อง
- การพยายามขอความเห็นใจจากสังคมของผู้ปกครอง โดยยอมมา "ขอโทษ" แต่ไม่รับผิด ไม่ช่วยเหลือใดใด อ้างว่าฝ่ายตนก็บาดเจ็บเสียหาย มีการนำรูปน้องที่ปิดแผลที่หน้าผาก ทั้งๆ ภาพในที่เกิดเหตุไม่ปรากฏว่ามีบาดแผลแต่อย่างใด อีกทั้งการเปิดพื้นที่ของสื่อเนชั่นที่ให้ฝ่ายรถเก๋งได้ใช้เต็มที่ มีการปล่อยข่าวเข้าข้างเป็นระยะ ตลอดจนการลบหน้าเว็บข่าวออนไลน์ที่ระบุตัวตนของคนขับทิ้ง (งานนี้กนกเจ็บตัวมาก เพราะดันไปแสดงอาการเลือกข้างชัดไปหน่อย)
จากจำนวนคนคลิกกว่า 200,000 น่าจะพอบอกทิศทางอะไรบางอย่างเกี่ยวกับกระแสสังคม
ที่น่าตระหนกก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ สามารถชี้นำอะไรได้หรือไม่
ไม่ใช่เรื่องความถูกผิด แต่เป็นการตัดสินโดยจารีตแบบโบรารบนเครื่องแห่งยุคสมัย Facebbok ถ้า Mark ยัไม่กลับเมกา มันจะว่ายังไงเนี่ย....