พฤษภาคม 13, 2025, 12:52:48 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: AVC เปิดเฟสและโซเชี่ยลใหม่ เพื่อนๆช่วยกดไลค์ติดตามด้วย
เวบเข้าสู่ปีที่ 16 แล้ว ท่านสามารถช่วยเหลือเวบได้โดยสมัคร VIP (ตลอดชีพ) อ่านคอมเมนท์จากผู้ใช้งานจริง ที่นี่
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: พิพิภัณฑ์เซ็กส์ อนาคตอันห่างไกลของประเทศไทย  (อ่าน 3200 ครั้ง)
pokydoge
AV Devotor (VIP)
ตะกวดไซเบอร์
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52



« เมื่อ: เมษายน 07, 2010, 11:06:42 PM »

 Grinเป็นข้อเขียนของบล็อคเกอร์และสื่อมวลชนท่านหนึ่ง ลองอ่านดูครับน่าสนใจดี Kiss


                                                  พิพิธภัณฑ์เซ็กส์
                                          มองความเสียวให้เป็นอาร์ท



                  ในเอกสารประวัติศาสตร์เลสเบี้ยน  ที่บันทึกโดยกลุ่มเลสเบี้ยนในนิวยอร์คนั้น มีบทความหนึ่งที่เรียกร้องให้สังคมชายหญิงมองพวกเขาเป็น "สิ่งปรกติ" ในโลกไม่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตทั่วๆ ไป


                  นัยหนึ่งของความคิดนี้ก็คือ โลกทางเพศไม่ควรตกอยู่ในสังคมวาทกรรมหรือสังคมที่วัดประเมินหรือมองอะไรตามเพศที่ติดตัวมา เช่น ผู้ชายไม่ควรเย็บผ้า ต้องชกมวยและซ่อมรถ, ผู้หญิงต้องเข้าครัว ห้ามเล่นกีฬาหนักเหมือนผู้ชาย
 


                ความคิดนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้นในศตวรรษที่ 21  เมื่อมองจากการเปลี่ยนแปลงทางโลกตะวันตกซึ่งมีอาการสอดรับการแนวคิดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ (ดังจะเห็นว่ามีกลุ่มเพศทางเลือกเกิดขึ้นมากมายและสร้างพื้นที่ให้กับตัวเองได้มากขึ้น)
 

                ถ้าเป็นแบนนี้, กรณีที่เคยมีการวิจารณ์เรื่องความเหมาะสมเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของ พิพิธภัณฑ์เซ็กส์ ในนิวยอร์คก็น่าจะมองข้ามไป หรือไม่ใช่ประเด็นที่ต้องวิตกกังวลมากมาย
                 การเกิดขึ้นของพิพิธภัณฑ์เซ็กส์ในมหานครอย่างนิวยอร์คนั้น สร้างความคิดที่ว่าชาติต่างๆ ควรจะมีสถานที่แบบนี้หรือเปล่า
 

                ความจริง, พิพิธภัณฑ์เซ็กส์นั้น เมื่อเกิดขึ้นมาผลดีของมันอย่างหนึ่งก็คือ มันช่วยเขย่าและสร้างปฏิกิริยาระหว่างคนสอง generation ระหว่างอนุรักษ์นิยมกับพวกหัวใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติทางสังคม มันคล้ายๆ เรื่องการสิทธิในการฆ่าตัวตายหรือสิทธิในการทำแท้ง ที่ยังไม่มีคำตอบ
 

                พิพิธภัณฑ์เซ็กซ์เปิดทำการเป็นครั้งแรกในนครนิวยอร์กพร้อมกับนิทรรศการ NYC Sex : How New York City Transformed Sex in America หรือที่แปลว่า "เซ็กซ์ในนครนิวยอร์ก : วิธีที่นครนิวยอร์กเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเซ็กซ์ในอเมริกา"
 ในพิพิธภัณฑ์นี้นำเสนอเรื่องเซ็กซ์ทั้งในแง่มุมของประวัติศาสตร์, การศึกษา, ความบันเทิง และความเร้าใจ โดยนำเสนอเรื่องเซ็กซ์ตั้งแต่ช่วงกลางคริสต์ศวรรษที่ 19 เป็นต้นมา


                ซึ่งสิ่งที่นำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นี้ รวมถึงภาพถ่ายโปสเตอร์, งานศิลป์, วัตถุ, เอกสาร, ภาพยนตร์ และการ์ตูน โดยมีตั้งแต่สิ่งที่ดูเรียบร้อยไปจนถึงสิ่งที่โจ่งแจ้ง
 แดเนียล กลุค ผู้อำนวยการบริหารของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เคยบอกไว้ว่า เขาไม่ได้มีความฝันมาตลอดชีวิตที่จะเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งเซ็กซ์

                 แต่อยู่ดีๆ ก็ได้ไอเดียนี้ขึ้นมาเอง กลุคคิดว่าคิดว่าถ้าหากสังคมมีพิพิธภัณฑ์โมเดิร์น อาร์ท แล้วทำไมนิวยอร์คจะมีพิพิธภัณฑ์เซ็กส์ไม่ได้ (ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องจ่ายค่าเข้าชม 17 ดอลลาร์ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะปิดทำการเวลา 21.00 น.  ส่วนเวบไซต์ของพิพิธภัณฑ์นี้อยู่ที่ http://nycsex/museumofsex.com)
 

                  ผู้บรรยายประจำพิพิธภัณฑ์นี้คือ แกร์ดี เทอร์เนอร์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการของสมาคมประวัติศาสตร์นิวยอร์ก โดยหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของเขาในอดีต คือการจัดนิทรรศการ Without Sanctuary Lynching Photography in America (ปราศจากที่หลบภัย ภาพถ่ายการสังหารคนด้วยศาลเตี้ยในอเมริกา) ที่มีจำนวนผู้เข้าชมสูงมาก
 

                 คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านประวัติศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์เซ็กซ์ มีจำนวนสมาชิก 14 คน โดยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการในมหาวิทยาลัย
 ประเด็นที่น่าสนใจกึ่งๆ ประหลาดใจก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เซ็กซ์ขึ้นอย่างจริงจังในสหรัฐ บางคนบอกว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าอเมริกายังคงเป็นชาติที่หัวโบราณในเรื่องเซ็กซ์


               ว่ากันตามตรงก็น่าจะจริงในชาติอื่นๆ มีพิพิธภัณฑ์เซ็กซ์อยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ฮัมบูร์ก (เยอรมนี), โคเปนเฮเกน(เดนมาร์ค), ปารีส(ฝรั่งเศส), อัมสเตอร์ดัม(ฮอลแลนด์), ญี่ปุ่น และกระทั่งเซี่ยงไฮ้" ซึ่งเป็นชาติที่น่าจะไม่มีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
 ก็เหมือนเดิมเพราะมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เซ็กส์ขึ้นมา สิ่งที่ถูกสะท้อนออกมาในทางหนึ่งก็คือ การต่อต้านที่จะให้มีสถาบันหรือสถานที่แบบนี้ในชาติอื่นๆ ทั้งที่ความจริงยังไม่ได้เงี่ยหูฟังหรือเบิ่งตาดูเลยว่า เนื้อหา(content)ของพิพิธภัณฑ์นั้น มีอะไรและเป็นอย่างไรบ้าง


               เนื้อหาหลายส่วนของสถานที่แบบนี้ สะท้อนให้เห็นถึง "ความนิยมในเซ็กซ์" ที่เฟื่องฟูขึ้นในช่วงหลังสงครามกลางเมือง จนถึงความพยายามของฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการปราบปรามการทำแท้งและเกย์ ในช่วงต้นคริสต์ศวรรษที่ 20
 ฝาผนังแห่งหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ เป็นที่จัดแสดงฟิล์มภาพตั้งแต่ก่อนปี 1920 ซึ่งเป็นภาพที่แสดงให้เห็นกิจกรรมทางเพศ และภาพเปลือยเต็มตัว ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นการจัดแสดง Tijuana Bibles ซึ่งเป็นหนังสือการ์ตูนที่ล้อเลียนดาราภาพยนตร์ และคนดังโดยแสดงภาพของคนเหล่านี้ ขณะประกอบกิจกรรมที่หยาบโลน
 

                งานแสดงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนก "เนื้อหนังและเรื่องสัปดน" โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังประกอบด้วยแผนก "พิสดาร", "อุปกรณ์ประกอบ", "การแปลงเพศ", "ผู้ชายนุ่งน้อยห่มน้อย", "ผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อย", "ทอม/ดี้", "โฮโมอีโรติก" และ "Marketing King"
 

              แดเนียล กลุค เคยได้ปริญญาด้านศิลปะและปริญญาด้านธุรกิจจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และเขากล่าวว่า งานแสดงจากประวัติศาสตร์บางชิ้น เป็นสิ่งที่เรียบร้อยมาก แต่ทศวรรษ 1960 และ 1970 ถือเป็นยุคทองของภาพโป๊ โดยเราไม่ได้พยายามจะเร้าใจผู้ชม แต่เราจะจัดแสดงบางส่วนจากหนังเรื่อง Deep Throat ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของแฟชั่นหนังโป๊และถือเป็นหนึ่งในหนังที่ขายดีที่สุดตลอดกาล
 

             จะเห็นได้ว่าเมื่อมองจากเนื้อหา ตัวพิพิธภัณฑ์ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อขายหรือกระตุ้นความเสียวให้กับมหานคร หากแต่เป้าหมายของพิพิธภัณฑ์ คือการให้การศึกษา และความบันเทิงไปพร้อมๆ กัน
 

                ความคิดเห็นของกลุคนั้น มองอย่างกลางๆ ก็ต้องบอกว่า เขาต้องการให้สังคมมองเซ็กส์เป็นเรื่องของวัฒนธรรม เรื่องของศิลปะที่นำเสนอผ่านเรื่องราวและท่าทางรวมไปถึงความนิยมของมนุษย์ที่มีเซ็กส์นั่นเอง


               เซ็กส์ก็เหมือน cultute ตัวหนึ่งไม่ต่างจากภาพยนตร์ดนตรีหรือภาพวาด คือสิ่งซึ่งสังคมต้องการเสพและเรียนรู้ ดูเหมือนว่าตะวันตกเองก็มีสายตาที่มองเรื่องราวเหล่านี้เป็นศิลปะ ขณะที่เอเชียหรืออีกหลายชาติในแถบๆ นี้จะมองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องสัปดน(ที่ตัวเองและมนุษยชาติก็ไม่เคยปฏิเสธ)
 

              มีข้อมูลที่น่าสนในเมื่อเขาบอกว่าจะมีแผนกอินเทอร์แอคทีพ ในพิพิธภัณฑ์ด้วย โดยหนึ่งในประเด็นที่จะได้รับการนำเสนอในแผนกนี้คือ เรื่องที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมเกย์ในโรงอาบน้ำในปี 1903 ซึ่งมีภาพตำรวจนอกเครื่องแบบในโรงอาบน้ำ เป็นคนที่ชี้ตัวให้ตำรวจในเครื่องแบบดูว่า ใครบ้างที่ประกอบกิจกรรมทางเพศ
 

             บันทึกคำให้การของตำรวจนอกเครื่องแบบในเหตุการณ์นั้นกลายเป็นเรื่องที่น่าขันมากในสายตาของผู้อ่านในยุคปัจจุบัน โดยมีผู้มาชมพิพิธภัณฑ์ จะได้อ่านบันทึกเหล่านี้และสามารถอ่านออกเสียงดังๆ ได้ด้วย


                 สำหรับกรุงเทพนั้น ต้องรอให้ความคิดแบบ “วิคตอเรียน” หมดไปก่อน ซึ่งก็คงประมาณต้องล้างโลกกันใหม่ คือให้โลกแตกก่อน ประมาณนั้นทีเดียว

                  แหมก็ครั้งหนึ่ง ไปสอนหนังสือที่จุฬาฯคณะหนึ่ง  นักศึกษาคนหนึ่งเดินในโรงอาหาร ใส่ประโปรงเหนือหัวเข่า “เล็กน้อย” ยังโดยอาจารย์แก่คนหนึ่ง เรียกมาด่ากลางโรงอาหาร และบอกว่ามันคือเป็นความผิด


                 เรื่องพิพิธภัณฑ์นี่ จึงยังไม่ต้องถามถึง
                 เอาแค่แนวคิดแบบ “เจ๊เบียบ” ให้เจือจางในสังคมไทยหน่อย ก็น่าพอแล้ว
(แต่ก็ไม่ต้อง เอ็กซ์ตรีมหรือเวียส ขนาดทาทา ยัง หรอกนะครับ)
 Grin
บันทึกการเข้า
Newborn™AVC
Hentai Seeker & Collectors Professional Rank & Uehara Kasumi Fanclub Leader &
AV Highness Honour
คณะปฏิสนธิแห่งชาติ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 802


มาช่วยกันรักษาสังคมAVให้ยอดเยี่ยมตลอดไปกันเถอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 01:52:49 PM »

อ่านจบจนได้

แฮะๆ
บันทึกการเข้า

e001
AV Dedicator (VIP)
ผู้บัญชาการเอวีสูงสุด
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6819


« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 06:35:12 PM »

อ่านไม่ไหวคับ
บันทึกการเข้า
pokydoge
AV Devotor (VIP)
ตะกวดไซเบอร์
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52



« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 10, 2010, 10:32:07 AM »

 ขอโต๊ดที่ทรมานสายตาคนอ่านทุกท่าน หุหุ
Grinลงไว้เพื่อประดับความรู้เรื่องเซ็กส์ฮับ 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  














AV Community Since 2009 : AVCollectors.com - Advertising please contact [email protected]