จากกระทู้ "ราดหน้า" ฟี่เลยคิดว่าน้อง ๆ หลาย ๆ คนคงไม่ค่อยรู้ถึงเรื่องการ "คุมกำเนิด" ใช่มั้ยคะ
วันนี้ฟี่ก็เลยเอาเรื่องมาฝากกันล่ะ ไม่ต้องกลัวไม่ยาวค่ะ ฟี่คัดมาแต่เนื้อ ๆ เอาแบบย่อ ๆ (ยาวมากเดี๋ยวไม่อ่านกัน)
หลาย ๆ คนคงเคยเรียนในวิชาสุขศึกษาว่าด้วยเรื่องเพศศึกษากันแล้วใช่มั้ยว่ามันมีวิธีการคุมกำเนิดอะไรบ้างน่ะ
แน่นอน หลายๆ คนเชี่ยวชาญเรื่องเพศศึกษาภาคปฏิบัติกันด้วยแล้วละมั้ง
เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าอายนะคะ ควรจะอ่านและศึกษากันเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราและคนรัก
"รักเธอ ดูแลเธอ ให้เกียรติ์เธอและ ปกป้องเธอ" ปกป้องจากอะไร หรือจากใคร ?
ก็จากตัวคุณ ๆ ผู้ชายนั่นล่ะค่ะ . . . เพราะไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นมา คนที่ซวยที่สุดก็คือผู้หญิงค่ะ onion8

เอาล่ะ มารู้จักการคุมกำเนิดกัน
อย่างที่เคยเรียนมานะ การคุมกำเนิดมี 2 ชนิด ค่ะคือ แบบชั่วคราวและแบบค้างคืน เอ้ย ถาวร ฮ่า ๆ
พูดถึงถาวรก่อนนะ แบบถาวรก็คือการทำ "หมั๋น" ไม่เข้าใจผู้ชายสมัยนี้ ไม่ยอมทำมีแต่จะไล่ผู้หญิงไปทำซะอย่างเดียว
ผู้หญิงถ้าทำ ก็ต้องนอนโรงพยาบาล 2 วันล่ะค่ะ ส่วนผู้ชายกลับไปได้เลย (สบายกว่ากันเห็น ๆ)
แต่ครอบครัวส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่ค่อยนิยมทำกันค่ะ ด้วยเพราะปัจจัยหลาย ๆ ด้านและยังมีบุรุษบางคนเข้าใจผิดว่าถ้าทำแล้วจะทำให้ sex เสื่อม บอกเลยว่าไม่จริง
เอาล่ะ เข้าประเด็น ชั่วคราว
การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวนั้นมีหลายวิธีการด้วยกันเลยค่ะ ทั้งยาคุม(กิน ฝัง ฉีดเลือกเอา) ถุงยาง ห่วงอนามัย
โดยที่พูดมา สำหรับคุณผู้ชายมีอย่างเดียวคือ "ถุงยางอนามัย" ที่เหลือ สำหรับผู้หญิงทั้งนั้น . . .
ถุงยางหน้าตา ราคากลิ่นสี บลา ๆ ๆ คงไม่ต้องอธิบายกันแล้วว่ามันเป็นยังไง หรือหาซื้อที่ไหน รู้ ๆ กันอยู่นะ
มาพูดเรื่อง "ยา" เลยดีกว่า
ยาที่ว่านั้นมีทั้งแบบ ฝัง ซึ่งฝังครั้งหนึ่งอยู่ได้นานถึง 5 ปี แต่มีผลข้างเคียงนะบอกก่อนแล้วก็แพงมากด้วย
แบบ ฉีด อันนี้ต้งอฉีดทุก ๆ 3 เดือน แต่เคมีค่ะ โบกลัวเคมีท่องไว้ ยังไงก็ไม่ดีแน่ ๆ
ผู้ที่จะฉีดโดยมากจะเป็นหญิงที่แต่งงานมีลูกจนพอใจแล้วแต่ยังไม่อยากทำหมั๋นค่ะ
และยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งมีไว้สำหรับ "กิน" มี 2 ประเภทค่ะ คือแบบกินรายเดือน และกินแบบ หลังเสร็จกิจ หรือแบบฉุกเฉิน



เอาล่ะ เรื่องนี้อ่านไว้แล้วคิดดี ๆ นะคะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ถือว่าเป็นเพียงกี่ % จากคนที่กินยาคุมทั้งหมดก็ไม่รู้ล่ะ
ผู้หญิง คนหนึ่งเธออยู่กินกับแฟน ซื้อก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างธรรมดาของวัยรุ่นสมัยนี้ไปแล้วแม้ไม่อยากยอมรับก็ตาม
เธอทานยาคุมเป็นประจำ เพราะยังไม่พร้อม (ก็ดูป้องกันดีเนอะ) และไปพบแพทย์เพื่อปรีกษาแนวทางในการป้องกัน
ดูแล้วเธอป้องกันตัวเองอย่างดี จนไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ . . .
เมื่อมีรักก็มีเลิก ในที่สุดหลังจากคบกันมาเป็นปี ๆ เธอก็เลิกกับเค้าคนนั้นไป
แต่ฝันร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อเธอรู้ว่าเธอ "ท้อง" ทั้งที่เธอกินยาเป็นประจำ ไม่เคยขาด ทว่า แฟนของเธอไม่ยอมใช้ถุงยางเลย
เหตุเพราะ "ไม่มันส์" แค่นั้น และคิดว่าผู้หญิงก็กินยาอยู่แล้วคงไม่เป็นอะไร
แต่ยาก็กันได้แค่ 80% เท่านั้น และยิ่งเมื่อกินติดต่อกันนาน บางครั้ง ร่างกายก็มีการดื้อยาได้เช่นกัน
น่าเศร้า ถ้าเธอท้องตอนที่ร้กกันดี คงได้มีพิธีมงคลเกิดขึ้นแล้ว
คุณผู้ชายหลาย ๆ คนไม่เคยรู้ว่า การป้องกันโดยใช้ถุงยางน่ะดูสุดแล้ว ไม่ว่าจะกินยา หรือการหลั่งนอกนั่น ก็ป้องกันได้ไม่ 100%
ถ้า ผู้ชายคนนั้นยอมใช้ถุงยางเรื่องก็คงจบลงดีกว่านี้ . . . . . .
อย่างที่บอก สุดท้ายแล้วคนซวยก็เป็นผู้หญิง ฉะนั้น รักเธอดูแลให้เกียรติและปกป้องเธอนะคะ
ผมขอร้องแทนสาว ๆ ทุกคน